จากการล้มละลาย 'การบินไทย' ถึง 'การฟื้นฟูกิจการ' สู่การแปลงหนี้เป็นทุน
จากกรณี ครม.ไฟเขียวอนุมัติ "การบินไทย" เข้าศาลล้มละลาย "กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" จะพามาทำความเข้าใจการฟื้นฟูกิจการ และการแปลงหนี้เป็นทุน ผ่าน พ.ร.บ.ล้มละลายฯ
[บทความนี้มาจาก บทความเรื่อง การฟื้นฟูกิจการ และการแปลงหนี้เป็นทุน โดยสกล หาญสุทธิวารินทร์ คอลัมน์ค้าๆ ขายๆ กับกฎหมายธุรกิจ ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 19 พฤษภาคม 2563]
กฎหมายล้มละลายตราออกมาบังคับใช้ เพื่อให้เจ้าหนี้มีช่องทางจัดการกับหนี้สินของลูกหนี้ที่มีหนี้สินล้นพ้นตัว ที่ใช้บังคับปัจจุบันคือ พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ล้มละลาย พ.ศ.2483
หลักการคือ เจ้าหนี้ต้องฟ้องลูกหนี้ที่มีหนี้สินล้นพ้นตัว เป็นคดีล้มละลาย เมื่อมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาด และพิพากษาให้ลูกหนี้เป็นบุคคลล้มละลาย จะมีการดำเนินการรวบรวมทรัพย์สินของลูกหนี้ออกขายทอดตลาด เพื่อแบ่งเงินให้เจ้าหนี้ต่อไป
ในปี พ.ศ.2541 ได้มีการตรา พ.ร.บ.ล้มละลาย (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2541 แก้ไขเพิ่มเติมเป็นหมวด 3/1 กระบวนการพิจารณาเกี่ยวกับการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้มาตรา 90/1 ถึงมาตรา 90/90 แห่ง พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2541 เพื่อให้ลูกหนี้มีโอกาสได้ฟื้นฟูกิจการ โดยเปิดช่องให้สถาบันทางการเงิน หรือเอกชนสามารถให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ลูกหนี้นิติบุคคลที่ขาดสภาพคล่องทางการเงินชั่วคราว เพื่อให้ฟื้นฟูกิจการได้
ต่อมาในปี 2559 ได้มีการตรา พ.ร.บ.ล้มละลาย (ฉบับที่ 9) พ.ศ.2559 แก้ไขเพิ่มเติม เป็นหมวด 3/2 กระบวนพิจารณาเกี่ยวกับการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ที่เป็นวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมมาตรา 90/91 ถึงมาตรา 90/128 แห่ง พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 เพื่อให้วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ทั้งที่เป็นบุคคลธรรมดาที่มีหนี้ไม่น้อยกว่าสองล้านบาท ห้างหุ้นส่วนสามัญ คณะบุคคล ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ที่มีหนี้ไม่น้อยกว่าสามล้านบาท และบริษัทจำกัดที่มีหนี้ไม่น้อยกว่าสามล้านบาทแต่ไม่ถึงสิบล้านบาท ที่ไม่อยู่ในสถานะชำระหนี้ได้ และมีเหตุอันสมควรและมีช่องทางฟื้นฟูกิจการได้ ให้สามารถเข้าสู่กระบวนฟื้นฟูกิจการตามที่บัญญัติในหมวด 3/2 ได้
สำหรับบทบัญญัติในหมวด 3/1 กระบวนการพิจารณาเกี่ยวกับ "การฟื้นฟูกิจการ" ของลูกหนี้มีสาระสำคัญ โดยสรุปดังนี้
