'ประวิตร' กั๊ก! ไม่พร้อมนั่งหัวหน้า พปชร.

หลังปรากฏท่าที “สมคิด-ประวิตร” หันหน้าคุยระหว่างประชุมสภาฯ ด้าน “สมศักดิ์-ธรรมนัส” จับมือเคลียร์ บอกรักกันมานาน

ภายหลัง 18 กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยื่นใบลาออก เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ทำให้นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ต้องพ้นจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคพปชร. รวมทั้งกก.บห.พรรคอีก 33 คน ต้องพ้นตำแหน่งไปด้วย ทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นภายในพรรค ต่อมาวันที่ 2 มิ.ย. บรรยากาศภายในที่ประชุมครม.ยังอึมครึม รัฐมนตรีที่ขัดแย้งกันภายในพรรคพปชร. แสดงอาการไม่สู้ดี จนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม พยายามทำให้ที่ประชุมผ่อนคลาย

ล่าสุด วานนี้ (4 มิ.ย.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพปชร. ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากแกนนำกลุ่มต่างๆภายในพรรคพปชร. ให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคพปชร.คนใหม่ พูดคุยกับ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ผู้ใหญ่ที่นายอุตตมและกลุ่มสนับสนุนให้ความเคารพ ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ก่อนเริ่มการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 25 ปีที่ 2 ครั้งที่ 2 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษพ.ร.บ.โอนงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ที่อาคารรัฐสภา

เลือกใครก็ตามนั้น ถ้าให้เป็นก็ห้ามไม่ได้

โดย พล.อ. ประวิตร ตอบข้อถามผู้สื่อข่าวถึงปัญหาภายในพรรค พปชร.ว่า “ไม่มีอะไรแล้ว ทุกอย่างเป็นเรื่องของพรรค” เมื่อถามว่า หากมีการเสนอให้ พล.อ.ประวิตร เป็นหัวหน้าพรรค จะตอบรับหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “เลือกใครก็ตามนั้น ถ้าให้เป็นก็ห้ามไม่ได้ แต่เป็นสิ่งที่ยังไม่เกิด ทุกอย่างแล้วแต่สมาชิก”

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า หากมีการเสนอจริงจะพร้อมรับหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวตอบว่า “ไม่พร้อม” ก่อนเดินขึ้นรถไปทันที

ขณะเดียวกัน นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์รองนายกรัฐมนตรี ปฏิเสธที่จะพูดปัญหาภายในพรรคพลังประชารัฐที่กำลังเกิดปัญหาความแตกแยก แต่กล่าวตอบคำถามกรณีที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม แกนนำกลุ่มสามมิตรออกมาระบุว่านายสมคิด ไม่ได้อยู่กลุ่มสามมิตรว่า “ก็ไม่ได้อยู่กลุ่มสามมิตรตั้งแต่แรกอยู่แล้ว”

วันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม กล่าวถึงปัญหาในพรรคพปชร. เพียงสั้นๆ ว่า “ไม่มีปัญหา”

“ธรรมนัส-สมศักดิ์”จับมือบอกรัก​

นอกจากนี้ ระหว่างการพิจารณาร่างพ.ร.บ.โอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ.... วาระแรก นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม แกนนำกลุ่มสามมิตร และร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้มาเจอกันโดยบังเอิญที่บริเวณชั้น 1 ทางเข้าอาคารรัฐสภา โดย ร.อ.ธรรมนัส กำลังจะเดินทางออกจากรัฐสภา ขณะที่นายสมศักดิ์ เพิ่งจะเดินทางเข้ามา​ เมื่อทั้งสองเจอกัน​ จึงได้เข้ามาจับมือทักทายพร้อมโอบหลังกัน ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส​ โดยทั้งนายสมศักดิ์และร.อ.ธรรมนัส ต่างกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าพร้อมกันว่า “เราทั้งสองคนรักกันมานานแล้ว”

เมื่อถามถึงความขัดแย้งภายในพรรคพปชร. นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของท่านอื่น ไม่เกี่ยวกับเราสองคน ความในใจของท่านอื่นเราไม่ทราบ เมื่อถามว่า​ ทุกอย่างจบแล้วใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ ตอบว่า ไม่ทราบ จะไปรู้เรื่องของคนอื่นได้อย่างไร

ปัดตอบทางโล่งปรับครม.

เมื่อถามว่า ตอนนี้ข้ามสู่โหมดของการผลักดันให้มีการปรับครม.ใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องปรับครม.พูดไม่ได้ เป็นเรื่องของนายกฯ แต่ทฤษฎีการเมืองก็คือทฤษฎี เรื่องการปรับครม. ถ้าคนอื่นพูดมันไม่น่ารัก

เมื่อถามว่า ก่อนหน้าจะมาเป็นพรรคพปชร.แต่ละกลุ่มบอกจะสลายขั้วเป็นหนึ่งเดียวในพรรค นายสมศักดิ์ กล่าวว่า “อย่างที่บอกเมื่อก่อนเป็นเม็ดกรวด เม็ดทราย แล้วถูกหลอมละลายด้วยความร้อน แล้วมาเป็นพปชร. ตกผนึกเป็นแก้ว ที่ผ่านการเจียระไนจนสวยงาม มีราคา เหมือนกับหัวแหวน บลูซัพฟลาย ไดม่อนเพชร และพลอย เมื่อเจียระไนแล้วก็เป็นของที่มีค่า”

“สุริยะ”ชู”บิ๊กป้อม”เหมาะนั่งหน.

