เปิดมูลเหตุ! นายช่างคลั่ง ยิง 'ผอ.-หัวหน้า-เพื่อน' สวท.พิษณุโลก ดับ 3 ศพ

เปิดมูลเหตุ! นายช่างคลั่ง ยิง 'ผอ.-หัวหน้า-เพื่อน' สวท.พิษณุโลก ดับ 3 ศพ

อัพเดทล่าสุด เปิดมูลเหตุ นายช่างคลั่ง ยิง "ผอ.-หัวหน้า-เพื่อน" สวท.พิษณุโลก ดับ 3 ศพ สาหัส 1 ราย เผย 3 ผู้ประกาศสาวรอดตายหวุดหวิด

สะทือนขวัญ! นายช่างเครื่องส่ง เกิดอาการเครียดจัด คว้าปืน 2 กระบอก กระหน่ำยิงเพื่อนร่วมงานดับอนาถ 3 ศพ เผย 1 ในนั้นเป็น ผอ.สวท.พิษณุโลก บาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย ภายในสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดพิษณุโลก

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 27 พฤษภาคม ที่สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดพิษณุโลก (สวท.พิษณุโลก) 137/1 ม.5 บ้านคลอง. อ.เมือง จ.พิษณุโลก นายวิม สอนสด ช่างไฟฟ้าชำนาญงาน ตำแหน่งนายช่างเครื่องส่ง เกิดอาการคลั่ง ใช้อาวุธปืน ขนาด 9 มม. และ .38 รวม 2 กระบอก เป็นอาวุธมีทะเบียนของผู้ก่อเหตุ ไล่ยิงเจ้าหน้าที่ภายใน สวท.พิษณุโลก

มีผู้เสียชีวิต คือ 1.นายสานิตย์ บุตรมางกูล ผอ.สวท.พิษณุโลก เสียชีวิตอยู่บริเวณด้านนอกด้านหลังอาคาร 2.นายจิรวุฒิ สุเมธเทพานันท์ นายช่างไฟฟ้า อาวุโส เสียชีวิตอยู่บริเวณกลางห้องโถงของอาคาร สวท.พิษณุโลก และ 3.นายภูมิศรัณญ์ พันธ์ภูมิ นายช่างอาวุโส เสียชีวิตอยู่ภายในห้องจัดรายการวิทยุ

นอกจากนี้ ยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย คือ นายปรุง จันทร์แดง ช่างเครื่องส่ง หลังก่อเหตุมือปืน รอมอบตัวอยู่ในที่เกิดเหตุ สาเหตุเบื้องต้นคาดเกิดจากปัญหาส่วนตัวภายในที่ทำงาน

เล่าเหตุกราดยิงระทึก

พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก รุดไปที่เกิดเหตุทันทีและพบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก สามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุ คือนายวิม สอนสุดไว้ได้ พร้อมอาวุธปืนของกลาง 2 กระบอก นายวิมได้พาตำรวจไปชี้จุดที่ยิงเพื่อนร่วมงานทั้ง 3 จุด นายวิม ยอมรับกับเจ้าหน้าที่ว่า เป็นผู้ก่อเหตุจริง กล้าทำกล้ารับผิดชอบ และตนทำเฉพาะผู้ชาย ไม่ยิงผู้หญิง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายวิมไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองพิษณุโลก

ขณะที่พนักงาน สวท.พิษณุโลก ที่เป็นผู้หญิง 3 ราย ที่อยู่ภายในสถานี ต่างอยู่สภาพตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก ทั้ง 3 รายร่ำไห้ด้วยความเสียใจ โดยนางสาววิจิตรา จันเข็ม นักจัดรายงานวิทยุ เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุเวลาประมาณ 10.20 น. กำลังนั่งจัดรายการวิทยุในห้องส่ง ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด จึงรีบหลบเข้าไปอยู่ใต้โต๊ะภายในห้องส่ง และยังได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีกหลายนัด ได้โทรไลน์ส่งข่าวแจ้งขอความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมงาน กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงจึงกล้าออกมา