ลูกหนี้ ที่เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการได้ คือลูกหนี้ที่เป็นบริษัทจำกัด บริษัทมหาชนจำกัด และสหกรณ์เครดิตยูเนียนตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ที่มีหนี้สินล้นพ้นตัวเป็นหนี้เจ้าหนี้คนเดียวหรือหลายคน เป็นจำนวนแน่นอนไม่น้อยกว่าสิบล้านบาท
- ผู้มีสิทธิยื่นคำขอให้มีการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ คือ
- เจ้าหนี้คนเดียวหรือหลายคนรวมกันที่มีจำนวนหนี้ที่แน่นอนไม่น้อยกว่าสิบล้านบาท
- ลูกหนี้เอง
- หน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจหน้าที่กำกับดูแลการประกอบกิจการบางประเภทของนิติบุคคล เช่นธนาคารแห่งประเทศไทย กลต. คปภ. เมื่อลูกหนี้เป็นผู้ประกอบกิจการในการกำกับดูแล
ทั้งนี้เจ้าหนี้ของลูกหนี้ หรือลูกหนี้ที่ประกอบกิจการที่มีการกำกับดูแลโดยหน่วยงานขอรัฐ จะยื่นคำร้องด้วยตนเองได้ เมื่อได้รับคำยินยอมจากหน่วยงานของรัฐนั้นแล้ว
- การยื่นคำขอฟื้นฟูกิจการ
คำขอต้องแสดง ถึงข้อเท็จจริงตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 90/6 ที่สำคัญคือ เหตุอันสมควรและช่องทางที่จะฟื้นฟูกิจการ ชื่อและคุณสมบัติของผู้ทำแผนและหนังสือยินยอมเป็นผู้ทำแผน ทั้งนี้ผู้ทำแผนจะเป็นบุคคลธรรมดา นิติบุคคล คณะบุคคล เจ้าหนี้หรือผู้บริหารของลูกหนี้ก็ได้
- การคุ้มครองลูกหนี้
เมื่อศาลรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ ลูกหนี้จะได้รับการคุ้มครองโดยผลของกฎหมาย 10 ประการ ที่สำคัญคือ ห้ามมิให้มีการฟ้องลูกหนี้ในคดีแพ่งเกี่ยวกับทรัพย์สินของลูกหนี้ ห้ามเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาบังคับคดีแก่ทรัพย์สินของลูกหนี้ ห้ามเจ้าหนี้มีประกันบังคับชำระหนี้เอาแก่ทรัพย์สินที่เป็นหลักประกัน ห้ามเจ้าหนี้ซึ่งบังคับชำระหนี้ได้เองตามกฎหมายมิให้บังคับชำระหนี้ยึดทรัพย์สินหรือขายทรัพย์สินของลูกหนี้ ห้ามมิให้เจ้าของทรัพย์สินที่เป็นสาระสำคัญในการดำเนินกิจการของลูกหนี้ตามสัญญาเช่าซื้อ หรือเงื่อนไข ติดตามเอาคืนทรัพย์สินดังกล่าวในความครอบครองของลูกหนี้หรือบุคคลที่อาศัยสิทธิของลูกหนี้ ห้ามมิให้ผู้ให้บริการไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ งดให้บริการแก่ลูกหนี้
- ข้อห้ามลูกหนี้
ห้ามลูกหนี้จำหน่ายจ่ายโอน ให้เช่า ชำระหนี้ ก่อหนี้ หรือกระทำการใดฯที่ก่อให้เกิดภาระในทรัพย์สิน นอกจากการกระทำที่จำเป็นเพื่อให้การดำเนินการค้าตามปกติของลูกหนี้สามารถดำเนินต่อไปได้
- การขอรับชำระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการ
เจ้าหนี้จะขอรับชำระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการได้ต้องปฏิบัติตามวิธีการที่กำหนดไว้ตามมาตรา 90/26 ถึงมาตรา 90/33 ผู้ที่ซื้อหุ้นกู้ไว้ต้องยื่นคำขอชำระหนี้ตามบทบัญญัตินี้ มิฉะนั้นจะเสียสิทธิ ถ้าเป็นหุ้นกู้บริษัทมหาชนจำกัด อาจชำระหนี้โดยการแปลงหนี้เป็นทุนตามกฎหมายบริษัทมหาชนจำกัดก็ได้
