ตร.เชียงใหม่ รวบโจ๋ฝ่าฝืนเคอร์ฟิว รวม 43 ราย
ตร.เชียงใหม่ รวบโจ๋ฝ่าฝืนเคอร์ฟิว รวม 43 ราย จับจริง ติดคุกจริง
วันที่ 8 เมษายน 2563 ผู้สื่อข่าววรายงานว่า พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุก สภ. ในจังหวัดเชียงใหม่ ได้ดำเนินการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ- ตร.จราจรเชียงใหม่ ตำรวจท่องเที่ยว ทหาร มทบ.33 ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ในการตั้งจุดตรวจซึ่งได้มีการกระจายกำลังกันครอบคลุมพื้นที่มีด่านตรวจในพื้นที่รวมทั้งสิ้น 47แห่ง ทั้งจังหวัดเชียงใหม่ โดยจะเป็นถนนสายสำคัญๆต่างๆทั้ง 25 อำเภอ ในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งคืนที่ผ่านมาเป็นคืนที่สามที่มีการประกาศใช้เคอร์ฟิววันที่ 4 ทุกหน่วยงานที่ร่วมบูรณาการกันมีความเข้มข้น และหากพบว่ามีผู้กระทำความผิดฝ่าฝืนหรือไม่ทำตามข้อบังคับ และไม่ได้เป็นบุคคลยกเว้นตามที่ได้มีการกำหนดไว้แล้วนั้นก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายโดยไม่มีข้อยกเว้น
พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ กล่าวว่า วันนี้ได้จับกุมผู้ที่ฝ่าฝืนชาย-หญิง 43 ราย รวมทั้งตามหมายจับอีก 4 ราย จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไปทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ซึ่งมีแนวโน้มความรุนแรงของการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นจนนำไปสู่การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินของรัฐบาล แต่สถานการณ์แพร่ระบาดยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงมีประกาศรัฐบาลฉบับที่ 2 ห้ามบุคคลใดทั่วราชอาณาจักรออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 22.00 น. ถึงเวลา 04.00 น.ของวันรุ่งขึ้น ตามข้อกำหนดดังกล่าวได้ห้ามบุคคลทั่วราชอาณาจักรออกนอกเคหสถาน ระหว่างเวลา 22.00 -04.00 น.ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2563 เป็นต้นไปจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้สั่งการกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดทั่วประเทศบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ร่วมวางแผนและพิจารณาจัดกำพล ระดมอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ และยานพาหนะ ออกตรวจตรากวดขันเพื่อให้เป็นตามข้อกำหนดดังกล่าว อันเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ที่มีการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง ดังนั้นสถานีตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ จึงปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเข้มข้น และอยากประชาสัมพันธ์ถึงพี่น้องประชาชนขอความร่วมมือให้ปฏิบัติตามข้อกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกจับในวันนี้ พนักงานสอบสวน แต่ละ สภ.ได้ส่งฟ้องในข้อหาออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 22.00-05.00 น. ของวันรุ่งขึ้น โดยไม่มีความจำเป็น หรือเข้าข้อยกเว้นหรือมีเหตุจำเป็นอื่นๆ ที่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ อันเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 2 เมษายน 2563 ข้อ 1 และศาลได้พิพากษาจำคุก 3 เดือน แต่ให้รอลงอาญาไว้ และปรับอีก 5,000 บาท โดยศาลลงโทษทุกราย จึงขอเตือนผู้ที่ฝ่าฝืนประกาศเคอร์ฟิว ขอให้ปฏิบัติตามกฎหมายบ้านเมือง เพื่อหยุดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19.