เปิดไทม์ไลน์ 'พันธ์ยศ' กักตุนหน้ากากอนามัย

หลังจากที่ตำรวจกองปรายบุกเข้าจับกุม นายพันธ์ยศ อัครอมรพงศ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคภราดรภาพ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน ที่ 122/2563 ลงวันที่ 7 เมษายน 2563 ในฐานความผิดจงใจทำให้ราคาต่ำเกินสมควรหรือสูงเกินสมควร หรือทำให้เกิดความปั่นป่วนซึ่งราคาของสินค้า(หน้ากากอนามัย) อันมีความผิดตามมาตรา 29 และมีโทษตามมาตรา 41 พ.ร.บ.ว่าด้วยสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 และข้อหาเป็นผู้ผลิตไม่แจ้งปริมาณตามสถานที่เก็บ ต้นทุน ค่าใช้จ่าย แผนการผลิต กระบวนการผลิต และวิธีการจำหน่ายสินค้าหรือบริการควบคุมต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ อันมีความผิดตามมาตรา 25 และมีโทษตามมาตรา 38 พ.ร.บ.ว่าด้วยสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 นั้น

ลำดับเหตุการณ์ จับกุมเครือข่ายกักตุนหน้ากากอนามัย และจำหน่ายเกิดราคากว่าที่กฎหมายกำหนด ภายหลังราชกิจจานุเบกษา กำหนดให้หน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุมตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ.2563 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 5 ก.พ. 2563 นายพันธ์ยศ อัครอมรพงศ์ และ นายศรสุวีร์ ภู่รวีร์รัศมี หรือ “บอย” พบกันครั้งแรก เพื่อคุยเรื่องการซื้อขายหน้ากากอนามัยที่ย่านจรัญสนิทวงศ์ จากนั้นได้ไปรับประทานอาหารร่วมกัน

ต่อมาวันที่ 7 ก.พ. 2563 นายพันธ์ยศ ได้ขายหน้ากากอนามัย จำนวน 100,000 ชิ้น เป็นเงิน 1,300,000 บาท ขณะที่นายศรสุวีร์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า “ผมมีสินค้าครับ ไม่ได้หลอกมีเยอะเป็นล้านๆ ชิ้นครับ อยากได้ด่วนทักมาครับ มีของตลอด พร้อมกับให้เบอร์โทรศัพท์หมายเลข 095-995....บอย” และ “มาเอากับผมสินค้ามีเยอะหน้ากากพร้อมใบเซอราคาถูก”

วันที่ 8 ก.พ. 2563 นายศรสุวีร์ โพสต์ภาพถ่าย หน้าลังสินค้าภายในสถาบันพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการไทย-จีน (อาคาร บ.ไทยเฮลท์ จำกัด)

วันที่ 9 ก.พ. 2563 นายพันธ์ยศ ซื้อหน้ากากอนามัย จำนวน 70,950 ชิ้น เป็นเงิน 623,426 บาท มีนายอธิป เป็นนายหน้า 

วันที่ 10 ก.พ. 2563 นายพันธ์ยศ สั่งผลิตกล่องบรรจุหน้ากากอนามัยจำนวน 131,145 กล่อง (1 กล่อง บรรจุ 50 ชิ้น)

วันที่ 14 ก.พ. 2563 นายพันธ์ยศซื้อหน้ากากอนามัยจำนวน 118,000 ชิ้น เป็นเงิน 1,238,400 บาท และขายหน้ากากอนามัยจำนวน 64,800 ชิ้น เป็นเงิน 1,000,000 บาท

วันที่ 16 ก.พ. 2563 นายพันธ์ยศขายจำนวน 50,000 ชิ้น เป็นเงิน 675,000 บาท มีนายอธิปเป็นนายหน้า

วันที่ 18 ก.พ. 2563 นายพันธ์ยศ ซื้อจากบ.กวนอูฯ จำนวน 169,550 ชิ้น เป็นเงิน 2,319,835 บาท มีนายอธิปเป็นนายหน้า

วันที่ 19 ก.พ. 2563 นายพันธ์ยศ ขายหน้ากากอนามัยจำนวน 400,000 ชิ้น เป็นเงิน 4,700,000 บาท 

วันที่ 20 ก.พ. 2563 นายพันธ์ยศ ซื้อจำนวน 14,800 ชิ้น เป็นเงิน 199,800 บาท ขณะที่นายศรสุวีร์ โพสต์ภาพถ่ายรับประทานอาหารที่โรงแรงแห่งหนึ่งย่านราชประสงค์ พบว่าระหว่าง 12 ก.พ.-26ก.พ. 2563 มีการกักตุนสินค้าหน้ากากอนามัย

วันที่ 26 ก.พ. 2563 นายพันธ์ยศขายลิขสิทธิ์กล่อง care mask เป็นเงิน 21,000 บาท และขายกล่องเปล่า care mask จำนวน 11,000 กล่อง เป็นเงิน 54,500 บาท

