สยามพิวรรธน์ผุด 4 บิ๊กโปรเจก เปิดพื้นที่หนุนผู้ค้าระบายสต็อกกระตุ้นเศรษฐกิจ
หนึ่งในรีเซ็ตธุรกิจจากวิกฤติโควิดของกลุ่มธุรกิจสยามพิวรรธน์ ในฐานะผู้บริหารพื้นที่ขาย และศูนย์รวมการใช้ชีวิตของผู้คน! มุ่งสนับสนุนและสร้างประโยชน์ให้คนไทยกลับมายืนหยัดได้อย่างเข้มแข็ง ผ่านแคมเปญ “I Love Siam-Smile Together”
นับเป็นการเดินหน้าช่วยกระตุ้นให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ ผ่านการนำโมเดลธุรกิจรีเทลใหม่ ที่เรียกว่า “ระบบนิเวศค้าปลีก” เข้ามาสร้างสมดุลทางการค้าเชื่อมโยงให้เกิดความสำเร็จอย่างยั่งยืนระหว่างผู้ผลิตและผู้ซื้อ ผ่าน 4 โครงการนำร่อง "ตลาดนัดยิ้มสยาม-โครงการ Siam Smile Space-โครงการฟื้นใจไทย-ไทยช่วยไทย ยิ้มไปด้วยกัน" เปิดพื้นที่ขายกว่า 27,000 ตร.ม. ให้ผู้ผลิต ผู้ค้าต่างๆ จำหน่ายสินค้าโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
ชนิสา แก้วเรือน รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เจ้าของและผู้บริหาร วันสยาม โกลบอล เดสทิเนชัน (OneSiam Global Destinations) ซึ่งเป็นการผนึกกำลังของศูนย์การค้าสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และหนึ่งในพันธมิตรเจ้าของโครงการไอคอนสยาม อภิมหาโครงการเมืองริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา กล่าวว่า แม้ขณะนี้สถานการณ์โควิดจะมีทิศทางที่ดีขึ้น แต่ผู้คนจำนวนมากยังคงประสบปัญหา ไม่สามารถกลับมาค้าขายและใช้ชีวิตเช่นเดิมได้!
จากข้อมูลของกรมการจัดหางานเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา มีผู้มาขอขึ้นทะเบียนใช้สิทธิ์ว่างงานผ่านออนไลน์สูง 267,351 คน เพิ่มขึ้นถึง 84.56% เมื่อเทียบเดือน มี.ค. และผู้ว่างงานส่วนใหญ่เป็นผู้ถูกเลิกจ้างจากผลกระทบของสถานการณ์โควิด
สำหรับ วันสยาม และไอคอนสยาม หลังเปิดบริการตั้งแต่ 17 พ.ค.มีลูกค้ากลับมาใช้บริการราว 50% จากปกติวันสยาม มีลูกค้าหมุนเวียน 250,000 คนต่อวัน และไอคอนสยาม 80,000 คนต่อวัน โดยกลุ่มสินค้าสุขภาพ ของใช้ภายในบ้าน ได้รับความนิยมสูง
“เวลานี้เรามีพันธมิตรหลายภาคส่วนที่เชี่ยวชาญแต่ละด้านเข้ามาร่วมด้วยช่วยกันทำโปรเจกต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจทั้งซัพพลายเชน ทำให้อุตสาหกรรมค้าปลีกกลับมาฟื้นแบบแข็งแรงอีกครั้ง”
โครงการ “I Love Siam-Smile Together” ต้องการปลุกพลังคนไทยช่วยเหลือคนไทยด้วยกัน ผ่านการจับจ่ายใช้สอยสินค้าที่คนไทยผลิต โดยสยามพิวรรธน์ เป็นสื่อกลางพื้นที่แห่งความสุขที่จะสร้างรอยยิ้มให้ทั้งพนักงาน และผู้ประกอบการรายย่อย ที่ขาดรายได้ และยังต้องการความช่วยเหลือ รวมถึงชาวไทยในฐานะลูกค้าที่จะได้มาสนุกกับการจับจ่ายใช้สอยอีกครั้ง ซึ่งอยู่ภายใต้กลยุทธ์ “การสร้างคุณค่า สมประโยชน์ร่วมกันสู่ความยั่งยืน” ที่มุ่งสร้างประโยชน์และความสำเร็จร่วมกันให้แก่ผู้ประกอบการและผู้บริโภคอย่างยั่งยืน
โดย 4 โครงการ ประกอบด้วย "ตลาดนัดยิ้มสยาม" โดยสยามพิวรรธน์ เปิดพื้นที่ รอยัล พารากอน ฮอลล์ และทรูไอคอน ฮอลล์ จัดกิจกรรม ตลาดนัดยิ้มสยาม ให้พนักงานและผู้ประกอบการทั่วประเทศที่รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด อาทิ ผู้ส่งออกที่ไม่สามารถส่งสินค้าไปต่างประเทศได้ พนักงานที่ผันตัวมาขายของหลังถูกเลิกจ้าง เข้ามาขายสินค้าวันที่ 24-28 มิ.ย. ที่รอยัลพารากอนฮอลล์ วันที่ 1-5 ก.ค. ที่ ทรูไอคอน ฮอลล์ พื้นที่รวมกว่า 12,000 ตร.ม.
