'องอาจ' จี้ ประกันสังคม-กทม. เร่งช่วยครูศูนย์พัฒนาเด็กฯ
"องอาจ" จี้ประกันสังคม และ กทม. เร่งช่วยครูศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน จากผลกระทบโควิด-19
เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 63 นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคและประธาน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ว่า ขณะนี้มีประชาชนอีกหลายกลุ่มที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือเยียวยาจากภาครัฐ ถึงแม้หน่วยงานราชการจะพยายามปรับวิธีการทำงานให้เยียวยาเข้าถึงทุกกลุ่มมากยิ่งขึ้น แต่ก็ยังไม่ทั่วถึง ยังมีกลุ่มคนจำนวนมากที่รอคอยความช่วยเหลือจากภาครัฐ
นายองอาจ กล่าวด้วยว่า นอกเหนือจากกลุ่มคนที่รอเงินเยียวยาแล้ว ยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 คือ ครูอาสาพัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน ที่ทำงานอยู่ตามศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนใน กทม. ที่ยังไม่ได้รับเงินเดือนตามปกติ โดยทั่วไปครูตามศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนจะได้รับเงินอุดหนุนเป็นเงินเดือนจาก กทม. แต่จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทาง กทม. สั่งปิดศูนย์รับเลี้ยงเด็ก ซึ่งรวมถึงศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนที่มีอยู่ 294 ศูนย์ใน กทม.
นายองอาจ กล่าวอีกว่า เมื่อศูนย์ถูกปิดตัวลงตามคำสั่งของ กทม. ทุกศูนย์ได้รับแจ้งจาก กทม. ว่าเงินเดือนของครู กทม. จะจ่ายให้ 38% ส่วนอีก 62% ให้ครูไปใช้สิทธิ์ทำเรื่องขอเงินชดเชยกรณีว่างงานด้วยเหตุสุดวิสัยวิกฤติโควิด-19 จากประกันสังคม ซึ่งครูก็เร่งทำเรื่องขอเงินชดเชยจากประกันสังคมเป็นระยะเวลาพอสมควรแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รับเงินชดเชยแต่อย่างใด ขอฝากให้กระทรวงแรงงานสั่งการไปยังสำนักงานประกันสังคม ให้เร่งพิจารณาจ่ายเงินชดเชยโดยด่วนก่อนที่ครูจะลำบากมากไปกว่านี้ ขณะที่เงิน 38% จากยอดเงินเดือนของแต่ละคนที่ครูจะได้รับจาก กทม. ปรากฏว่าครูก็ยังไม่ได้รับเช่นเดียวกัน กทม. ควรรีบโอนเงิน 38% ของเงินเดือนครูแต่ละคนให้ครูโดยด่วนด้วย เพราะครูอาสาได้เงินเดือนน้อยอยู่แล้ว เงินเดือนที่ได้ก็นำไปใช้จ่ายในครอบครัวแบบเดือนชนเดือน เมื่อไม่ได้รับเงินชดเชยการว่างงานจากประกันสังคม และไม่ได้รับเงินบางส่วนจาก กทม. ทำให้การใช้ชีวิตในภาวะวิกฤติโควิด-19 เป็นไปด้วยความยากลำบากมากขึ้น
“จึงขอฝากให้กระทรวงแรงงานเร่งทำงานให้เงินชดเชยถึงมือครูอาสาเร็วกว่าที่เป็นอยู่ ขณะนี้ที่ล่าช้ามาก ขณะที่ กทม. ก็ควรเร่งส่งเงินเดือนอีกบางส่วนมาให้ครูอาสา เพื่อให้ครูมีชีวิตอยู่ได้ตามอัตภาพในภาวะวิกฤติต่อไป” นายองอาจ กล่าว