‘เงินบาท’ เปิดตลาดเช้านี้ ‘ทรงตัว’ที่ 33 บาทต่อดอลลาร์
ตลาดการเงินกลับน่าสนใจ หลังราคาน้ำมันกลับมาเป็นบวก หนุนหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นและอาจเห็นเงินดอลลาร์แข็งค่า แต่เช้านี้บาทยังแข็งค่าจากนักลงทุนต่างชาติสนใจลงทุนในตลาดประเทศเกิดใหม่
นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยตลาดการเงิน บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 33.00 บาทต่อดอลลาร์ ไม่เปลี่ยนแปลงจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อน มองกรอบเงินบาทวันนี้ 32.85-33.15 บาทต่อดอลลาร์
โดยในช่วงคืนที่ผ่านมา ตลาดการเงินกลับมาน่าสนใจทันทีที่โดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณว่าอาจเห็นความร่วมมือระหว่างซาอุดิอาระเบียและรัสเซีย ในการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลง 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน พร้อมกับกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันในรัฐเท็กซัส ที่ให้ข่าวว่าได้มีการพูดคุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของรัสเซียในเรื่องนี้ด้วย
ปัจจัยดังกล่าวหนุนให้ราคาน้ำมันดิบทั้ง WTI และ Brent ปรับตัวบวกขึ้นทันทีราว 20% โดยในปัจจุบันราคาน้ำมันดิบในสองตลาดนี้ ซื้อขายที่ระดับ 24 และ 29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลตามลำดับ หนุนให้ดัชนี S&P500 ของสหรัฐปรับตัวขึ้นถึง 2.3% จากหุ้นของบริษัทจดทะเบียนกลุ่มพลังงาน
อย่างไรก็ตามทิศทางของเงินดอลลาร์ยังค่อนข้างสับสน เนื่องจากในสภาวะปรกติ ภาพหลักควรเป็นการอ่อนค่าของดอลลาร์เทียบกับสินทรัพย์เสี่ยง แต่ปัจจุบันสิ่งที่เปลี่ยนไปคือมีเรื่องเศรษฐกิจโลกที่ทดถอยรอดอยู่ จึงทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่เลือกที่จะถือเงินดอลลาร์ เพื่อรอดูสถานการณ์ก่อน
เช่นเดียวกับมุมมองของเรา ที่เชื่อว่าราคาที่ปรับตัวสูงขึ้นในระยะสั้น จะไม่สามารถแก้ปัญหาการขาดสภาพคล่องของเหล่าผู้ผลิตน้ำมันซึ่งเกิดจากปริมาณการบริโภคที่ลดลงทั่วโลกช่วงนี้ได้ จึงต้องระมัดระวังว่าอาจเห็นการแข็งค่าของดอลลาร์ต่อแม้ราคาน้ำมันดิบจะกลับไปซื้อขายเหนือระดับ 30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลก็ตาม
สำหรับในฝั่งของเงินบาท เช้านี้กลับมาแข็งค่าขึ้น จากมุมมองการลงทุนที่น่าจะเป็นบวกกับฝั่ง Emerging Markets อย่างไรก็ดี ยังคงมองว่าราคาน้ำมันไม่ใช่ประเด็นหลักในการกำหนดทิศทางของเงินบาท และควรรอดูว่าจะมีนักลงทุนต่างชาติกลับเข้าลงทุนในตลาดไทยจริงอย่างที่คาดไว้หรือไม่