ภูเก็ต ปิดด่านทางบก-ทางน้ำสกัดโควิด-19 30 มี.ค. - 30 เม.ย.นี้
ภูเก็ตเริ่มมาตรการปิดด่านทางบก-ทางน้ำ ป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 พบมี ปชช.บางส่วนตกค้าง จำเป็นต้องปล่อยเข้ามา เพราะส่วนใหญ่เป็นคนภูเก็ต อ้างประกาศพึ่งออกมา ทำให้เดินทางมาไม่ทันช่วงด่านปิด
บรรยากาศบริเวณด่านตรวจจังหวัดภูเก็ต หรือด่านตรวจท่าฉัตรไชย อ.ถลาง จ. ภูเก็ต ก่อนที่จะมีการปิดด่านเข้า-ออก ตามประกาศจังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2563 ถึงวันที่ 30 เมษายน พ.ศ.2563 จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น ยังมีการสนธิกำลังของฝ่ายปกครอง ตำรวจ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำโดยนายอดุลย์ ชูทอง นายอำเภอถลาง ยังคงมีการตรวจคัดกรองผู้ที่เดินทางเข้ามายังจังหวัดภูเก็ตอย่างเข้มข้น ขณะที่ปริมาณรถเข้า-ออกมีจำนวนปกติ แต่ติดไปค่อนข้างบางตา อาจเนื่องมาจากบางส่วนทราบแล้วว่า หากเข้ามาใน จ.ภูเก็ตแล้วจะไม่สามารถออกได้เป็นเวลา 1 เดือน สำหรับกรณีผู้ขับขี่รถยนต์มาจำนวน 2-4 คน หรือขับขี่รถจักรยานยนต์ก็จะใช้เครื่องเทอร์โมอินฟาเรดในการตรวจวัดอุณหภูมิ ซึ่งไม่พบว่ามีผู้ใดมีอุณหภูมิสูงเกินกว่า 37.3 องศา ส่วนผู้มากับรถตู้หรือมีจำนวนผู้ที่อยู่ในรถจำนวนมากก็จะให้ลงจากรถและไปเข้าสู่กระบวนการตรวจวัดอุณหภูมิด้วยเครื่องเทอร์โมสแกนหและยังต้องผ่านอุโมงค์ฆ่าเชื้อ รวมทั้งการจัดทำประวัติ ตามมาตรการคัดกรองไวรัสโควิด-19
อย่างไรก็ตามพอถึงเวลา 00.00 น. ในส่วนของขาเข้าเมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่ฯ ได้ร่วมกันนำแท่นแบริเออร์และกรวยไปวางไว้ก่อนจะเข้าสู่ด่านตรวจคัดกรองประมาณ 100 เมตร เพื่อให้รถที่ไม่สามารถเข้ามายังด่านได้ สามารถเลี้ยวกลับได้ในทันที ระหว่างนั้นได้มีรถยนต์เก๋งและรถยนต์กระบะจะวิ่งเข้าด่าน จำนวนรวมประมาณ 20-30 คัน แต่เจ้าหน้าที่ฯ ได้มีการชี้แจงว่าไม่สามารถเข้าไปยังด่านได้ เนื่องจากด่านปิดแล้ว ทำให้มีบางคนแสดงอาการไม่พอใจ และถึงกับร้องไห้ โดยบางคนบอกว่าเดินทางมาจากปากน้ำโพธิ์ และทราบข่าวว่าจะมีการปิดด่านเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา จึงทำให้มาไม่ทันเวลาที่กำหนด ขณะที่บางคนก็เป็นคนภูเก็ต แต่เดินทางไปต่างจังหวัด และรีบกลับมาแต่ไม่ทัน ส่วนของขาออกได้มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ฯ อีกชุดไปคอยชี้แจงผู้ที่ขับรถจะออกจากภูเก็ตบริเวณด้านข้าง อบต.ไม้ขาว ซึ่งมีจุดกลับรถ(ยูเทิร์น) ว่าไม่สามารถออกได้ เนื่องจากด่านออกแล้ว โดยบางคนอ้างว่าจะต้องไปทำงานที่ จ.กระบี่ หากไม่ได้ออกไปคืนนี้ก็จะไปทำงานไม่ทัน พร้อมขอให้เจ้าหน้าที่อนุโลม
ทั้งนี้ ในระหว่างนั้น นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และปลัดจังหวัดฯ ได้ลงพื้นที่มาติดตามความเรียบร้อย และปัญหาอุปสรรคของการปฏิบัติ ซึ่งพบว่า มีประชาชนส่วนหนึ่งยังคงตกค้างอยู่หน้าด่าน ซึ่งมีทั้งคนภูเก็ตที่ต้องกลับบ้า และผู้ที่มาจากต่างจังหวัด ตลอดจนรถที่จะนำนักท่องเที่ยวไปส่งยังสนามบินภูเก็ต รวมประมาณ 30 คัน จึงได้มีการหารือกัน โดยยืดหยุ่นให้กลุ่มดังกล่าวสามารถผ่านด่านไปได้ เนื่องจากเป็นช่วงเวลาคาบเกี่ยว ประกอบกับพบว่า ประกาศซึ่งออกมาช่วงค่ำของวันที่ 29 มีนาคม 2563 จึงทำให้ผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดไกลๆ ไม่สามารถเข้ามาทันก่อนด่านปิดได้ และจะต้องเข้าสู่กระบวนการตรวจคัดกรองตามปกติ เช่นเดียวกับขาออกก็ไม่สามารถออกได้ พร้อมกันนี้ยังได้ให้มีการแจ้งชื่อและที่อยู่กับกับเจ้าหน้าที่ด้วย เพื่อหากเกิดปัญหาขึ้นจะสามารถติดตามตัวได้
นายภัคพงศ์ กล่าวว่า เหตุที่ยินยอมให้ประชาชนที่ติดค้างอยู่บริเวณด่านนั้น เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่คาบเกี่ยว เนื่องประกาศพึ่งออกมาช่วงค่ำ จึงทำให้บางคนมาไม่ทันเวลาด่านปิด แต่ยืนยันว่าทุกอย่างจะมีการดำเนินการตามประกาศจังหวัดที่ออกไป คือ ห้ามเข้าและออกจากจังหวัดภูเก็ต ทั้งทางบกและทางน้ำ ก่อนที่จะมีการประกาศปิดทางอากาศในวันที่ 10 เมษายนที่จะถึงนี้ เพราะขณะนี้สถานการณ์โควิด-19 ของจังหวัดภูเก็ตมีตัวเลขที่เพิ่มจึง จึงจำเป็นที่จะต้องมีการประกาศปิดทางเข้า-ออก เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค