หัวอกพ่อ! ผู้ว่าฯพิษณุโลก กรณี 'เปรมประภา เอกภาพันธ์'
วิจารณ์สนั่นเมือง หัวอกพ่อ! ผู้ว่าฯพิษณุโลก กรณี "เปรมประภา เอกภาพันธ์"
กรณีศาลจังหวัดมุกดาหาร มีคำพิพากษา คดีที่พนักงานอัยการ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.เปรมประภา เอกภาพันธ์ อายุ 29 ปี บุตรสาวของนายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นจำเลย ในความผิดฐาน กระทำการฝ่าฝืนพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548
เหตุจากช่วงดึกวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจมุกดาหาร จับกุมผู้ที่ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ กรณีห้ามออกจากเคหะสถาน ระหว่างเวลาที่กำหนด 22.00 - 04.00 น. ที่จุดตรวจแยกไฟแดงเมืองใหม่ ซึ่งพบหญิง 2 ราย หนึ่งในนั้นพบ น.ส.เปรมประภา ที่ขับรถยนต์หรู BMW สีดำ ทะเบียนกรุงเทพฯ โดยข้อกล่าวหาดังกล่าวป็นความผิดคดีแขวง ซึ่งอัยการได้ยื่นฟ้องภายใน 48 ชั่วโมง นับจากมีการจับกุมตัว
ศาลพิพากษาให้จำคุก 6 เดือน และปรับ 10,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพลดกึ่งหนึ่งคงจำคุก 3 เดือนและปรับ 5,000 บาท โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 1 ปี
พอเกิดเรื่องขึ้น นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้โพสต์เฟซบุ๊ค ระบุว่า ลูกของใครไม่สำคัญ ลูกชาวบ้าน ลูกกำนัน ลูกผู้ว่า ถ้าผิดกฎเคอร์ฟิว ให้ลงโทษตามกระบวนการยุติธรรมอย่างถึงที่สุด ไม่มีข้อยกเว้นครับ กฎหมายต้องเป็นกฎหมายไม่มีข้อยกเว้นสำหรับใคร
สำหรับเหตุการณ์กรณีลูกสาวผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เวลาประมาณ 22.30 น.วันที่ 6 เม.ย.ในพื้นที่ จ.มุกดาหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุม กลุ่มหญิง-ชายฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินการห้ามออกจากเคหสถานเวลาที่กฎหมายกำหนดแต่ยังมีกลุ่มคนไม่เกรงกลัวกฎหมาย โดยสามารถจับกุมได้จำนวน 8 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้เมาสุราและเสพยาเสพติด นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบหญิง 2 รายกล่าว ถูกเปิดเผยว่าเป็นลูกผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก
ช่วงเช้านี้ นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ยังลงพื้นที่ทำงานตามปกติ และยังตอบคำถามสื่อกรณีเคอร์ฟิวว่า พิษณุโลกยังไม่ปิดเมืองห้ามเข้า-ออก แต่มีด่านตรวจป้องกัน ซึ่งถ้าสถานการณ์เลวร้ายลงก็อาจพิจารณาล็อกดาวน์เหมือนจังหวัดภูเก็ต
อย่างไรก็ตาม กรณี เปรมประภา เอกภาพันธ์ หลายตั้งคำถามถึงคนเป็นลูกสาว ขณะที่ พิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได่รับเสียงชื่นชมและเห็นใจหัวอกคนเป็นพ่อ
สถานการณ์การทำงานหนักแบบนี้ ถ้าคนในครอบครัวไม่เห็นใจไม่เข้าใจ คนเป็นพ่อ และในฐานะพ่อเมืองน่าหนักใจยิ่งนัก!!