ปิดตำนาน 'แป้งเด็กจอห์นสัน' ในสหรัฐ-แคนาดา
“แป้งเด็กจอห์นสัน” เลิกขายในสหรัฐ-แคนาดา หลังถูกฟ้องมีสารก่อมะเร็ง และถือโอกาสยกเลิกผลิตสินค้ากว่า 100 รายการ ในช่วงระบาดโควิด-19
สื่อต่างประเทศรายงานว่า บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (Johnson & Johnson) ประกาศยุติการขายแป้งเด็กในสหรัฐและแคนาดา เนื่องจากยอดขายลดลงอย่างมาก ท่ามกลางคดีฟ้องร้องหลายหมื่นคดีที่กล่าวหาว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวของบริษัทมีสารก่อมะเร็ง
จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เป็นบริษัทผลิตสินค้าด้านการดูแลสุขภาพรายใหญ่ที่สุดของโลกเปิดเผยเมื่อวันอังคาร (19 พ.ค.) ว่า บริษัทจะยังคงจำหน่ายแป้งฝุ่นทาตัวดังกล่าวภายนอกสหรัฐและแคนาดาต่อไป
ในแถลงการจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ระบุว่า ความต้องการแป้งเด็กทาตัวของบริษัทได้ลดลงในอเมริกาเหนือ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภค และเป็นผลจากข้อมูลผิดๆ เกี่ยวกับความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ และการฟ้องร้องดำเนินคดีเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของบริษัทอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ได้ถูกฟ้องร้องประมาณ 19,400 คดี ซึ่งกล่าวหาว่าแป้งฝุ่นโรยตัวของบริษัทเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ใช้เป็นมะเร็งรังไข่ หรือมะเร็งเยื่อหุ้มปอด
ในการต่อสู้คดีที่ผ่านมานั้น โดย จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ชนะ 12 คดี, แพ้ 15 คดี และคดีที่ลูกขุนยังไม่สามารถตกลงกันได้ 7 คดี ส่วนคดีที่แพ้ทั้งหมดนั้นยังคงอยู่ในขั้นอุทธรณ์ หรือถูกยกคำร้องอุทธรณ์ให้ตัดสินยืนตามศาลชั้นต้น
ด้านผลวิจัยทางการแพทย์ส่วนใหญ่ และงานวิจัยของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ยืนยันว่า แป้งเด็กโรยตัวดังกล่าวมีความปลอดภัย และไม่ได้ก่อให้เกิดโรคมะเร็ง
นายอีริค กอร์ดอน ศาสตราจารย์ของโรงเรียนธุรกิจแห่งมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ไม่ว่าแป้งเด็กดังกล่าวจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งหรือไม่นั้น ประชาชนก็ลังเลที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว
คิมเบอร์ลี มอนแทกนิโน โฆษกของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ระบุว่า บริษัทไม่มีแผนการที่จะยุติการต่อสู้คดีใดๆ และจะยังคงดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อปกป้องผลิตภัณฑ์ของบริษัท
อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจยุติการขายแป้งเด็กในสหรัฐและแคนาดามีขึ้น ขณะที่บริษัทยกเลิกการผลิตสินค้าเพื่อสุขภาพผู้บริโภคประมาณ 100 รายการ และตั้งเป้าให้ความสำคัญมากกว่ากับผลิตภัณฑ์ที่มีความต้องการสูงท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19