นางสาววิจิตรา สัมปุรณะพันธ์ ผู้ประกาศเอเอ็ม สวท.พิษณุโลก เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุอยู่ในห้องทำงานปีกซ้ายของอาคาร ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด จึงรีบไปหลบใต้โต๊ะทำงาน ได้ยินเสียงเดินเข้ามาเปิดห้อง และเดินออกไปนอกห้อง และยังได้ยินเสียงยิงปืนด้านข้างสถานีอีก ไล่วิ่งไปยิง ผอ. จึงโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือ 191 พิษณุโลก และหมอบอยู่ใต้โต๊ะ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่มาถึง

ขณะที่บรรยากาศภายในสถานี เต็มไปด้วยความโศกเศร้าของเพื่อนร่วมงานที่ทราบข่าว ญาติผู้เสียชีวิตได้มายังจุดเกิดเหตุ ต่างโผกอดแสดงความเสียใจ

แรงจูงใจยิงดับ 3 ศพ สวท.พิษณุโลก

พล.ต.ท.อภิชาติ ศิริสิทธิ์ ผบช.ภ.6 ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุให้สัมภาษณ์เบื้องต้นว่า ผู้ก่อเหตุมีเหตุโกรธเคืองกับนายช่างใหญ่มาก่อนหน้านี้ มีการเตรียมการโดยเตรียมทั้งอาวุธปืนและอาวุธมีดมา มาถึงก็ยิงเข้าใส่หัวหน้าช่าง และมีผู้เห็นเหตุการณ์ในขณะนั้นจึงตามไปยิง จนกระทั่ง ผอ.สวท.พิษณุโลก มาเห็นเข้าจึงพยายามวิ่งหนีแต่สุดท้ายก็ไปไม่รอดถูกยิงเสียชีวิตที่บริเวณด้านหลังอาคาร

จากนั้นผู้ก่อเหตุจึงยืนรอมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยของกลางทั้งปืนและมีด ที่ใช้ก่อเหตุ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 3 คน บาดเจ็บสาหัส 1 ราย ให้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน และพิสูจน์หลักฐาน พร้อมแพทย์เก็บหลักฐานที่เกิดเหตุ ขอนำตัวผู้ก่อเหตุสอบสวนก่อน ว่าสาเหตุที่แท้จริงเกิดจากอะไรกันแน่ พร้อมทั้งเน้นย้ำเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดูแลตัวผู้ก่อเหตุอย่างใกล้ชิด ระมัดระวังผู้ต้องหาฆ่าตัวตาย ในระหว่างการควบคุมของเจ้าหน้าที่

ที่บ้านพักของนายวิม สอนสุด ผู้ก่อเหตุ อยู่ภายในบริเวณ สวท.พิษณุโลก จากการสอบถามนายวัชระ ธีระสาโรช อายุ 59 ปี รปภ.เพื่อนร่วมงานของผู้ก่อเหตุ ได้เปิดเผยว่า ตัวผู้ก่อเหตุมีอาการทางประสาท โดยทราบมาว่าได้รักษาตัวเองโดยกินยาระงับประสาทมา 3 ปีแล้ว แต่ไม่แน่ใจว่าระยะหลังขาดยาหรือเปล่า ส่วนมูลเหตุน่าจะเกิดจากความเครียดเรื่องบ้านพัก เพราะก่อนหน้านี้ ผอ.สวท. ได้เรียกเจ้าหน้าที่ประชุมเรื่องบ้านพักข้าราชการใหม่ (ก่อสร้างใหม่) ส่วนตัวผู้ก่อเหตุอยู่บ้านพักหลังเก่า และเก็บของเก่าไว้รอขายเป็นจำนวนมาก ผอ.สวท.จึงสั่งย้ายออกไปจากบ้านพักหลังเดิม เพราะต้องเตรียมรื้อถอนหลังเก่า ตัวผู้ก่อเหตุจึงจำเป็นต้องย้ายมาอยู่ห้องข้างหลัง สวท. แต่ยังไม่สามารถขนของเก่าที่เก็บจำนวนมากออกมาได้ น่าจะเป็นสาเหตุหนึ่งในความเครียดและกดดัน