ที่ปรึกษา รมว. ทส. สั่งจัดการนักท่องเที่ยว ล่าปลาสวยงามที่ภูเก็ต
"ยุทธพล" ที่ปรึกษา รมว. ทส. สั่งจัดการนักท่องเที่ยวล่าปลาสวยงาม จ. ภูเก็ต ด้านกรมทะเลฯ เตรียมใช้กฎหมายจัดการถึงที่สุด
กรณีมีการโพสข้อความผ่าน Facebook ในเพจ แฟนข่าว เสริฐ ภูเก็ต พบไกด์แอบพานักท่องเที่ยวชาวจีนไปดำน้ำบริเวณปลายแหลมหาดนุ้ยและล่ายิงปลาสวยงาม โดยรับเป็นกลุ่มเล็ก ๆ พร้อมได้มีการโพสต์ ภาพปลาที่ยิงได้เพื่ออวดต่อสาธารณะ
นายยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ประสานสั่งการให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งตรวจสอบทันที เบื้องต้น สรุปได้ว่าปลาที่เห็นตามภาพเป็นปลานกแก้ว ปลาขี้ตังเบ็ด และปลาวัวหางพัด จัดอยู่ในประเภทปลาสวยงามห้ามล่า ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ได้กำหนดเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเป็นพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้เร่งสืบหาผู้กระทำความผิด เตรียมใช้กฎหมายจัดการถึงที่สุด พร้อมเพิ่มกำลังตรวจตราลาดตระเวนในพื้นที่อย่างเข้มงวด
นายยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ทันทีที่ตนได้รับรายงานว่ามีกลุ่มแฟนเพจที่ใช้ชื่อว่า แฟนข่าว เสริฐ ภูเก็ต ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพอ้างว่ามีไกด์นำกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนไปดำน้ำบริเวณปลายแหลมหาดนุ้ย จังหวัดภูเก็ต โดยจัดเป็นกลุ่มขนาดเล็ก พร้อมโพสภาพปลาที่ยิงล่ามาได้ ตนได้ประสานแจ้งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเพื่อตรวจสอบและเร่งดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเรื่องดังกล่าวตนคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญและต้องเร่งดำเนินการโดยด่วน
อย่างไรก็ตาม ตนได้รายงานให้นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว. ทส.) ทราบเบื้องต้นแล้ว ซึ่งท่าน รมว. ทส. ได้สั่งการให้เร่งตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวดจริงจัง เพื่อยุติการกระทำในลักษณะดังกล่าวซึ่งเรื่องนี้ทั้งตนและท่าน รมว. ทส. ก็ต้องขอขอบคุณกลุ่มแฟนข่าว เสริฐ ภูเก็ต ที่ช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับหน่วยงานภาครัฐ ที่ชี้ให้เห็นถึงการทำร้าย ทำลายทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง หากมองอีกมุม ตนรู้สึกว่าภายใต้เรื่องร้าย ๆ ยังมีเรื่องที่ดีที่พี่น้องประชาชนรู้สึกห่วงใยทรัพยากรธรรมชาติและรู้สึกว่าทรัพยากรธรรมชาติเปรียบเสมือนสมบัติส่วนรวมที่ทุกคนต้องช่วยกันดูและเฝ้าระวัง สุดท้าย ตนอยากจะฝากถึงพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวทุกคนว่า
“การล่าปลาสวยงามในแนวปะการัง นอกจากมิใช่เป็นการล่าเพื่อดำรงชีพ กลับยังเป็นการทำลายวงจรในระบบนิเวศ อย่าคิดว่าปลาเพียงแค่ไม่กี่ตัวที่ล่าได้ ไม่ทำให้ระบบนิเวศเสียหายหรือเสียสมดุล ความคิดเช่นนี้สร้างความสูญเสียให้กับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมาแล้วอย่างนับไม่ถ้วน ปลาหนึ่งตัวอยู่สร้างสมดุลให้ระบบนิเวศได้นับปี การล่า คือ การทำลายตัดวงจรความสมดุล มนุษย์จะเก่งไม่ได้อยู่ที่ล่าสัตว์ได้ แต่อยู่ที่รักษาสัตว์ให้คงอยู่ได้อย่างยั่งยืนสามารถใช้ประโยชน์จนถึงลูกหลานต่างหาก และในสถานการณ์ที่ไวรัส covid-19 นี้กำลังระบาด ทำให้ปิดสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติในสังกัดของกระทรวง ทส.แทบทุกแห่ง จึงเป็นช่วงที่ธรรมชาติเขาจะได้มีโอกาสฟื้นตัว จึงขอวิงวอนว่าช่วงนี้ท่านอย่าสร้างปัญหาให้กับธรรมชาติอีกเลย" นายยุทธพล กล่าววิงวอน
ด้านนายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวเสริมว่า ตนได้สั่งการเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 ลงพื้นที่บริเวณหาดนุ้ย ตำบลกะรน อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ซึ่งจากการตรวจสอบ พื้นที่บริเวณดังกล่าวมิได้อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่ามียังมีกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ยังคงท่องเที่ยวดำน้ำหรือไม่ พร้อมตรวจตราลาดตระเวนบริเวณดังกล่าวอย่างเข้มงวด
นอกจากนี้ ได้ตรวจสอบภาพปลาที่นักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวล่าได้ เป็นปลาจำพวก ปลานกแก้ว Scarus spp., ปลาขี้ตังเบ็ด Acanthurus lineatus, และปลาวัวหางพัด Aluterus scriptus ซึ่งปลาทั้งหมดไม่จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายสัตว์คุ้มครองฯ ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๖๒ แต่จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในบริเวณพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พ.ศ. ๒๕๖๐ ซึ่งการจับหรือครอบครองปลาสวยงามตามบัญชี ๓ ท้ายประกาศนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ อย่างไรก็ตาม ตนได้กำชับเจ้าหน้าที่หากพบผู้กระทำผิดให้ดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด และประชาสัมพันธ์ในพื้นที่หากพบเห็นการกระทำลักษณะดังกล่าวให้แจ้งสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 ที่นายประจวบ โมฆรัตน์ ผอ.ส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลหมายเลข 084-4399423 ทันที นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลฯ กล่าวยืนยัน