'ตัวนาก' บุกเมือง! ธรรมชาติสิงคโปร์ยุค New Normal

จาซรีล โลว์ ดาราชาวสิงคโปร์ที่หันไปประกอบธุรกิจสปา โพสต์เฟซบุ๊คแสดงภาพซากปลาเกลื่อนรอบสระของเธอซึ่งเป็นฝีมือของฝูงตัวนากที่บุกเข้าเขตชุมชนเพื่อหาอาหาร โดยเธอประณามว่า "เป็นการสังหารหมู่"

จาซรีลให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ข่าวบันเทิง 8 DAYS ว่า พวกมันคงรู้ว่าไม่มีคนอยู่และผู้คนก็รักมัน

ขณะที่มีชาวสิงคโปร์บางส่วนเขียนจดหมายถึงหนังสือพิมพ์สเตรทไทม์ส เรียกร้องให้ใช้แตรลม หรือกระสุนยางเป็นเครื่องมือไล่ตัวนากว่า ในเมื่อหมีป่าไม่เคยบุกเข้ามาถึงในเขตเมือง ตัวนากก็ไม่ควรเข้ามาได้ แค่เพราะมันดูน่ารักเท่านั้น ซึ่งจดหมายดังกล่าวจุดกระแสเรียกร้องจากบางคนให้กำจัดตัวนากทิ้งด้วย

ปัจจุบัน สิงคโปร์มีตัวนากประมาณ 10 ครอบครัว รวม 90 ตัว ถูกจัดเป็นสิ่งมีชีวิตที่เกือบอยู่ในข่ายใกล้การสูญพันธุ์ (vulnerable species) พวกมันกลายเป็นสัตว์ชื่อดังประจำเมืองเมื่อมีคนพบเห็นว่าอาศัยย่านริมน้ำตามสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม

อย่างไรก็ดี ช่วงที่มีการปิดเมืองในสิงคโปร์ เริ่มเห็นพวกมันไปเพ่นพ่านในห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล หรือจับปลาในสระมากิน รวมทั้งปลาอโรวานาหรือปลามังกร ซึ่งเป็นปลาราคาแพง

เอ็น ศิวะโสธี อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ชีวภาพ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ที่ศึกษาเรื่องตัวนากจนได้ฉายาว่า "มนุษย์ตัวนาก" บอกว่า มาตรการปิดเมือง (ล็อคดาวน์) ทำให้เมืองลดความพลุกพล่าน เนื่องจากไม่มียานพาหนะและผู้คน เปิดทางให้สัตว์เหล่านี้มีอิสระมากขึ้นในการสำรวจพื้นที่ใหม่ ๆ

อาจารย์รายนี้มองว่า การเรียกร้องให้กำจัดทิ้งจึงเป็นวิธีแก้ปัญหาแบบไร้ความรู้และไม่ได้ผล

ขณะที่กลุ่มคนรักตัวนาก กล่าวว่า ชาวสิงคโปร์ควรดีใจที่ได้เห็นสัตว์ชนิดนี้ หลังจากพวกมันต้องไม่มีที่อยู่ เพราะโครงการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่ง และมลพิษทางน้ำช่วงทศวรรษที่ 70 จนกระทั่งแหล่งน้ำกลับมาใสสะอาดอีกครั้ง พวกมันจึงเริ่มกลับมาในช่วงทศวรรษที่ 90

เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายกรัฐมนตรีลี เซียน หลุง ของสิงคโปร์ โพสต์รูปฝูงตัวนากที่เขาเคยถ่ายไว้ช่วงก่อนปิดเมือง พร้อมแคปชั่นว่า "เราควรคิดหาทางอยู่ร่วมและเติบโตไปพร้อมกับพืชและสัตว์ประจำถิ่น ดีกว่ามัวแต่มุ่งคิดแต่เรื่องปกป้องพื้นที่"