"ธนาธร-ปิยบุตร" เปิดตัวคณะก้าวหน้า เคลื่อนไหวปักธงความคิดสถาปนา อำนาจนำแบบใหม่ จวกรัฐบาลแก้วิกฤตโควิด-19 ล้มเหลว เหลื่อมล้ำช่วยเหลือคนจน-นักลงทุน เรียกร้องใช้ 3หมื่นล้าน เยียวยาแรงงานนอกระบบ จ่ายหัวละ 3,600 บาท
เมื่อวันที่ 21 มี.ค.63 เวลา 14.00 น. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล น.ส.พรรณิการ์ วาณิช อดีตกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้ยุบพรรค ร่วมกันแถลงเปิดตัวคณะก้าวหน้าผ่านเพจเฟซบุ๊กไลฟ์ของคณะก้าวหน้า เลี่ยงพบปะกันประชาชน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
อดีตอนาคตใหม่รวมตัวตั้งคณะก้าวหน้า
นายปิยบุตร กล่าวว่า เมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ โดยตุลการ 7 คน เสียงข้างมาก ลงมติยุบพรรคอนาคตใหม่ แม้รัฐธรรมนูญไทยกำหนดให้คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญเป็นที่สุด มีผลผูกพันทุกองค์กร แต่จะผูกพันเข้าไปในหัวใจของประชาชนหรือไม่ขึ้นอยู่กับเหตุผล ที่ผ่านมามีกระแสความไม่พอใจในโลกออนไลน์ นักเรียน นิสิตนักศึกษาจัดชุมนุมทั่วทุกมหาวิทยาลัย มีความเห็นแย้งกับคำวินิจฉัยของศาล ภายหลังการยุบพรรคนายธนาธรแถลงข่าวในทันทีว่า พวกเราจะเดินหน้าสานต่อภารกิจของพรรคอนาคตใหม่ โดยกลุ่มที่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี จะร่วมเคลื่อนไหวในนามคณะอนาคตใหม่ แต่ พรป.พรรคการเมือง ห้ามไม่ให้ใช้ชื่อซ้ำกับพรรคการเมืองที่ถูกยุบ ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ต้องเผชิญกับคดีความ จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อ โดยอนาคตใหม่จะเป็นจิตวิญญาณที่เดินทางต่อเนื่องเข้าไปอยู่ในร่างกายใหม่ๆ อดีตกรรมการบริหารพรรคร่วมกันตั้งคณะก้าวหน้า เพื่อไม่ให้การยุบพรรคอนาคตใหม่สำเร็จตามความเป็นจริง ต่อไปนี้จะเห็นพวกเราร่วมกันรณรงค์ต่อเนื่องไปทั่วประเทศ ในนามคณะก้าวหน้า
นายปิยบุตร กล่าวอีกว่า เราต้องการปักธงความคิดก้าวหน้าให้สังคมไทย สร้างพลเมืองก้าวหน้า โดยจะสร้างเครือข่ายรณรงค์ความคิดไปทั่วประเทศ และจะรณรงค์หาเสียงให้กับการเลือกตั้งท้องถิ่นทั่วประเทศ โดยสัญลักษณ์ลูกศรสีส้มพุ่งทะลุวงกลม เป็นการพุ่งทะยานไปให้พ้นจากกรอบเพดานที่กีดขวางความเจริญก้าวหน้าของประเทศ โดยกรรมการบริหาร จะประกอบด้วย อดีต กก.บห.พรรคอนาคตใหม่ แยกขับเคลื่อนตามภารกิจในพื้นที่ทั่วทุกภูมิภาค และมุ่งหน้าสร้างเครือข่ายกับข้าราชการรุ่นใหม่ นักธุรกิจรุ่นใหม่ และกลุ่มนิสิตนักศึกษา นอกจากนี้จะตั้งโรงเรียนของผู้ไม่ยอมจำนน จัดหลักสูตรและฝึกอบรมให้ผู้นำก้าวหน้า รวมถึงการจัดค่ายเยาวชน เดินหน้าระบบการศึกษาออนไลน์ทุกช่องทาง
ปักธงความคิด สถาปนาอำนาจนำแบบใหม่
