'ดีอีเอส' ลุยปราบข่าวปลอมต่อเนื่อง จับได้อีก 7 ราย ฝ่าฝืน 'พ.ร.ก.ฉุกเฉิน'

'ดีอีเอส' ลุยปราบข่าวปลอมต่อเนื่อง จับได้อีก 7 ราย ฝ่าฝืน 'พ.ร.ก.ฉุกเฉิน'

"ดีอีเอส" ลุยปราบข่าวปลอมต่อเนื่อง จับได้อีก 7 ราย ฝ่าฝืน "พ.ร.ก.ฉุกเฉิน"

พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ หัวหน้าชุดประสานงานกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม  แถลงข่าวผลตรวจสอบและดำเนินคดีกับการเสนอข่าวปลอมหรือบิดเบือนทางสื่อออนไลน์ ในช่วงวันที่ 24-29 เม.ย.63 ตรวจพบอีก 7 ราย  ได้โพสต์ข้อความข่าวปลอมว่า “คลิปสัมภาษณ์ ผวจ.สุรินทร์ เผยสถานการณ์ COVID-19 มีคนติดเชื้อ 100,000 คน” ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ขอหมายค้น 7 จุด ตรวจค้นพบตัวผู้กระทำผิด และส่งดำเนินคดีทั้งหมด ณ ห้องประชุม MDES 1 ชั้น 9 กระทรวงดิจิทัลฯ เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2563  ทั้ง 7 ราย ประกอบด้วย 1. น.ส.ประภาพร ฯ ผู้ใช้เฟสบุ๊ก Ju… อยู่ในพื้นที่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 2. นายทนงศักดิ์ ฯ ผู้ใช้เฟสบุ๊ก Thanongsak …อยู่ในพื้นที่ อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์  3. น.ส.ทิพวรี ฯ ผู้ใช้เฟสบุ๊ก โรส ... อยู่ในพื้นที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่   4. น.ส.บุญนภัส ฯ ผู้ใช้เฟสบุ๊ก Nanniiz ... อยู่ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ชลบุรี 5. นายปัญญาพล ฯ  ผู้ใช้เฟสบุ๊ก ปัญญาพล ...อยู่ในพื้นที่ อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ 6. นายวัชรินทร์ ฯ ผู้ใช้เฟสบุ๊ก วัชรินทร์ ...อยู่ในพื้นที่ เขตดินแดง กรุงเทพฯ 7. น.ส.สุทัชชา ฯ ผู้ใช้เฟสบุ๊ก น้ำใส ... อยู่ในพื้นที่ อ.สังคม จ.หนองคาย จากการเข้าตรวจค้น ทั้งหมดยอมรับว่าโพสต์จริง เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดโทรศัพท์มือถือที่ใช้ในการกระทำผิด และนำส่งพนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ เพื่อดำเนินการต่อไป
 

 

ทั้งนี้ ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม (Anti-Fake News Center) ซึ่งกระทรวงดีอีเอสและสำนักงานตำรวจแห่งชาติเอาจริงเอาจังกับการป้องกันและปราบปรามข่าวปลอม เพราะถือเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่โซเชียลมีเดียมีอิทธิพลต่อสังคมอย่างมาก บางคนอาจจะตั้งใจโพสต์ข่าวปลอม หรือบางคนอาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์นำไปโพสต์หรือแชร์ต่อ ถือว่าความผิดนั้นสำเร็จ และก่อให้เกิดผลกระทบที่เสียหาย ยิ่งในช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ อาจทำให้ผู้คนตื่นตระหนกหรือเกิดความไม่สงบเรียบร้อยได้ โดยผู้กระทำผิดมีโทษตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