ย้ำไม่ผ่อนคลายมาตรการ แม้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 28 ราย

ย้ำไม่ผ่อนคลายมาตรการ แม้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 28 ราย

สธ.พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 28 ราย รวมยอดสะสม1,288 ราย ใน 68 จังหวัด เสียชีวิตเพิ่มอีก  2 ราย โฆษก ศบค. ระบุแม้ตัวเลขลดลงแต่ยังไม่ผ่อนคลายมาตรการ  

พบผู้ป่วยรายใหม่ 28 ราย กลับบ้านได้รวม1,288 ราย

วันนี้ (13 เมษายน 2563) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงข่าว สถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ประจำวันนี้ ว่า ประเทศไทยพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 2,579 ราย รวมยอดสะสม 28  ราย ใน  68 จังหวัด เสียชีวิตเพิ่มอีกราย 2  รวม  40  ราย  

โดยรายที่ 39 เป็นผู้ป่วยชายไทยอายุ 56 ปี  และรายที่ 40 เป็น ผู้ป่วยชายไทยอายุ 43 ปี รักษาหายกลับบ้าน 1,288  ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่อายุระหว่าง 30-39 ปี จำนวน  619  ราย อายุมากที่สุด 91 ปี และน้อยที่สุด 1 เดือน อายุเฉลี่ย 39 ปี แบ่งตามภูมิภาค กรุงเทพฯ นนทบุรี  1,443 ราย ภาคเหนือ 95  ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 103 ราย ภาคกลาง 340 ราย และภาคใต้ 498  ราย

158676641624

สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ วันที่ 13 เมษายน จำนวน  25ราย แบ่งเป็น กลุ่มที่ 1 ผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วย หรือเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบผู้ป่วยก่อนหน้านี้  (กทม. 9 ราย )จำนวน 18 ราย ผู้ป่วยกลุ่มอื่นๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยก่อนหน้า 7  ราย ได้แก่ คนไทยเดินทางกลับจากต่างประเทศ 1 ราย ไปสถานที่ชุมนุม เช่น ห้างสรรพสินค้า ตลาดนัด สถานที่ท่องเที่ยว  1ราย

อาชีพเสี่ยง เช่น ทำงานในสถานที่แออัด หรือทำงานใกล้ชิดกับชาวต่างชาติ  2ราย บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข   3 ราย  กลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้า State Quarnatine จำนวน 3ราย แบ่งเป็น จ.สตูล 2 ราย ยะลา 1 ราย จากอินโดนีเซีย

158676645735

10 อันดับจังหวัดอัตราผู้ป่วยโควิด-19สูง

โฆษก ศบค. กล่าวต่อไปว่า  แผนที่แสดงจังหวัดที่รับรักษาผู้ป่วยยืนยันสะสมโรคโควิด-19  จำนวน 2,579 ราย ใน 68 จังหวัด พบว่ากรุงเทพฯ 1,306 ราย ภูเก็ต 182 ราย นนทบุรี (ผู้ป่วยส.บำราศฯ ส.โรคทรวงอก) 150 ราย สมุทรปราการ 105 ราย ยะลา 84 ราย ชลบุรี 78 ราย ปัตตานี 77 ราย สงขลา 56 ราย  เชียงใหม่ 40 ราย ปทุมธานี 33 ราย อยู่ระหว่างการสอบสวน 72 ราย และ 9 จังหวัดที่ยังไม่มีรายงานการรับรักษาผู้ป่วย ได้แก่ กำแพงเพชร ชัยนาท ตราด น่าน บึงกาฬ พิจิตร ระนอง สิงห์บุรี และอ่างทอง

 ทั้งนี้ อัตราป่วยโรคโควิด-19 ต่อประชากรแสนคน แยกตามจังหวัดที่รับรักษา ใน 10 อันดับของจังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด ได้แก่ ภูเก็ต  44.03 กรุงเทพฯ 23.03 ยะลา 15.72 นนทบุรี 11.94 ปัตตานี 10.67 สมุทรปราการ 7.86 สตูล(จากอินโดนีเซีย) 5.27 ชลบุรี 5.04 สงขลา 3.90 และนราธิวาส 3.48

158676643669

ฝากพี่น้องมุสลิมดูแลสุขภาพ ป่วยรีบพบแพทย์

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับ ผู้ป่วยรายใหม่ 28 ราย ในวันที่ 13 เมษายน อยู่ในกรุงเทพมหานคร 12 ราย ภูเก็ต 6 ราย ชลบุรี,ยะลา,สตูล จำนวนจังหวัดละ 2 ราย และชุมพร,นครพนม,นนทบุรี,เลย จังหวัดละ  1 ราย  ทั้งนี้ จากจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ เปรียบเทียบพื้นที่ พบว่า กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด มีแนวโน้มผู้ป่วยลดลง

แต่ที่น่าสนใจคือ ผู้ป่วยในกรุ๊ปที่กลับมาจากอินโดนีเซีย สะสมรวมแล้ว 61 ราย โดยตั้งแต่ตรวจเจอวันที่ 8 เมษายน พบ 42 ราย วันที่ 9 เมษายน  5 ราย วันที่ 11 เมษายน 9 ราย  วันที่ 12 เมษายน 2 ราย และ วันที่ 13 เมษายน 3 ราย ดังนั้น เป็นความห่วงใยของพี่น้องมุสลิมที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และถ้าใครอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ขอให้ดูแลสุขภาพ และถ้าป่วยให้มารีบรักษา

