สธ.กำหนดแนวทางผ่อนคลายมาตรการ 'สถานบริการ' ต้องเว้นระยะห่าง
สธ.กำหนดแนวทางผ่อนคลายมาตรการ “คลินิกความงาม-นวดสปา-สถานบริการ” ต้องเน้นมาตรการระยะห่าง คัดกรอง สวมหน้ากาก ล้างมือ จำกัดจำนวนผู้รับบริการ
บ่ายวันนี้ (25 เมษายน) นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า หากมีการประกาศผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มสถานการณ์โควิด-19 ในส่วนของคลินิกความงามหากจะเปิดบริการ ได้กำหนดมาตรการ ประกอบด้วย ช่วงก่อนเปิดบริการ แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนแรกสถานประกอบการ ต้องทำความสะอาด จัดสถานที่เว้นระยะห่าง จัดจุดพื้นที่ภายนอกหรือส่วนแยก (Isolate area) เพื่อคัดกรอง เตรียมอุปกรณ์ทำความสะอาดให้เพียงพอ ส่วนที่สองผู้รับบริการ ต้องสวมหน้ากาก ล้างมือ ปฏิบัติตามคำแนะนำของสถานพยาบาล และส่วนที่สามผู้ให้บริการ ต้องจัดทำเวชระเบียนเพื่อซักประวัติผู้รับบริการ ให้บริการแบบ 1 คน ต่อแพทย์ พยาบาล 1 คนเท่านั้น และจัดเตรียมห้องทำหัตถการแยกห้องๆละ 1 คน ส่วนในช่วงให้บริการ เน้นการคัดกรองผู้รับบริการเป็นสำคัญ วัดอุณหภูมิต้องไม่เกิน 37.5 องศาเซลเซียส ล้างมือและสวมหน้ากากตลอดเวลาที่เข้ารับบริการ หากพบภาวะเสี่ยงต้องรายงานและส่งต่อรักษาได้ทันที นอกจากนี้ ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์หลังใช้งานและไม่ใช้ของร่วมกับผู้อื่น ทำความสะอาดพื้นที่และจัดเก็บขยะทุกครั้ง
อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า ในส่วนกิจการสปานวดเพื่อสุขภาพ นวดเพื่อเสริมความงามและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ต้องเตรียมสถานที่และบุคลากรในแนวทางเดียวกับคลินิกความงาม ทั้งการคัดกรอง ซักประวัติ เว้นระยะห่าง จัดห้องนวด 1 คนต่อห้อง ถ้าห้องรวมจะต้องเว้นหรือมีผ้าปิดกั้น ผู้ให้บริการและผู้รับบริการนวดต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง ล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เจลก่อนและหลังให้บริการแต่งกายรัดกุม ไม่ใช้สิ่งของ เช่น แก้วน้ำ หลอดดูดน้ำ ช้อน ผ้าเช็ดมือ ผ้าเช็ดตัวร่วมกับผู้อื่น นอกจากนี้ แม่บ้านทำความสะอาดต้องจัดการขยะติดเชื้อแยกเฉพาะโดยเฉพาะหน้ากากอนามัย ทิชชูที่เปื้อนน้ำลาย น้ำมูก จะต้องเก็บใส่ถุงมิดชิด ทั้งนี้จะส่งให้แต่ละแห่งได้สำรวจความพร้อมก่อนเปิดให้บริการ และจะส่งทีมเข้าตรวจสอบเพื่อให้เป็นไปตามแนวทางที่กำหนด
ขณะที่ แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กรมอนามัยได้สร้างแพลตฟอร์ม THAISTOPCOVID (stopcovid.anamai.moph.go.th) คนไทยรวมพลังป้องกันโรค เพื่อให้ผู้ประกอบการทั้งร้านอาหาร โรงแรม ร้านเสริมสวย ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น ได้เข้ามาประเมินความพร้อมก่อนเปิดให้บริการ รวมทั้งประชาชนทั่วไปสามารถเข้าไปตรวจสอบและช่วยรายงานข้อมูลกลับมาด้วยว่าสถานประกอบการแต่ละแห่งปฏิบัติตามมาตรการคัดกรอง เว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก ล้างมือ หรือไม่ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการพัฒนามาตรฐานรองรับสถานบริการและประชาชนมีส่วนร่วมตรวจสอบไปพร้อมกัน