กลาโหมชงข้อมูล หักหัวคิวโรงแรม ปูดใช้ 'แก๊งเซลล์'
กลาโหมส่งข้อมูลหักหัวคิวโรงแรมกักตัวกลุ่มเสี่ยงโควิด-19 ถึงมือ ตร. ขณะที่ภาคเอกชนท่องเที่ยวชลบุรี ร่วมแฉพฤติกรรม ระบุใช้เซลล์ร่วม 10 คน กระจายติดต่อโรงแรม หักหัวคิววันละ 400 บาท จ่ายคอมมิชชั่น อีกห้องละ 50 บาท แจ้งให้ออกใบเสร็จ 30 วัน
วานนี้ (26พ.ค.) พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงกรณีลงพื้นที่ตรวจสอบประเด็นข้อกล่าวหา มีบุคคลภายในศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เรียกเก็บหัวคิวจากเจ้าของโรงแรม ที่เป็นสถานที่กักตัวกลุ่มเสี่ยงโควิด-19 ของรัฐ (State Quarantine) ว่า เบื้องต้นพบข้อกล่าวหามีมูล และมีผู้เกี่ยวข้องหลายคน ไม่เฉพาะอักษรย่อ “พ.” ตามที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์กรพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ระบุในการติดตามตรวจสอบเรื่องดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ทั้งหมดได้ เพราะจะมีผลต่อรูปคดี ซึ่งได้ส่งเอกสารหลักฐาน ให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ดำเนินการสอบสวนต่อแล้ว และหากผู้กระทำผิดเป็นข้าราชการ ก็จะต้องเอาผิดทั้งวินัย และอาญา ซึ่งเชื่อว่ากระบวนการของตำรวจ จะสามารถดำเนินการเอาคนผิดมาลงโทษได้เร็ว
ทั้งนี้ยืนยันว่าการกระทำผิดของกลุ่มบุคคลดังกล่าวนั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับหน่วยงานราชการแต่อย่างใด แต่เป็นความผิดเฉพาะตัวบุคคลเท่านั้น
ยังไม่พบจนท.รัฐ-ศบค.เอี่ยว
ขณะเดียวกัน พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะโฆษก ตร.เปิดเผยว่า กระทรวงกลาโหมได้ส่งข้อมูลมาที่ ตร.แล้ว เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นที่พัทยา จ.ชลบุรี คาดว่าข้อมูลน่าจะมีการส่งไปให้ตำรวจภูธรภาค 2 ดำเนินการ โดย ผบ.ตร.ไม่ได้สั่งกำชับอะไรเป็นพิเศษ เมื่อมีการร้องเรียนให้ดำเนินคดีหรือตรวจสอบทางตำรวจภูธรภาค 2 ก็ดำเนินไปตามขั้นตอนอยู่แล้ว
ด้าน พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ระบุว่า ตำรวจภูธรภาค 2 ได้รับมูลหลักฐานจากทางกระทรวงกลาโหมแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายชื่อของบุคคลที่คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับการเรียกค่าหัวคิว ซึ่งตำรวจขอเวลาในการสืบสวนสอบข้อเท็จจริงก่อน หากบุคคลใดมีการกระทำผิดก็ต้องดำเนินคดีไปตามกฎหมาย
“ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐ หรือคนในศบค.เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ส่วนรายชื่ออักษรย่อ “พ” ตามที่นายศรีสุวรรณระบุ โดยอ้างว่าเป็นคนใน ศบค. และเกี่ยวข้องกับการเรียกหัวคิวนั้น ทางตำรวจยังไม่ทราบว่าเป็นใคร และยังไม่มีข้อมูลในส่วนนี้”
ใช้เซลล์10คนติดต่อโรงแรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาคเอกชนท่องเที่ยวเมืองพัทยาและ จ.ชลบุรี ได้รวบรวมข้อมูลกรณีที่มีการติดต่อให้โรงแรมในเมืองพัทยาและทั่ว จ.ชลบุรี เข้าร่วมเป็นสถานที่กักกันของรัฐ (State Quarantine) เพื่อรองรับคนไทยกลับมาจากต่างประเทศ และเรียกค่าหัวคิว 30-40% ซึ่งเป็นข้อมูลที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้สั่งการให้ไปจัดการนั้น บรรดาผู้ประกอบการโรงแรมที่ได้รับการติดต่อต่างให้ข้อมูลตรงกันว่า ขบวนการนี้ใช้เซลล์ร่วม 10 คนกระจายกันไปติดต่อแต่ละโรงแรม
ระบุให้หักเงินสดคืนละ400
ส่วนที่มีการเรียกหัวคิว ได้ระบุในการติดต่อว่า เงื่อนไขภาครัฐจะใช้เป็นสถานที่กักตัวคนไทยที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ พัก 14 วัน แต่ทางกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จะจ่ายให้ 30 วัน โดยให้โรงแรมออกบิลห้องละ 1,000 บาท เป็นเวลา 30 วัน หรือคิดเป็น 30,000 บาท และให้หักจากส่วนนี้ คืนละ 400 บาท เมื่อคิดรวม 30 วัน คิดเป็นวงเงินรวม 12,000 บาท คืนให้กับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ที่ส่งงานให้เป็นเงินสดเท่านั้น จะไม่มีการผ่านธนาคารแต่อย่างใด โดยระบุว่าต้องนำเงินดังกล่าวไปรับผิดชอบเรื่องซักผ้าปูและปลอกหมอน
หักค่าคอมฯอีกห้องละ50บาท
นอกจากนั้น โรงแรมต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่นอีก ห้องละ 50 บาท เป็นจำนวน 30 วัน ที่ สธ.จ่าย โดยระบุให้จ่ายกับผู้ประสานงานที่ติดต่อส่งงานให้ ทั้งนี้ ต้องผ่านการตรวจสอบของ สธ.ก่อน ส่วนเรื่องสัญญาถ้าผ่านเรียบร้อยแล้ว ทางกรมควบคุมโรคจะเป็นคนทำสัญญากับโรงแรม
อย่างไรก็ตาม ทางโรงแรมระบุตรงกันว่า ภายหลังได้มีการติดต่อจากเซลล์เข้ามาใหม่ว่า จะขอหักหัวคิวลดลง เหลือคืนละ 300 บาท เพื่อให้โรงแรมได้ไป คืนละ 700 บาท
ทั้งนี้เจ้าของธุรกิจโรงแรมในพัทยา ระบุข้อมูลว่า เซลล์ที่เข้ามาติดต่อจะหว่านล้อมในหลายๆ รูปแบบ พร้อมแจ้งว่าแม้โรงแรมจะถูกหักหัวคิว 30-40% แต่จำนวนผู้เข้าพักจริงๆ แค่ 14 วัน และให้ออกบิล 30 วัน ฉะนั้นโรงแรมจะได้รับเงินต่อห้อง วันละ 1,285 บาท แต่ไม่มีโรงแรมใดเข้าร่วมเพราะจะเท่ากับเป็นการร่วมทุจริต