นศ.จีนนั่ง ‘เจ็ตส่วนตัว’ หนีไวรัสกลับบ้าน

นักศึกษาจีนในสหรัฐกำลังดิ้นรนกลับบ้านหลังยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสูงเกิน 50,000 คน แต่ที่จีนลดลงจนเหลือ 0 สถานการณ์ยิ่งฉุกเฉินเมื่อสายการบินพาณิชย์ลดเที่ยวลง ข้อมูลจากแวรีไฟลท์ ผู้ให้บริการข้อมูลการบินเผยเมื่อวันอังคาร  (24 มี.ค.) เที่ยวบินเข้าออกจีน 3,800 เที่ยวถูกยกเลิก 3,102 เที่ยว

แอนลีส์ การ์เซีย ผู้อำนวยการฝ่ายพาณิชย์ของไพรเวตฟลาย บริษัทรับจองเที่ยวบินเช่าเหมาลำทั่วโลกเผยว่า ตอนนี้ตัวแทนการศึกษาและโรงเรียนจัดการแทนครอบครัวชาวจีน ขอให้บริษัทจัดเที่ยวบินเช่าเหมาลำสำหรับนักเรียนนักศึกษา เนื่องจากไม่มีเที่ยวบินพาณิชย์

แต่ถึงกระนั้นเที่ยวบินเช่าเหมาลำก็ไม่มีตั๋ว แม้ค่าโดยสารจะแพงขึ้นก็ตาม

แอร์ชาร์เตอร์เซอร์วิสในสหรัฐ สามารถนำผู้โดยสารเดินทางจากลอสแองเจลิสไปเซี่ยงไฮ้ ด้วยเครื่องบินบอมบาดิเยร์ 6000 ขนาด 14 ที่นั่งในราคา 325,300 หรือที่นั่งละราว 23,000 ดอลลาร์

เกล็นน์ ฟิลิปส์ ผู้จัดการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ บริษัทแอร์ชาร์เตอร์เซอร์วิส เผยว่า บริษัทจัดเครื่องบินส่วนตัวไว้จำนวนหนึ่งบินจากสหรัฐไปจีน เพื่อนำส่งพลเมืองจีนในหลายเส้นทาง เช่น นิวยอร์กและบอสตันไปเซี่ยงไฮ้ ซานโฮเซ-ฮ่องกง และลอสแองเจลิส-กว่างโจว

“ราคาขึ้นอยู่กับตำแหน่งของเครื่องบินในวันและเวลาที่ขอมา รวมทั้งเส้นทางบินที่แน่ชัด” ฟิลิปส์กล่าว 

แต่แม้เช่าเหมาลำแล้วปัญหาก็ไม่ได้หมดไป กรุงปักกิ่งห้ามเที่ยวบินเช่าเหมาลำจากต่างประเทศทุกลำลงจอด คาดว่าเซี่ยงไฮ้จะทำแบบเดียวกัน ฮ่องกงและมาเก๊าห้ามเที่ยวบินทรานสิต

แหล่งข่าววงใน 2 รายเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ ระบุ ผู้ให้บริการเองก็ได้รับแจ้งอย่างไม่เป็นทางการว่า เครื่องบินส่วนตัวที่จดทะเบียนในจีน ไม่ได้รับอนุญาตให้ลงจอดในสหรัฐ และลำที่จดทะเบียนในสหรัฐก็จอดในจีนไม่ได้

“รัฐบาลจีนลังเลที่จะปล่อยให้ประชาชนในต่างประเทศกลับมา แม้ไม่สามารถทำออกมาโต้งๆ เราได้รับคำแนะนำด้วยวาจามากมายให้เข้มงวดกับชาร์เตอร์ไฟลท์ในช่วงนี้ และปิดประตูบ้านอย่างรวดเร็ว” แหล่งข่าวรายหนึ่งเผย

ผู้ให้บริการจึงต้องแก้เกมด้วยวิธีหาเครื่องบินจากประเทศอื่นมาบินในเส้นทางสหรัฐ-จน หรือไปขนถ่ายที่โตเกียว

ตัวอย่างความต้องการกลับบ้านของนักเรียนนักศึกษาจีนในสหรัฐ เจฟฟ์ กง ทนายความในนครเซี่ยงไฮ้ ถามลูกสาวซึ่งเป็นนักเรียนไฮสกูลในรัฐวิสคอนซินว่า จะเลือกพ็อกเก็ตมันนี 25,460 ดอลลาร์ หรือตั๋วเครื่องบินส่วนตัวกลับบ้าน

“ไม่ค่ะปาป๊า.. หนูไม่อยากได้เงิน หนูอยากกลับบ้าน” นี่คือคำตอบจากลูกสาว