วันที่ 29 ก.พ. 2563 นายพันธ์ยศขายลิขสิทธิ์กล่องSWISS SURGICAL MASK ให้นายอธิป

วันที่ 4 มีนาคม 2563 นายพันธ์ยศซื้อหน้ากากอนามัยจำนวน 70,000 ชิ้น เป็นเงิน 945,000 บาท มีนายศรสุวีร์ เป็นนายหน้า

วันที่ 5 มีนาคม 2563 นายพันธ์ยศซื้อหน้ากากอนามัยจำนวน 70,000 ชิ้น เป็นเงิน 945,000 บาท มีนายศรสุวีร์ เป็นนายหน้า 

วันที่ 9 มีนาคม 2563 เจ้าหน้าที่ได้ล่อซื้อ นายรัชกฤช สุขวารี กับพวก 3 ราย ได้ของกลางหน้ากากอนามัย 5,500 ชิ้น มูลค่า 107,000 บาท ในข้อหา จำหน่ายหน้ากากอนามัยที่ผลิตภายในประเทศในราคาที่สูงกว่ากำหนด และมีกาาแจ้งข้อหานายศรสุวีร์ในข้อหา นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน นอกจากนี้ได้เข้าตรวจค้นบ.ไทนเฮลท์ จำกัด และสถานที่อื่นรวม 7 แห่ง ผลการตรวจค้นพบหน้ากากจำนวน 5 ลัง จำนวน 256 กล่อง 12,800 ชิ้น

วันที่ 29 มีนาคม 2563 เข้าตรวจค้นบ.ไทนเฮลท์ จำกัด ผลการตรวจค้นพบหน้ากากอนามัย 3 ชั้น จำนวน 34,574 ชิ้น

วันที่ 30 มีนาคม 2563 ล่อซื้อนายศุภกิตต์ ชัยสิม พร้อมพวกรวม 2 คน ยึดหน้ากากอนามัย 10,600 ชิ้น มูลค่า 148,400 บาท น.ส.รุ่งภัสสรณ์หรือแพร่ สืบสินนันทพร อายุ 38 ปี ยึดหน้ากากอนามัย 4,650 ชิ้น มูลค่า 79,050 บาท นาย อ. ยึดหน้ากากอนามัย 5,000 ชิ้น มูลค่า 82,000 บาท ในข้อหา ทำให้เกิดความปั่นป่วนซึ่งราคาของสินค้า (หน้ากากอนามัย)

วันที่ 1 มีนาคม 2563 ล่อซื้อนายปิยะพล หรือฟอส ชาติรังสรรค์ น.ส.แก้วมณี หรือนีน่า แสงสี ในข้อหา ร่วมกันจำหน่ายหน้ากากอนามัยซึ่งเป็นสินค้าควบคุมในราคาสูงเกินสมควร หนือทำให้เกิดความปั่นป่วน ซึ่งราคาสินค้า

 วันที่ 8 มีนาคม 2563 ล่อซื้อนายอธิป ขวัญบุณ(ตรีเพชร) ของกลางหน้ากากอนามัยจำนวน 10,150 ชิ้น กล่องกระดาษสำหรับบรรจุหน้ากากอนามัย เขียนว่า care mask จำนวน 714 ชิ้น ในข้อหาจำหน่ายหน้ากากอนามัยที่ผลิตภายในประเทศในราคาที่สูงกว่ากำหนด ทำให้เกิดความปั่นป่วนซึ่งราคาของสินค้า (หน้ากากอนามัย) และได้จับกุมนายพันธ์ยศ หรือดร.ชัย อัครอมรพงศ์ ตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชันที่ 122/2563 ลงวันที่ 7 เมษายน 25563 พร้อมของกลางหน้ากากอนามัย 2,790 ชิ้น กล่องบรรจุหน้ากากอนามัยเปล่า 36 กล่อง

จากหลักฐานที่ปรากฎพบว่านายพันธ์ยศ ซื้อหน้ากากอนามัย จำนวน 513,300 ชิ้น ขายหน้ากากอนามัย จำนวน 614,800 ชิ้น มีเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 14,000,961 บาท

เป็นความผิดฐาน จงใจทำให้ราคาต่ำเกินสมควรหรือสูงเกินสมควรหรือทำให้เกิดความปั่นป่วนซึ่งราคาของสินค้า(หน้ากากอนามัย) และเป็นผู้ผลิตไม่แจ้งปริมาณ สถานที่เก็บ ต้นทุน ค่าใช้จ่าย แผนการผลิต กระบวนการผลิต และวิธีการจำหน่ายสินค้าหรือบริการควบคุมต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 25,29,38,41 พ.ร.บ.ว่าด้วยสินค้าและบริการ พ.ศ.2542