‘เฟซบุ๊ค’ เปลี่ยนวิกฤติโควิด ไฟเขียวพนักงาน 50% ทำงานทางไกล
“เฟซบุ๊ค” วางแผนอนุญาตให้พนักงาน 50% ทำงานทางไกล ภายใน 5-10 ปี หลังเจอวิกฤติโควิด-19
เว็บไซต์ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า เฟซบุ๊ควางแผนปรับเปลี่ยนให้พนักงานทำงานทางไกล (remote workforce) เพื่อยกระดับรูปแบบการปฏิบัติงานแบบถาวร หลังจากเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)
นายมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร(ซีอีโอ) เฟซบุ๊ค กล่าวกับทีมพนักงานผ่านไลฟ์สตรีมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (21 พ.ค.) ว่า จะเปิดโครงการรับสมัครให้พนักงานของเฟซบุ๊คทำงานทางไกล ยิงตรงมาจากที่บ้าน โดยตั้งเป้าไว้ 50% ภายใน 5-10 ปีข้างหน้านี้
โครงการดังกล่าว นายซัคเคอร์เบิร์กต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงสัญลักษณ์ครั้งสำคัญของเฟซบุ๊ค ซึ่งเป็นโซเชียลมีเดียใหญ่ระดับโลก ที่ต้องการสนับสนุนให้พนักงานทำงานทางไกล หลังจากเกิดการระบาดโรคโควิด-19
แนวคิดที่นายซัคเคอร์เบิร์กเสนอนี้ ได้สร้างความพอใจให้กับพนักงานเฟซบุ๊ค และแนวคิดนี้ เกิดขึ้นหลังคำประกาศของทวิตเตอร์ 2 สัปดาห์ที่อนุญาตให้พนักงานของบริษัทสามารถทำงานจากที่บ้านได้ตลอดชีวิต
ทั้งนี้ ซีอีโอเฟซบุ๊ค เปิดเผยด้วยว่า บริษัทเตรียมที่จะจ้างวิศวกร 10,000 ตำแหน่งในปีนี้ ซึ่งในทางกายภาพอาจต้องมีพื้นที่สำหรับการทำงาน โดยจะสร้างศูนย์แห่งใหม่ในแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย ดัลลัส รัฐเทกซัส และเดนเวอร์ รัฐโคโลราโดว่า แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นสำนักงาน
อย่างไรก็ตาม นายซัคเคอร์เบิร์กมองว่า น่าจะมีพนักงานเฟซบุ๊คราว 25% ยังต้องกลับไปทำงานที่ออฟฟิศอยู่ ขณะที่พนักงานทำงานระบบทางไกลจะต้องรายงานพิกัดสถานที่ให้บริษัทได้ทราบ จะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2564 นอกจากนี้ จะมีการปรับเงินเดือนตามรูปแบบการปฏิบัติงานด้วย