การเมืองคือการเอาชนะกันทางความคิด เพื่อเปลี่ยนความคิดและจิตใจของประชาชน ตลอด 2 ปีของการเดินทางเราพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า มีคนเลือก 6.3 ล้านคน นี่จึงเป็นอีกครั้งที่ชาวอนาคตใหม่ตกอยู่ในสถานการณ์ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า แม้จะถูกทำลายแต่เราจะกลับฟื้นคืนชีพเหมือนนกฟินิกซ์ การเอาชนะทางการเมืองจะใช้เพียงกำลังทางกายภาพ หรือจำนวนส.ส.ไม่ได้ แต่ต้องเอาชนะทางความคิด ต้องเข้าไปสถาปนาอำนาจนำแบบใหม่ ซึ่งไม่มีช่วงเวลาใดเหมาะสมไปกว่านี้อีกแล้ว เราจึงต้องปักธงความคิดเพื่อโอกาสในการสถาปนาอำนาจนำแบบใหม่ จึงขอเชิญชวนประชาชนมาร่วมเดินทางไปด้วยกันเพื่อแสดงให้เขาเห็นว่า นิติสงครามไม่สามารถหยุดยั้งการเดินทางอย่างก้าวหน้า ก้าวไกล สู่อนาคตใหม่ที่เรากำหนดเองนายปิยบุตรกล่าว
ธนาธรจวกพรรคร่วมรัฐบาลล้มเหลว ขาดเอกภาพแก้วกฤตโควิด-19
ด้านนายธนาธร กล่าวว่า คณะก้าวหน้าเปิดตัวท่ามกลางวิกฤตหลายด้านของประเทศ โดยเฉพาะวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่รุนแรงและหนักหนากว่าวิกฤตครั้งอื่นๆที่ผ่านมา เราตั้งคณะก้าวหน้าขึ้นมาด้วยความหวังดีต่อประเทศและประชาชน เมื่อได้เห็นข้อเสนอและแนวทางแก้วิกฤต ไวรัสโควิด-19 ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เราเห็นข้อบกพร่อง จากหลักคิดที่ไม่เหมาะสมของผู้นำประเทศ ยกตัวอย่าง กรณี ทอท.เปิดโรงแรมสุวรรณภูมแอร์พอร์ตรับต่างชาติกักตัว 14 วัน ขณะที่ศูนย์กักตัวผีน้อยมีเพียงมุ้ง ขัน เครื่องเสียง และทีวี แสดงให้เห็นถึงความคิดว่าคนไม่เท่าเทียมกัน หรือมาตรการเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประกอบการดิวตี้ฟรี ปรับลดค่าตอบแทนสำหรับสัญญาคงที่รายเดือน ทำให้รัฐสูญเสียรายได้กว่า 3 หมื่นล้านบาท และยกเว้นการเก็บค่าผลประโยชน์ต่อแทนขั้นต่ำรายเดือนและรายปี ซึ่งทำให้รายได้รัฐลดลงอีกกว่า 3 พันล้าน หรือมาตรการตั้งกองทุนพยุงหุ้นซึ่งถูกต่อต้านว่าเป็นการช่วยผู้ถือหุ้นและนักลงทุนซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนมีฐานะ กรณีกักตุนขายหน้ากากอนามัยเกินราคา ศาลลงโทษจำคุกและปรับผู้กักตุนขายหน้ากากอนามัยเกินราคา 8-4,000 ชิ้น ขณะที่คนใกล้ตัวผู้มีอำนาจมีคลิปว่ามีหน้ากากเป็นล้านชิ้น ไม่ถูกดำเนินคดี ความขัดแย้งระหว่างกรมการค้าภายในกระทรวงพาณิชย์ กับกรมศุลกากร หรือกรณีมติครม. อนุมัติลดอัตราการส่งเงินเข้ากองทุนประกันสังคม จาก 5% เป็น 0.1% เป็นเวลา 3 เดือน แต่บอร์ดประกันสังคม สั่งลดการจ่ายเงินเข้ากองทุนฯเหลือ 4% ซึ่งแสดงถึงความไม่เป็นเอกภาพของการทำงานในพรรคร่วมรัฐบาล
จ่ายเยียวยาปิดเมืองแรงงานนอกระบบหัวละ 3,600 บาท
สำหรับผมที่ไม่ใช่วิกฤตของรัฐบาล แต่เป็นวิกฤตของรัฐไทย ปัญหาไปไกลกว่าประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ หรือหลักคิดผิดพลาด เราไม่ได้ขาดคนมีความสามารถหรือขาดข้อเสนอ เพราะมีข้อเสนอดีๆจากนายปริญ พานิชภักดิ์ นายกรณ์ จาติกวณิช หรือคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แต่เราขาดผู้นำที่มีความสามารถ รูปแบบซ้ำซากในการแก้ปัญหาโควิดแสดงให้เห็นถึงการดูแลคนไทยไม่เท่าเทียมกัน คนรวย คนมีอำนาจได้รับการปฏิบัติอย่างหนึ่ง