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า เท่าที่ตนคุยกับ กก.บห.พปชร. ที่ทำหน้าที่รักษาการในชุดเดิม หลายคนบอกไม่มีปัญหาอะไร ทั้งนี้ในการพิจารณา ส่วนใหญ่ก็เห็นตรงกันว่าพล.อ.ประวิตร มีความเหมาะสมที่จะเป็นหัวหน้าพรรคพปชร.

สำหรับความเห็นต่างระหว่างนายสมคิด และนายสมศักดิ์ จะกลายเป็นรอยร้าวหรือไม่นั้น ตนมองว่านายสมคิดก็ไม่ได้พูดอะไร และการที่นายสมคิดไม่ได้อยู่ในกลุ่มสามมิตร ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องมีความขัดแย้งในเรื่องการบริหารพรรค

ปัดดึงพท.อ้างแค่ขู่พรรคร่วม

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการปรับ ครม.ต้องการจะไปนั่งเก้าอี้ รมว.พลังงาน หรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่เคยพูดอะไรในเรื่องนี้ ไม่รู้ว่าใครนำเรื่องนี้ไปเป็นประเด็น และตนอยู่ที่กระทรวงอุตสาหกรรมก็ทำงานได้อยู่แล้ว ตอนนี้การทำงานที่กระทรวงอุตสาหกรรมในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ ก็ได้พบปะกับกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ทางสภาอุตสาหกรรม กลุ่มเอสเอ็มอี ตนก็มีความสุขดีอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวว่าพรรค พปชร.จะดึงพรรคเพื่อไทยเข้ามาร่วมรัฐบาลด้วย นายสุริยะ กล่าวว่า “ส่วนตัวเชื่อว่าเป็นการขู่กันเองมากกว่า คงไม่เป็นความจริง”

ปชป.แนะแก้ปัญหาปท.ก่อนปรับครม

รายงานข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ระบุว่า จากปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคพปชร.​ และการกดดันให้ปรับครม.นั้น ปชป.มีความเป็นห่วงเรื่องการลำดับความสำคัญการแก้ไขปัญหาของประเทศ​ ขณะนี้มีภาคธุรกิจเข้ามาแสดงความเป็นห่วงจำนวนมาก​​ และถามว่า​พปชร.กำลังเล่นอะไรกันอยู่ ในเชิงการเมืองที่ผ่านมาก็เห็นแล้วว่า พรรคที่มีเสียงมากที่สุดจะอยู่ไม่ได้สาเหตุมาจากพฤติกรรมตัวเอง สมาชิก​ พปชร.มาจากหลายพรรคการเมืองและหลายกลุ่มการเมือง ไม่มีรุ่นใหญ่รุ่นเล็ก คนไหนมีฐานเสียงเยอะจะได้ตำแหน่ง เป็นการเมืองแบบย้อนยุค
​
นอกจากนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังสะท้อนภาวะความเป็นผู้นำที่กำลังมีปัญหา ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการทำงานของรัฐบาลและการขับเคลื่อนนโยบายอย่างแน่นอน ปัญหาที่กำลังเกิดในขณะนี้กระทบต่อความเชื่อมั่นของสังคม ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ ช่วงเวลานี้รัฐบาลควรเร่งแก้ปัญหาให้เร็วที่สุด ใช้งบประมาณให้น้อยที่สุด เพื่อทำให้ประชาชนอยู่ได้ แล้วค่อยมาคุยเรื่องปรับครม. ทั้งนี้หากมีการปรับครม.จริง​ ก็ต้องล้มกระดานกันใหม่หมด​ และจัดสรรโควตากันใหม่อยู่แล้ว แต่ถามว่ามันใช่เวลาจำเป็นหรือ

มั่นใจพปชร.ไม่ดึงพท.ร่วมรัฐบาล

รายงานข่าวจาก​ ปชป.​ เปิดเผยถึงกระแสข่าว พปชร.จะดึงพรรคเพื่อไทยเข้าร่วมรัฐบาลว่า ในทางการเมืองถือว่าเป็นไปได้ทั้งหมด แต่หากเป็นสูตรนี้จริงจะกระทบต่อความเชื่อถือของรัฐบาลอย่างรุนแรง เพราะเป็นคู่ขัดแย้งกันโดยตรงอีกทั้งเวลานี้ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องดึงพรรคเพื่อไทยมา เพราะวันนี้เสียงของรัฐบาลในสภาฯมีเสถียรภาพแล้ว และการที่มีสูตรนี้ออกมา​ น่าจะเป็นวิธีการปรามกันเองในพรรค​พปชร. เพราะหากดึงพรรคเพื่อไทยมาจริงจะอธิบายต่อสังคมยาก ความน่าเชื่อถือจะหมดไป​ จะถูกมองว่ามีการซูเอี๋ยกันในเรื่องคดีความ