พาณิชย์ ฝ่ากระแสโควิด-19 จัดงานแสดงสินค้า ดิจิทัลคอนเทนด์ โกยรายได้ 1,400 ล้านบาท

นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25-27 พ.ค.ที่ผ่านมา กรมได้จัดงานแสดงสินค้าดิจิทัลคอนเทนด์ ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ในรูปแบบเสมอจริงหรือ MOVE : Multimedia Online Virtual Exhibition  ระหว่างผู้ประกอบการไทยและต่างชาติภายใต้ MOVE.DITP.GO.TH  โดยสร้างบรรยากาศให้ผู้ประกอบการได้เข้ามาพบปะกันเสมือนได้เข้ามาอยู่ในงานเทศกาลภาพยนตร์และตลาดซื้อขายคอนเทนต์ พร้อมทั้งส่งเสริมให้เข้าถึงข้อมูลและความร่วมมือกันระหว่างผู้ประกอบการชั้นนำทั้ง ภาพยนตร์ แอนิเมชั่น คาแร็คเตอร์ มาจัดแสดงสินค้า บริการ และผลงาน ได้แบบเรียลไทม์ผ่านระบบออนไลน์

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมจับคู่เจรจาการทางธุรกิจผ่านระบบ VDO Conference ซึ่งเปรียบเสมือนห้องทำงานหรือพื้นที่เจรจาการค้าที่สามารถพูดคุย แลกเปลี่ยนข้อมูล ส่งไฟล์ หรือประชุมแบบเรียลไทม์ ได้แบบ One-on-One กับ ผู้นำเข้าทั่วโลก ถือได้ว่างานนี้เป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของการจัดงานแสดงสินค้าและบริการแนวใหม่ และอาจจะทำให้เกิด New Normal ใหม่ ในอนาคตได้ในไม่ช้า โดยการจัดงานครั้งนี้มีประเทศที่เข้าชมเว็บไซต์สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส ไทย เวียดนาม เยอรมันนี ตามลำดับ

“ผลการดำเนินงานประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี มีจำนวนรวม 354 คู่เจรจาออนไลน์ โดย จีน เวียดนาม มาเลเซีย ญี่ปุ่น และ สิงคโปร์ เป็นประเทศที่มีการเข้าร่วมเจรจาการค้ามากที่สุด เกิดมูลค่าการเจรจาการค้าออนไลน์ในครั้งนี้ทั้งสิ้นรวม 1,400 ล้านบาท”

นายสมเด็จ กล่าวว่า  ไฮไลท์สำคัญจากการเจรจาการค้าผ่านระบบออนไลน์ อาทิ บริษัท เบนีโทน ฟิล์มส์ จำกัด เจรจาการค้ากับบริษัทจากออสเตรเลีย ในการเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย, บริษัท กันตนา โมชั่น พิคเจอร์ส จำกัด เจรจาการค้ากับ บริษัทจากฮ่องกง ในการจัดทัวร์นาเมนท์การแข่งขัน Esports ในภูมิภาคเอเชีย, บริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เจรจาการค้ากับ Distributor จากประเทศอุรุกวัย    เพื่อซื้อลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ไปจำหน่ายยังประเทศแถบอเมริกาใต้, บริษัท เอ็ม โฟลว์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด เจรจาการกับ Talent Agency จากเมียนมาร์ ในการสร้างศิลปินกลุ่มใหม่ร่วมกัน”

 นับได้ว่าเป็นมิติใหม่ของกรมฯ ในการฝ่ากระแสโควิด-19 เดินหน้าผลักดันกลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนด์ให้เกิดการปรับตัวเข้ากับภาวะวิกฤตที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้เข้าถึงนักลงทุนที่มีศักยภาพ พร้อมเชื่อมโยงสู่การเปิดตลาดกับนักลงทุนรายใหม่ เพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจยังดำเนินต่อไปได้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคดิสรัปชั่น