ตำรวจนครบาล ขานรับมติครม.ปิดกทม.14วัน เว้น 'ร้านหมูกระทะ-ส้มตำ' เปิดได้ปกติ
ตำรวจนครบาล ขานรับมติครม.ปิดกทม.-ปริมณฑล 14 วัน ป้องกันแพร่ระบาดโควิด-19 งัด พ.ร.บ.โรคติดต่อ เอาผิดกับผู้ฝ่าฝืน เว้น "ร้านหมูกระทะ-ส้มตำ" เปิดได้ปกติ
วันนี้(18 มีนาคม 2563) เวลา 14.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท. ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) และ รองผบช.น. ร่วมประชุมผ่านระบบคอนเฟอเรนซ์ เพื่อชี้แจงแนวทางการดำเนินงานตามมติ ครม. เรื่องปิดสถานบริการในพื้นที่กทม.และปริมณฑลชั่วคราว เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา ให้กับตำรวจในสังกัด
โดย พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวหลังประชุมว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการทุกสน.ดำเนินการ เพื่อจำกัดการแพร่ระบาด โดยใช้มาตรการป้องกันไม่ให้เคลื่อนย้ายคน หรือรวมตัวกันอยู่ในจุดขนาดใหญ่ เน้นการบังคับใช้กฎหมาย ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อและตามประกาศกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขเป็นหลัก รวมทั้ง ให้สน.ตรวจสอบต่างด้าวกลุ่มเสี่ยงที่เข้าพักตามสถานที่ต่างๆ
อีกทั้ง ป้องกันการตื่นตระหนก แม้คนไปเข้าคิวซื้อสินค้าก็ต้องไปช่วยดูแลอำนวยความสะดวก และจับกุมผู้กักตุนกับขายหน้ากากอนามัยเกินราคาอย่างเด็ดขาด ส่วนตำรวจที่กระทำผิดเรียกรับผลประโยชน์ หรือปล่อยปละละเลยเรื่องสถานบริการ ไม่มีการคาดโทษแล้วแต่จะลงโทษทันที
ผู้สื่อข่าวถามถึงการจัดงานปาร์ตี้ส่วนตัวที่พักอาศัยต่างๆ พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า ใช้คำว่าประชาสัมพันธ์ เป็นวินัยส่วนตัวและต่อสังคม ดังนั้น ต้องพยายามหลีกเลี่ยงให้มากที่สุด อาทิ ร้านอาหารควรจัดที่นั่งให้ห่างกันหรือลดจำนวนโต๊ะอาหารลง สำหรับสถานบริการเริ่มต้นด้วยการขอความร่วมมือก่อนโดยใช้มาตรการจากเบาไปหาหนักก่อน หากฝ่าฝืนมีเจ้าพนักงานร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีแล้ว มีความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อฯ มาตรา 52 มีโทษหนัก จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
"ทุกคนต้องช่วยกันคนไม้คนละมือ เมื่อถามว่าสถานที่ใดต้องขอความร่วมมือปิดบ้างนั้น วันนี้ต้องตีความตามการอยู่ร่วมกันไม่ใช่ตามตัวอักษร อะไรก็ตามที่มีคนอยู่มากและเป็นมูลเหตุที่จะทำให้แพร่ระบาดของโรคขอให้ละเว้นไปก่อน"
ด้าน พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวยืนยันว่า ตำรวจนครบาลพร้อมปฏิบัติตามมติ ครม.ที่กำหนดให้สถานบันเทิงในพื้นที่กทม. และปริมณฑล หยุดให้บริการ 14 วัน พร้อมกับได้เน้นย้ำกับตำรวจทุกนาย หากพบมีการเรียกรับผลประโยชน์จะดำเนินการเอาผิดทั้งวินัยและอาญาโดยไม่ละเว้นอย่างเด็ดขาด
สำหรับร้านหมูกระทะ ร้านส้มตำ ร้านที่เป็นร้านอาหารที่สามารถเปิดได้ตามปกติ อาจจะพิจารณาให้ร้านอาหารดำเนินการ เช่น การเพิ่มความเข้มงวดตรวจบุคคลเข้า-ออกร้าน เพื่อความปลอดภัยของผู้มาใช้บริการ ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณะสุข เป็นต้น ส่วนงานสังสรรค์ งานแต่งงาน และกิจกรรมที่มีประชาชนร่วมจำนวนมาก จากการตรวจสอบบางงานได้เลื่อนไป บางงานจัดอยู่แต่ก็เพิ่มความเข้มงวดขึ้น สำหรับพิธีงานศพห้ามไม่ได้เพราะเป็นพิธีกรรมทางศาสนา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ ที่บช.น. ได้มีการฉีดน้ำยาทำความสะอาดและฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ห้องทำงานผู้บังคับบัญชาทุกนาย และภายในอาคารทั้งหมดด้วย