‘ลอมบาร์ด’แนะปรับพอร์ต ลุยบอนด์‘อินเดีย-อินโดฯ’
“ลอมบาร์ด โอเดียร์” เชื่อตลาดทุนทั่วโลกผันผวนจากโควิด-19 มองรัฐอัดฉีดสภาพคล่อง ช่วยหนุนตลาดตราสารหนี้ฟื้นตัว แนะปรับพอร์ตลงทุนจากจีนไป “อินเดีย-อินโดนีเซีย” รับผลตอบแทนดีกว่า
นายดีราช บาจาช Head of Asia Credit, Lombard Odier เปิดเผยว่า ตลาดทุนโลกผันผวนอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นักลงทุนเทขายสินทรัพย์ส่งผลให้ตลาดหุ้นตกต่ำมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ ไม่เว้นแม้แต่กองทุนตราสารหนี้ KBank Private Banking ที่ร่วมกับLombard Odier แต่เชื่อว่า เศรษฐกิจโลกจะกลับมาฟื้นตัวได้ ภายหลังมีการใช้มาตรการทางการเงินด้วยการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางและการอัดฉีดสภาพคล่องเพิ่มเข้าสู่ระบบ
ทั้งนี้ ประเมินว่าตลาดที่ผันผวนในช่วงก่อนหน้านี้เป็นเพียงปัญหาชั่วคราว เมื่อภาวะตลาดกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว คาดว่าราคาของตราสารหนี้จะฟื้นตัวกลับขึ้นมาที่ระดับเดิมได้และสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนได้ดีดังเช่นในอดีตที่ผ่านมา
“ตอนนี้ตลาดบอนด์ตกต่ำ เพราะนักลงทุนขายสินทรัพย์ไปถือเงินสด จากความไม่แน่นอนของสถานการณ์ ซึ่งการเกิดDefaultในตลาดบอนด์รอบนี้จะน้อยกว่าปี 2551-2552 ที่มีสัดส่วนบอนด์ที่Default 19% และยังเชื่อว่าตลาดบอนด์จะฟื้นตัวในรูปตัววี(V shape)ได้หากสถานการณ์คลี่คลายในครึ่งปีแรก”
นอกจากนี้ยังได้ปรับกลยุทธ์การลงทุน ด้วยการลงทุนตราสารหนี้ที่ราคาถูกและให้ผลตอบแทนดี เช่น ลงทุนตราสารหนี้ในอินเดียกับอินโดนีเซียหลังให้ผลตอบแทนเป็น5%จากเดิม1%จากอดีตที่ลงทุนตราสารหนี้ในจีน พราะปัจจุบันให้ผลตอบแทนที่น้อยโดยให้ดอกเบี้ยจาก1%เป็น1.5%
นายตรีพล ภูมิวสนะ Private Banking Business Head Private Banking Group ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ในการจัดสรรพอร์ตการลงทุน K-APB ยังคงน้ำหนักการลงทุนในระดับ3%สำหรับพอร์ตModel 1การลงทุนในพอร์ตหลัก60%,พอร์ตเสริม40%และ5%สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้เพิ่มขึ้นมา หรือModel 2 ลงทุนในพอร์ตหลัก50%และพอร์ตเสริม50% มั่นใจว่าการลงทุนในK-APBยังคงเหมาะสมในภาวะดอกเบี้ยต่ำอีกนาน คาดหวังผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินฝากในระยะยาว
ทั้งนี้ กองทุน K-APB เป็นกองทุนเปิด เน้นลงทุนในหน่วยลงทุน LO Funds – Asia Value Bond Fund, (USD) ที่ลงทุนในตราสารหนี้ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (รวมประเทศญี่ปุ่น)