ทลายเครือข่ายยาเสพติดส่งภาคใต้ จับ 10 ผู้ต้องหา เผยเงินหมุนเวียน 41 ล้าน
ตำรวจ 191 จับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติด ได้ผู้ต้องหา 10 คน พร้อมของกลางยาไอซ์ 5.65 กิโลกรัม ยาบ้า 40,086 เม็ด พบมียอดเงินหมุนเวียนในบัญชีเครือข่ายถึง 41 ล้านบาท
วันนี้ 4 มิ.ย. 2563 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พลตำรวจโทภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล หรือ ผบช.น. แถลงผลจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดย่านฝั่งธนบุรี ผู้ต้องหา 10 คน พร้อมของกลาง ยาไอซ์ประมาณ 5.6 กก. ยาบ้ากว่า 40,000 เม็ด รถยนต์ , โทรศัพท์มือถือ , สมุดบัญชีธนาคาร 15 เล่ม , สมุดรายการจัดส่งยาเสพติด , กระสุนปืนลูกซอง 20 นัด
คดีนี้ สืบเนื่องจากตำรวจสายตรวจ 3 ตำรวจ 191 ได้รับประสานงานจากตำรวจจังหวัดระนอง หลังได้จับกุมตัวผู้ค้ายาเสพติดรายย่อยได้ ซึ่งผู้ต้องหาให้การซัดทอดว่าได้รับยาไอซ์และยาบ้า มาจากนางสาวพจนีย์ ซึ่งพักอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งในฝั่งธนบุรี จึงสืบสวนขยายผล กระทั่งพบนางสาวพจนีย์นำกระเป๋าหลายใบขึ้นรถกระบะ พร้อมกับพวก 2 คน ขับรถมุ่งหน้าไปทางภาคใต้ จึงติดตามสะกดรอยไปจนถึงด่านตรวจถาวรสามร้อยยอด อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการตรวจค้นรถดังกล่าว
พบยาบ้ากว่า 40,000 เม็ด และไอซ์ประมาณ 3.62 กิโลกรัม วางอยู่บริเวณพื้นด้านหลังเบาะคนขับ ก่อนจะขยายผลไปตรงจค้นบ้านพักของผู้ต้องหา 4 แห่ง คือที่ ย่านบรมราชชนนี , ภาษีเจริญ , อำเภอศาลายา จังหวัดนครปฐม , อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร จับกุมผู้ต้องหาได้เพิ่มเติมอีก 6 คน พร้อมยาเสพติดอีกจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้จากการตรวจค้นยังพบสมุดบัญชีธนาคาร 15 เล่ม สมุดรายการจัดส่งยาเสพติด ที่พบมีบัญชีหมุนเวียนกว่า 41 ล้านบาท
จากการสอบสวนพบว่า เครือข่ายยาเสพติดดังกล่าว เป็นเครือข่ายที่มีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดส่งไปให้ผู้ว่าจ้างในพื้นที่ภาคใต้ โดยใช้บ้านพักของตนเองเป็นสถานที่ซุกซ่อนยาเสพติดไว้ชั่วคราว
ตำรวจได้แจ้งข้อหา นางสาวพจนีย์กับพวกรวม 8 คน ฐานร่วมกันมียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 คน คนหนึ่งถูกดำเนินคดีฐานมีกระสุนปืนไว้ในครอบครอง ฯ ส่วนอีกคนถูกดำเนินคดีฐานลักทรัพย์ หรือรับของโจร ก่อนนำส่งกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด รับไปดำเนินการตามกฎหมายต่อไป