- การตั้งผู้ทำแผน
ศาลจะเห็นชอบตั้งผู้ทำแผนตามที่ผู้ยื่นคำร้องเสนอหรือไม่ก็ได้ ถ้าศาลเห็นไม่สมควรต้องมีการเรียกประชุมเจ้าหนี้เพื่อเลือกผู้ทำแผน แล้วเสนอให้ศาลให้ความเห็นชอบต่อไป
- อำนาจการจัดการกิจการและทรัพย์สินของลูกหนี้
ในกรณีที่ศาลสั่งให้ฟื้นฟูกิจการ แต่ยังไม่มีการตั้งผู้ทำแผน อำนาจบริหารกิจการและทรัพย์สินของผู้บริหารลูกหนี้เป็นอันสิ้นสุดลง ศาลจะแต่งตั้งบุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือหลายคนเป็นผู้บริหารชั่วคราวภายใต้การกำกับดูแลของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จนกว่าจะจะมีการตั้งผู้ทำแผน ถ้ายังไม่มีผู้บริหารชั่วคราวก็ให้เป็นอำนาจของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในการจัดการเป็นการชั่วคราว
กรณีที่ศาลมีคำสั่งตั้งผู้ทำแผนแล้ว ให้อำนาจหน้าที่ในการจัดการกิจการและทรัพย์สินของลูกหนี้ และบรรดาสิทธิของผู้ถือหุ้นของลูกหนี้ยกเว้นสิทธิที่จะได้รับเงินปันผลตกแก่ผู้ทำแผน
- การให้ความเห็นชอบแผนฟื้นฟูกิจการ
แผนฟื้นฟูกิจการต้องได้รับความเห็นชอบจากจากมติของที่ประชุมเจ้าหนี้ และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ต้องเสนอต่อศาลเพื่อให้ศาลมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผนหรือไม่ต่อไป ทั้งนี้แผนต้องมีรายการตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา90/42(1)ถึง(9)เป็นอย่างน้อย โดยมีระยะเวลาในการดำเนินการไม่เกินห้าปี ในระหว่างการดำเนินการตามแผนก็อาจมีการแก้ไขแผนให้เหมาะสมตามความเห็นชอบของผู้เกี่ยวข้อง และศาล
- ผลการดำเนินการตามแผน
ถ้าสำเร็จตามแผน ศาลจะมีคำสั่งยกเลิกการฟื้นฟูกิจการ ลูกหนี้หลุดพ้นจากหนี้ยกเว้นส่วนที่มีการยื่นขอรับชำระหนี้ไว้แล้ว และกลับมาดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ ถ้าไม่สำเร็จ ถ้าศาลเห็นสมควรให้ลูกหนี้ลมละลาย จะมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้เด็ดขาด ถ้าเห็นไม่สมควรจะสั่งยกเลิกการฟื้นฟู
บทสรุป การที่เจ้าหนี้ฟ้องให้ลูกหนี้ที่มีหนี้สินล้นพ้นตัวให้เป็นบุคคลล้มละลาย จุดมุ่งหมายเพื่อให้มีการรวบรวมทรัพย์สินของลูกหนี้ขายทอดตลาด นำเงินมาแบ่งชำระหนี้แก่บรรดาเจ้าหนี้ทั้งหลาย ซึ่งแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงกับการยื่นคำขอให้ฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ ซึ่งไม่ได้มีจุดมุ่งหมายให้ศาลสั่งให้ลูกหนี้เป็นบุคคลล้มละลาย แต่เพื่อให้มีการดำเนินการฟื้นฟูกิจการนั้น เพื่อให้กิจการนั้นยังคงดำเนินการต่อไปได้
การฟื้นฟูกิจการตามกฎหมายล้มละลายมีข้อดี คือ เป็นการฟื้นฟูกิจการภายใต้อำนาจศาล ตามบทบัญญัติของกฎหมาย มีการกำกับดูแลโดยเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์และคณะกรรมการเจ้าหนี้