สยามพิวรรธน์ สนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยจากต่างจังหวัด ดีไซเนอร์ นักออกแบบไทยที่มีความสามารถ เยาวชน ผู้พิการ ผู้ทุพพลภาพ เด็กพิเศษ และผู้ด้อยโอกาส เพื่อให้มีโอกาสทำธุรกิจ และใช้สถานที่ของสยามพิวรรธน์เป็นเวทีนำเสนอสินค้าและบริการหลากหลายประเภท โดยร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรภาครัฐ และเอกชน ได้แก่ สถาบันส่งเสริมสินค้าเกษตรนวัตกรรม กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ และกรมส่งเสริมสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อเชื่อมต่อกับผู้ประกอบการไทยรายย่อยทั่วประเทศที่ได้รับผลกระทบให้ได้รับโอกาสในการเข้ามาจำหน่ายสินค้า
“กิจกรรมครั้งนี้ เราต้องการช่วยผู้ประกอบการไทยจากทั่วประเทศให้ก้าวข้ามผ่านวิกฤติและกลับมามีรอยยิ้มและความสุขอีกครั้ง”
โครงการที่สอง “Siam Smile Space” พื้นที่ทำงานแห่งรอยยิ้มและความสุข จากวิถีชีวิตที่ต้องปรับเปลี่ยนแปลงกะทันหันจากวิกฤติโควิด โดยเฉพาะการทำงานจากบ้าน ทำให้หลายคนเกิดอาการตึงเครียด แม้จะมีมาตรการผ่อนคลายของภาครัฐ แต่ผู้คนส่วนใหญ่ยังคงกังวลถึงความปลอดภัยในที่สาธารณะ จึงได้เปิดพื้นที่ทำงานแห่งรอยยิ้มและความสุขในรูปแบบ “โค-เวิร์กกิ้ง สเปซ” บนพื้นที่ของศูนย์การค้าในเครือสยามพิวรรธน์ เปิดให้ใช้พื้นที่ตั้งแต่ต้นเดือน มิ.ย.นี้
โครงการที่สาม ฟื้นใจไทย ใช้พื้นที่กว่า 15,000 ตร.ม. ที่เมืองสุขสยาม ไอคอนสยาม ช่วยเหลือกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบด้วยการเปิดพื้นที่ให้จำหน่ายสินค้าโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย แบ่งพื้นที่รองรับ 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มบุคคลทั่วไปหรือนักธุรกิจที่ผันตัวเองมาสร้างมูลค่าจากกิจการครอบครัวในพื้นถิ่น กลุ่มผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน อัตลักษณ์ไทยจาก 77 จังหวัด และกลุ่มเกษตรกรผลไม้จากสวน และเกษตรกรไทยดีเด่นที่กำลังประสบภาวะผลไม้ล้นตลาด จำหน่ายรอบละ 7-10 วัน ช่วยแก้ปัญหาผลไม้ล้นตลาดและผลไม้ที่ไม่สามารถส่งออกไปยังต่างประเทศได้ โดยให้เกษตรกรจากทุกภูมิภาคนำผลไม้เมืองร้อนที่ส่งออกไปทั่วโลกมาจำหน่ายทั้งเกษตรกรแปลงใหญ่ เกษตรกรกลุ่มวิสาหกิจชุมชน และกลุ่ม Young Smart Farmer เกษตรกรรุ่นใหม่ที่สืบทอดสวนผลไม้จากครอบครัวรุ่นสู่รุ่น และนำเทคโนโลยีเข้าไปผสมผสานพัฒนาทั้งด้านการตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์
โปรเจค “ไทยช่วยไทย ยิ้มไปด้วยกัน” ภายใต้ความร่วมมือกับหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย รวบรวมมหกรรมผลไม้ 5 ภาค และของใช้อุปโภคบริโภคซึ่งเป็นของดีประจำจังหวัด ส่งตรงจากชาวสวน และผู้ผลิตจากทั่วประเทศมาจำหน่ายบนพื้นที่ของศูนย์การค้าในเครือสยามพิวรรธน์ เพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าให้เกษตรกร จัดขึ้นเดือน ก.ค.บริเวณลานพาร์คพารากอน สยามพารากอน