แต่คนจนได้รับการปฏิบัติอีกอย่างหนึ่ง การปิดสถานบันเทิงเกิดผลกระทบในวงกว้าง ผู้เดือดร้อนสาหัสที่สุดคือแรงงานนอกระบบ ประมาณ 9 ล้านคน รัฐบาลควรใช้งบ 33,000 ล้านบาท นำไปจ่ายเป็นเงินช่วยเหลือในช่วงเวลาปิดเมือง 20 วัน หัวละ 3,600 บาท ซึ่งเป็นการใช้วงเงินเดียวกันกับการช่วยเหลือดิวตี้ฟรี ดึงแรงงานนอกระบบให้สมัครเป็นผู้ประกันตน มาตรา 40 การจัดการครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งเดียวจบ ต้องต่อเนื่องยืนยาวอย่างน้อย 1 ปี จำเป็นต้องมีผู้นำที่เข้าใจสังคม สาธารณสุข ผู้ประกอบการ มาตรการทางการคลังในการพยุงเศรษฐกิจ เพื่อเยียวยาทุกคน 3 เดือนที่ผ่านมา ของการแก้ปัญหาเราเห็นในสิ่งตรงกันข้าม เป็นการล้มละลายทางการเมือง ขาดศรัทธาและเชื่อมั่นจากประชาชน วันนี้จะเรียกร้องความร่วมมือจากประชาชนก็ไม่ได้นายธนาธรกล่าว
เสนอโรดแมพ แก้โควิด นายกฯลาออก แก้รธน.ยุบศาลรธน.-กกต.-สว.
นายธนาธร เสนอโรดแมพแก้วิกฤตโควิด-19 ของคณะก้าวหน้า ดังนี้ โดยนายกฯต้องเสียสละลาออก เปิดทางให้คนอื่นเข้ามาเป็นผู้นำแก้ปัญหาชาติ ให้สภาฯแต่งตั้งนายกฯคนใหม่ ดำเนินภารกิจเฉพาะหน้า ในเวลา 1 ปี คือแก้ปัญหาโควิด-19 ฟื้นฟูประเทศ และเป็นเจ้าภาพแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยุบศาลรธน. คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และ วุฒิสภาจากการแต่งตั้ง ยกเลิกมาตรา 279 ใน รธน.ฉบับปี 2560 ยกเลิกการนิรโทษกรรมให้คสช. แก้รัฐธรมนูญ ม.256 ให้สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ กำหนดให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) จากประชาชน จากโรดแมพดังกล่าวเราจะได้สภาฯชุดใหม่ที่มาจากประชาชน ได้รัฐบาลผู้นำประเทศที่มาจากเจตจำนงของ
ปลุกมวลชนส่งเสียงออนไลน์เรียกร้อง นายกฯลาออก
ในภาวะโควิด-19 เราไม่สามารถเรียกร้องให้ยุบสภาฯ เพราะจะปล่อยให้เกิดสุญญากาศทางการเมืองไม่ได้ ข้อเสนอยุบสภาฯ จึงไม่สอดรับกับวิกฤตโควิด -19 แต่ถ้าให้พล.อ.ประยุทธ์อยู่ต่อไป โอกาสที่ประเทศสูญเสียและดิ่งลึกไปมาก เพราะโควิดจะอยู่กับเราอย่างน้อย 1 ปี เราออกมาชุมนุมเรียกร้องไม่ได้ แต่ส่งเสียงเรียกร้องผ่านออนไลน์ ส่งตรงถึงไปพึงคุณประยุทธ์ให้เสียสละ เพื่อให้ประเทศได้ไปต่อประชาชน ยืนยันว่าข้อเสนอของเราไม่ใช่การช่วงชิงอำนาจการเมืองเพราะพวกเราไม่ได้เป็นผู้นำพรรคการเมือง ผมไม่ได้เป็นแคนดิเดทนายก ฯอีกแล้ว แต่ข้อเสนอเพื่อนำประเทศไปข้างหน้า นายธนาธรกล่าว
"ช่อ" ชงยุบรวมศูนย์แถลงสถานการณ์โควิด แก้ข่าวสับสน
ด้านน.ส.พรรณิการ์ เสนอให้รัฐบาลรวมศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19 ให้เหลือเพียงศูนย์เดียว เพื่อป้องกันการสื่อสารที่สับสน เนื่องจากขณะนี้มีทั้งการแถลงข่าวที่ทำเนียบรัฐบาล กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กรุงเทพมหานคร ทำให้ประชาชนเกิดความสับสน ไม่แน่ใจว่าอะไรเป็นข่าวจริง อะไรเป็นเฟคนิวส์ เพราะในแต่ละวันมีการเปิดเผยข้อมูลกลับไปกลับมา