หุ้น 'อสังหาฯ' ดิ่งผวางบทรุด โบรกฯ คาดกำไรปี 63 ต่ำสุดรอบ 7 ปี
หุ้นกลุ่มอสังหาฯ กอดคอร่วง ‘แลนด์แอนด์เฮ้าส์’ นำลง ติดลบ 10% ขณะที่ ‘แอลพีเอ็น’ เผยกำไรสุทธิไตรมาสแรก ลดลง 38% จากปีก่อน นักวิเคราะห์ประเมินกำไรรวมของกลุ่มปีนี้ต่ำสุดในรอบ 7 ปี
ความเคลื่อนไหวหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัย วานนี้ (7 พ.ค.63) เป็นหนึ่งในกลุ่มหุ้นที่กดดันดัชนี SET ปรับตัวลดลง โดยเฉพาะ บมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ (LH) ที่ปรับตัวลดลงราว 10% ส่วนหนึ่งเป็นผลกระทบจากการขึ้นเครื่องหมาย XD สำหรับการจ่ายเงินปันผล 0.40 บาทต่อหุ้น แต่ราคาหุ้นปรับตัวลดลงมาถึง 0.75 บาท มาปิดตลาดที่ 6.55 บาท หรือลดลง 10.27%
นอกจากนี้ หุ้นบมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) ปรับลดลง 5.43% , บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น(SC) ลดลง 4.55% , บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์(ANAN) ลดลง 4.24% , บมจ.พฤกษา โฮลดิ้ง(PSH) ลดลง 3.74% , บมจ.แสนสิริ ลดลง 2.86%
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- ทยอยลงทุน ในช่วงหุ้นลง
- ‘รีไฟแนนซ์บ้าน’ ทางเลือก ‘ลดหนี้’ ช่วงดอกเบี้ยขาลง
- อสังหาฯ ล้างไพ่แห่โละสต็อก จ้างนายหน้าอิสระหั่นกำไรชิงลูกค้า
- ศึกราคาทาวน์เฮ้าส์ 3 ล้าน ระอุ 'พฤกษา' ปะทะ 'โกลเด้นแลนด์'
บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า ทั้งยอดขาย, ยอดโอน และกำไรสุทธิ ของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ (ที่อยู่อาศัย) มีแนวโน้มลดลง 11%, 10% และ 23% จากปีก่อน ตามลำดับ และคาดกำไรสุทธิปี 2563 นี้ จะต่ำสุดในรอบ 7 ปี หลังเหตุการณ์น้ำท่วมในปี 2544 - 2545 โดยภาพรวมกลุ่มมีปัจจัยกดดันจากกำลังซื้อที่ลดลงทั้งไทยและต่างชาติเพราะการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงมาตรการ LTV และความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อจากธนาคาร
แม้ว่าดัชนีกลุ่มอสังหาริมทรัพย์จะลดลงกว่า 20% และค่า P/E ของกลุ่มลดลงมาอยู่ที่ 7.7 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต แต่จากความไม่แน่นอนที่ยังมีอยู่มาก เราจึงแนะนำ “ชะลอการลงทุน” จนกว่าจะเห็นสัญญาณการฟื้นตัว โดยคาดอัตราเงินปันผลของกลุ่มที่สูงเฉลี่ย 7.5% เป็นตัวประคับประคองราคาหุ้น
ทั้งนี้ หุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เริ่มรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกที่ผ่านมา โดย บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ (LPN) มีกำไรสุทธิ 216.88 ล้านบาท ลดลง 38% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 350 ล้านบาท เนื่องจากรายได้จากการขายลดลง โดยมีรายได้จาการขาย จำนวน 1,493.92 ล้านบาท ลดลง 40.08% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ส่วนรายได้จากธุรกิจให้เช่าและบริการ ทำได้ 56.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42.17% ขณะที่ยอดขายทำได้ 2,620 ล้านบาท จากโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ก่อนปี 2563 และมีการเปิดตัวโครงการใหม่ 4 โครงการ มูลค่ารวม 3,600 ล้านบาท
ด้าน นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ในส่วนของหุ้น LH ที่ปรับตัวลดลงค่อนข้างแรง ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการขึ้นเครื่องหมาย XD สำหรับการจ่ายเงินปันผล 0.40 บาทต่อหุ้น แต่หลังจากนี้คาดว่าหุ้นจะขาดปัจจัยบวก เพราะแนวโน้มกำไรไตรมาส 1 และ 2 ของปีนี้ น่าจะอ่อนแอต่อเนื่อง
“จริง ๆ แล้ว เราแนะนำขายหุ้น LH มาก่อนจะขึ้นเครื่องหมาย XD เพราะหุ้น LH ต่อจากนี้ขาดปัจจัยบวกเข้ามาหนุน แม้ LH จะยังเป็นหุ้นขนาดใหญ่และเงินปันผลดี แต่อาจจะยังไม่ใช่จังหวะที่ดีนักสำหรับการเข้าซื้อ โดยส่วนตัวมองว่า ณ ระดับใกล้ 6 บาท เป็นจุดที่น่าสนใจกว่า หรืออย่างน้อยที่สุดก็ควรจะรอให้ผ่านช่วงประกาศงบไตรมาสแรกเสียก่อน”
ทั้งนี้ คาดกำไรสุทธิไตรมาสแรกที่ 1,000 ล้านบาท ลดลง 42.6% จากปีก่อน หดตัวลงจาก 3 ปัจจัยหลักคือ คาดยอดโอนที่ 5.2 พันล้านบาท ลดลง 9% จากผลกระทบของมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ช่วงปลายไตรมาส ขณะที่รายได้จากธุรกิจให้เช่าหดตัวลง 13% จากอัตราเข้าพักของธุรกิจโรงแรมที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญเหลือเพียงระดับต่ำกว่า 10% ในช่วงปลายเดือน มี.ค. 2563