ราคาน้ำมัน‘ดิ่ง’แรง กดตลาดเงินผันผวน
สัปดาห์นี้ เงินบาทแข็งค่า เคลื่อนไหวที่ระดับ32.28 32.61บาทต่อดอลลาร์ และปิดตลาดที่ระดับ32.44บาทต่อดอลลาร์ จากความหวังเรื่องการปลดล็อกดาวน์ รวมถึงราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้าสหรัฐฯที่ดิ่งลงแรงจนติดลบ ส่งผลกระทบในวงกว้าง สร้างความผันผวนในตลาดการเงินอื่น
สำหรับในช่วง 1 สัปดาห์ข้างหน้า “ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย” คาดว่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.20-32.70 บาทต่อดอลลาร์ โดยสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น ธนาคารกลางสหรัฐฯ และธนาคารกลางยุโรป ขณะที่จะมีการรายงานตัวเลขจีดีพีสหรัฐฯไตรมาสแรก และรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของไทยเดือนมี.ค.ในวันที่ 30 เม.ย.
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ (24 เม.ย.) ปิดการซื้อขายที่ 1,258.78 จุด ลดลง 13.75 จุด หรือลดลง1.08% โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 68,704.56 ล้านบาท " บล.ทิสโก้" ระบุว่าแนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ ดัชนีฯน่าจะเคลื่อนไหวในลักษณะไซด์เวย์ ต้องจับตาการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าจะมีการยกเลิกการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินและผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ต่างๆหรือไม่ ซึ่งจะส่งผลให้ปัจจัยในประเทศมีอิทธิพลมากกว่าต่างประเทศ รวมถึงจับตาทิศทางการประชุมของธนาคารกลางต่างๆว่าจะออกมาตรการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ประเมินกรอบดัชนีฯไว้ที่ระดับ 1,240-1,280 จุด
ด้านความเคลื่อนไหวของราคาทองคำอยู่ที่ 1,729.25 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะที่ราคาทองคำในประเทศอยู่ที่ 26,350 บาทต่อบาททองคำ ด้าน "วายแอลจี บูลเลี่ยนอินเตอร์เนชั่นแนล" ระบุว่าหากไม่มีปัจจัยใหม่ที่โดดเด่นเพิ่มเติมราคาทองคําอาจยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ จึงแนะนํานักลงทุนทยอยขายทองคําเพื่อทํากําไรออกมา เมื่อราคาขยับขึ้นทดสอบแนวต้านโซน 1,739-1,747 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ (1,747 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 7 ปี )และในระยะสั้นหากราคาทองคํามีการปรับตัวลดลงมาไม่หลุดแนวรับ สามารถเข้าซื้อเก็งกําไร โดยประเมินแนวรับไว้ที่ 1,711-1,705 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพราะหากราคาทองคําไม่หลุดแนวรับยังมีโอกาสเกิดแรงซื้อเก็งกําไรระยะสั้นเข้ามาอีกครั้ง