158676647956

จำนวนผู้ป่วยยืนยัน จำแนกตามปัจจัยเสี่ยง ใน 2 สัปดาห์ล่าสุด  พบว่า สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้านี้ 441 ราย คนไทยเดินทางมาจากต่างประเทศ 145 ราย อาชีพเสี่ยง เช่น ทำงานในสถานที่แออัด ฯลฯ 104 ราย  และบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข 55 ราย  ซึ่งด้วยปัจจัยเสี่ยงดังกล่าว จึงเป็นเหตุให้ต้องดำเนินการตามมาตรการต่างๆ อย่างเคร่งครัด

ยอดผู้ป่วยน้อยลง หายกลับบ้านได้มากขึ้น

โฆษกศบค. กล่าวอีกว่าตอนนี้แม้จะมียอดผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วยน้อยลง และมีจำนวนผู้รักษาหายต่อวัน มากขึ้น โดยมียอดผู้ป่วยหายกลับบ้าน สะสมตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม ถึง 13 เมษายน จำนวน 1,288  ราย ทำให้เห็นว่าภาพของการรักษาตอนนี้มีผู้ป่วยเข้ามาน้อยลง และมีผู้รับการรักษาหายมากขึ้น ส่งผลให้เตียงสามารถรองรับผู้ป่วยได้มากขึ้น ดังนั้น ขณะนี้มีความมั่นใจได้ในระดับหนึ่ง แต่โรคนี้หากไม่มีการควบคุม เฝ้าระวัง ไม่มีมาตรการที่เข้มข้นก็อาจจะกลับมามียอดสูงได้ ดังนั้น ประชาชนต้องร่วมด้วยช่วยกันดำเนินการตามมาตรการต่างๆ อย่างเคร่งครัด

สำหรับมาตรการประจำวัน ตั้งแต่วันที่ 4-12 เมษายน 2563 พบว่า มี ผู้กระทำผิดรวม 9,823 คน แบ่งเป็น ออกนอกเคหสถาน 8,988 ราย ดำเนินคดี 7,191 ราย ตักเตือน 1,793 ราย ชุมนุมมั่วสุม 835 ราย ดำเนินคดี 732 ราย และตักเตือน 103 ราย  ส่วนการจัดสรรหน้ากากอนามัยในวันที่ 13 เมษายน 2563  มีจำนวนรับเข้ามา 16,036,500 ชิ้น ระหว่างจัดส่ง 1,869,500 ชิ้น จัดส่งแล้วทั้งหมด 14,167,000 ชิ้น

158676655515

ย้ำการ์ดห้ามตก ยังไม่ผ่อนคลายมาตรการใดๆ

โฆษก ศบค. กล่าวด้วยว่า แม้ประเทศไทยจะมียอดผู้ป่วยยืนยันเพียง 28 ราย แต่ยังไม่สามารถนิ่งนอนใจได้ เพราะต่อให้สถานการณ์ในประเทศมีการล้อมรั้วดูแลได้อย่างดี แต่สถานการณ์ในต่างประเทศมีแต่สีแดง  และไทยอยู่ในแวดล้อมของสถานการณ์ติดเชื้อเส้นพุ่งตรงขึ้นไป ดังนั้น ที่ทุกคนทำได้ คือต้องช่วยกันอย่างเข้มแข็ง และจะช่วยกันเพียง 70-80% ไม่ได้ เนื่องจากไม่สามารถลดตัวเลขผู้ติดเชื้อได้ ต้องช่วยกัน  90%

การ์ดประชาชนคนไทยต้องไม่ตก  90% ของไทย ต้องเป็นแนวร่วม ต้องช่วยกันไปตลอด ซึ่งขณะนี้มีการพยากรณ์ว่าโรคนี้อยู่กับไทย  3-4 เดือน แต่การผ่อนคลายตอนนี้คงไม่เกิดขึ้น ส่วนการผ่อนคลายตามจังหวัด ตามพื้นที่หรือไม่ อาจต้องดูมาตรการของคณะกรรมการว่าจะทำได้หรือไม่

158676655523

“ตัวเลข 28 รายในวันนี้ ไม่ได้มาจากเทศกาลสงกรานต์ ฉะนั้น ถ้าวันนี้ทุกคนผ่อนคลายจำนวนยอดผู้ป่วยยืนยันอาจจะไปพุ่งสูงในอีก 5-7 วันข้างหน้า เพราะโรคนี้อยู่ในร่างกาย 3-5 วันถึงจะเห็นอาการ ส่วนบางพื้นที่ที่บอกว่าจะเปิดให้บริการการตัดผม ร้านเสริมสวยในวันที่ 16 เมษายน นี้ กรณีนี้ต้องขอตรวจสอบรายละเอียด เพราะหากส่วนกลางไม่ได้กำหนดไว้ แต่ถ้าปลายทางไปทำถือว่าผิดกฎหมาย  การผ่อนคลายมาตรการ ตอนนี้คงยังไม่เกิดขึ้น”นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าว