‘ธนาธรแจกเงิน’ คณะก้าวหน้า เร่งโอนเงิน ‘ลงทะเบียนรับเงิน 3,000 บาท’
"ธนาธรแจกเงิน" คณะก้าวหน้า เร่งโอนเงิน "ลงทะเบียนรับเงิน 3,000 บาท" แจกจริงไม่ใช่เกมโชว์
เมื่อวันที่ 4 พ.ค.63 น.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า กล่าวถึงกิจกรรมคอนเสิร์ตออนไลน์ระดมทุน MAYDAY MAYDAY ว่า ยอดเงินบริจาค เมื่อเวลา 14.00 น. ของวันที่ 3 พฤษภาคม รวมทั้งสิ้น 7,282,897.34 บาท สามารถส่งต่อให้ผู้ขอรับสิทธิ์ "ลงทะเบียนรับเงิน 3,000 บาท" เป็นจำนวน 2,427 คน โดยขณะนี้โอนเงินไปได้ 700 กว่าคนแล้ว เนื่องจากเราไม่ใช่รัฐบาล "ธนาธรแจกเงิน" เราใช้ระบบโอนเหมือนคนทั่วไป จึงค่อนข้างใช้เวลา ส่วนจะมีเฟสสองหรือไม่นั้น คงต้องพูดคุยกันก่อน แต่เบื้องต้นเอาเฟสแรกให้จบก่อน เพราะว่าต้องใช้เวลาพอสมควร ตอนนี้เป้าหมายหลักคือโอนเงินให้ผู้ได้รับสิทธิ์เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้
ส่วนกรณีที่ระบบการคัดกรองค่อนข้างจะมีปัญหานั้น เราทราบอยู่แล้วว่า คนที่ได้เงินจะมากกว่าคนที่ไม่ได้ โดยตอนแรกเราตั้งเป้าไว้ว่าจะรับบริจาคประมาณ 3 ล้านบาท สามารถช่วยได้ประมาณ 1,000 คน แต่เกินไปถึงสองเท่า ซึ่งเป็นเรื่องที่ประชาชนบริจาคกันเช้ามาเกินคาดหมายมากๆ อีกทั้งเราไม่ได้คาดว่าคนจะใช้สิทธิ์เป็นล้านคนแบบนี้ ซึ่งเราไม่สามารถจะให้ได้ทุกคน แต่ถ้าเราคิดแต่ว่าจะโดนโจมตี จะเป็นดราม่า ก็จะไม่ได้ทำอะไรให้บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ผู้ที่ไม่ได้เงินอาจจะไม่พอใจ เราก็ได้แต่ทำความเข้าใจไปว่าเราไม่ใช่รัฐบาล ขนาดรัฐบาลก็ยังแจกให้ได้ไม่ครบตามที่คนต้องการเลย ซึ่งเราชัดเจนในกฎเกณฑ์ตั้งแต่แรกแล้วว่า เราได้รับบริจาคมาเท่าไหร่ เราจะโอนออกเท่านั้นหมดบัญชีไม่ให้เหลืออยู่
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
โดยขณะนี้ เรายังปิดบัญชีไม่ได้ เพราะยังมีคนบริจาคเข้ามาต่อเนื่อง และเราต้องใช้บัญชีเดียวกันนี้โอนออกให้ผู้ได้รับสิทธิ์ จึงจำเป็นที่จะมีโครงการอื่นๆในอนาคต เพื่อใช้เงินที่เกินมากจาก 14.00 น.เมื่อวานนี้ ไปสู่การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์โควิด-19 โครงการต่อไป แต่ขอเคลียร์โครงการแรกให้หมด แล้วเงินที่เกินมาหลังจากตัดบัญชี จะไปช่วยโครงการอะไรต่อ เราจะแจ้งให้ทราบต่อไป
“โครงการนี้ไม่ใช่เกมโชว์ ว่าถ้าหากไม่ทำตามที่ระบุจะถูกตัดสิทธิ์ ทุกคนที่ขอเข้ามาเป็นผู้ที่เดือดร้อนทั้งนั้น ผู้ที่ขอรับสิทธิ์จะต้องแจ้งรหัสชื่อ เลขบัญชี และเหตุผลว่าจะนำเงินไปใช้ทำอะไร เราไม่ได้บอกไปว่าหากไม่ใส่ หรือใส่เลขบัญชีจะไม่ได้รับสิทธิ์ เราไม่ได้บอกรัดกุมขนาดนั้น และถ้าหากเราตัดสิทธิ์ผู้ที่บอกเลขที่บัญชีมาด้วยตามที่มีกระแส จะต้องเกิดการวิพากษ์วิจารณ์หนักแน่นอน ฉะนั้นเราจะใช้วิธีใครมาก่อนได้ก่อน ไม่ใช่เป็นการสุ่ม ใครจะใส่เลขบัญชีหรือไม่ ถ้ามาก่อนก็จะได้สิทธิ์ไป
ดังนั้น 2,427 คน ที่มาก่อนได้ก่อนแน่นอน ส่วนผู้ที่ใช้เฟซอวตารนั้น อย่างน้อยต้องมีข้อมูลคือชื่อ นามสกุล และเหตุผลในการใช้เงิน เรายืนยันหลักการที่จะให้โดยไม่ต้องพิศูจน์ความจน ไม่ต้องให้เขามาลดทอนศักดิ์ศรีของตัวเอง โดยการแข่งกันจน เราไม่อยากให้เกิดขึ้น เราจึงไม่ได้ถามว่าทำไมถึงอยากได้เงิน เพราะทุกคนจะแข้งกันจน เพื่อพิศูจน์สิทธิ์ แต่เราถามว่าจะเอาเงิน 3,000บาท ไปทำอะไร ซึ่งมันคนละเรื่องกันเลย เราไม่ได้จะไปพิจารณาให้สมเหตุสมผลแล้วจึงจะให้เงิน แต่เราจะให้เห็นว่าคนที่เขาเดือดร้อน จะเอาเงินไปใช้ทำประโยชน์อะไรได้บ้าง” น.ส.พรรณิการ์ กล่าว
เมื่อถามว่า เหตุใดจึงตั้งเลขรหัสขอรับสิทธิ์ เป็นเลข 24 และ 75 ซึ่งเป็นเลขของปีเปลี่ยนแปลงการปกครองในประเทศไทย น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า ทุกคนทราบอยู่แล้ว ปี 2475 เป็นปีอะไร แต่รหัสที่เราใช้ไม่ได้มีความหมายอะไร กติกาของกิจกรรมเราต้องการให้คนเข้ามาเป็นรอบ ตอนแรกเราตั้งไว้ 6-7 รอบ เนื่องจากเกรงว่าหากมีรอบเดียว คนที่เข้ามาข่วงกลาง หรือช่วงหลังจะไม่ได้รับสิทธิ์ ซึ่งไม่เป็นธรรมกับเขา จึงใช้ระบบรหัส เลยกำหนดหลายๆตัวเลขเอาไว้ ทั้งเลข 21 ที่เป็นวันยุบพรรคอนาคตใหม่ 2540 ปีวิกฤติเศรษฐกิจ และอีกหลายชุดตัวเลข ซึ่งเลข 24 และ 75 นั้น เราก็สุ่มขึ้นมาและคัดเลือกกันในทีมงาน