‘พราวกรุ๊ป’ ถอดบทเรียนโควิด ประคองธุรกิจท่องเที่ยวพ้นเสี่ยง

พราวพุธ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท พราว ผู้บริหารสาววัย 32 ปี ทายาทของสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เล่าว่า หลังจากเข้ามาจับธุรกิจได้ 10 ปีพอดีตั้งแต่อายุ 22 ปี วิกฤติโควิด-19 ถือเป็นวิกฤติที่หนักหนาและรุนแรงที่สุด เพราะกระทบต่อรายได้กลุ่มบริษัท พราว จาก 100% เหลือเพียงศูนย์ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดหนักทั่วโลกจนต้องปิดกิจการโรงแรมและสวนน้ำชั่วคราว ต่างจากวิกฤติอื่นๆ เช่น วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ที่รายได้หายไปเต็มที่ 20%

วิกฤติโควิดจึงให้บทเรียนเรื่อง “การบริหารความเสี่ยง” (Crisis Management) ครั้งใหญ่ที่สุดที่เคยเจอในชีวิต ทำให้ต้องหันมาดูเรื่องต้นทุนปฏิบัติการรอบทิศ ปรับเปลี่ยนให้พนักงานในองค์กรซึ่งมีเฉียด 1,000 คนหันมาทำงานได้หลากหลายหน้าที่หรือ Multi-Tasking มากขึ้น

ทั้งนี้คาดว่ากว่าภาคท่องเที่ยวไทยจะฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติ ต้องใช้เวลาอีก 2 ปี เพราะยังต้องรอผลการผลิตวัคซีน โจทย์ของธุรกิจท่องเที่ยวในช่วงนี้จึงต้องเน้น “ประคองตัว” อย่างไรให้อยู่รอด แน่นอนว่าระยะสั้นต้องหันมาจับตลาดนักท่องเที่ยวไทย ในภาวะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเกือบ 40 ล้านคนต่อปีหายไปหมด กว่าจะเริ่มกลับมาภายใน 4 เดือนหรือราวเดือน ต.ค.นี้จากตลาดเอเชีย เช่น จีน และไต้หวัน ส่วนตลาดระยะไกลอย่างยุโรปและอเมริกาน่าจะเริ่มฟื้นตัวต้นปีหน้า

พร้อมเดินแผนการทำตลาดที่ออกแบบเพื่อรองรับวิถีชีวิตใหม่ (นิวนอร์มอล) ของนักท่องเที่ยว อย่างสวนน้ำวานา นาวา วอเตอร์ จังเกิ้ล หัวหิน ที่เพิ่งรับมอบตราสัญลักษณ์ SHA รับรองมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นแห่งแรกของสถานที่ท่องเที่ยวใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้ใช้จุดแข็งของขนาดพื้นที่ถึง 20 ไร่ จำกัดจำนวนผู้เข้าใช้ให้ไม่เกิน 600 คน สอดรับกับมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม

พราวพุธ เล่าเพิ่มเติมว่า ปกติแล้วเดือน มิ.ย.เป็นช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว (โลว์ซีซั่น) ของหัวหิน แต่พอสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในไทยดีขึ้น ดีมานด์ที่เคยอัดอั้นก็เริ่มออกเดินทาง ส่งผลให้บรรยากาศท่องเที่ยวในหัวหิน “คึกคัก” อีกครั้ง

อย่างโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน รีสอร์ท ที่เพิ่งกลับมาเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้รับผลตอบรับดีจากนักท่องเที่ยวไทย เพราะเป็นจุดหมายที่สามารถขับรถมาเที่ยวได้สะดวก จึงตัดสินใจกลับมาเปิดให้บริการโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท วานา นาวา หัวหิน พร้อมกับสวนน้ำวานา นาวา เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา

“ตอนนี้โรงแรมในหัวหิวที่ติดแบรนด์ของเชนรับบริหารโรงแรมนานาชาติได้ผลตอบรับดี เพราะนักท่องเที่ยวมั่นใจเรื่องมาตรฐานสุขอนามัยและการให้บริการ ผู้ประกอบการทำการตลาดเสนอขายห้องพักในราคาเข้าถึงได้ อย่างอัตราการเข้าพักของโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหินฯช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมาเฉลี่ยอยู่ที่ 60% มีอัตราเข้าพักค่อนข้างเต็มในช่วงสุดสัปดาห์ หลังเสนอโปรโมชั่นจับลูกค้าคนไทยมาชดเชยตลาดชาวต่างชาติซึ่งครองสัดส่วน 50% ของลูกค้าทั้งหมด โดยส่วนใหญ่เป็นตลาดระยะไกล”

ส่วนภาพรวมการทำตลาดของโรงแรมทั่วไทยตอนนี้ ต่างเน้นดึงกำลังซื้อจากลูกค้ามาไว้ในมือก่อน ด้วยการขายบัตรกำนัลแบบล็อคราคาห้องพัก สามารถเข้าพักเมื่อไรก็ได้

นอกจากนี้หลายๆ โรงแรมยังตั้งตารอการขายในโครงการ “เราไปเที่ยวกัน” หนึ่งในแพ็คเกจมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวภายในประเทศของรัฐบาลซึ่งใช้งบประมาณวงเงิน 2.24 หมื่นล้านบาท มีการคาดการณ์ว่าเม็ดเงินจะสะพัดไม่ต่ำกว่า 6 หมื่นล้านบาท โดยโรงแรมสามารถกำหนดราคาห้องพักได้สูงสุดถึง 7,500 บาท/ห้อง/คืน ตามเงื่อนไขของโครงการเราไปเที่ยวกันซึ่งรัฐบาลจะช่วยจ่ายให้ 40% แต่ไม่เกิน 3,000 บาท/ห้อง/คืน

กลุ่มพราวเองได้จัดโปรโมชั่นขานรับโครงการเราไปเที่ยวกันเช่นกัน โดยโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน ราคาเริ่มต้นที่ 4,500 บาทรวมอาหารเช้า ขณะที่โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท วานา นาวา ราคาเริ่มต้น 2,799 บาทรวมอาหารเช้า การเข้าพักโรงแรมทั้ง 2 แห่งในหัวหินจะได้รับโปรโมชั่นเข้าสวนน้ำวานา นาวา หัวหินฟรี และส่วนลดอาหารเครื่องดื่ม 20% รวมถึงสปาเครดิต 500 บาท

ส่วนโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ภูเก็ต รีสอร์ท คาดว่าจะเปิดเร็วๆ นี้ จัดโปรโมชั่นราคาเริ่มต้นที่ 5,400 บาทรวมอาหารเช้า พร้อมส่วนลดอาหารและเครื่องดื่ม 20% และสปาเครดิต 500 บาท ด้านโครงการสวนน้ำแห่งใหม่ “อันดา มันดา” ใน จ.ภูเก็ต ที่เพิ่งเปิดตัวไป ใช้งบฯลงทุนสำหรับเฟสแรก 3,000 ล้านบาท และเดิมมีกำหนดเปิดให้บริการปลายปี 2563 จำต้อง “ผ่อนคันเร่ง” แต่ยังดำเนินการก่อสร้างต่อไป โดยเลื่อนเปิดให้บริการเป็นต้นปี 2564 แทน เพราะธุรกิจสวนน้ำจำเป็นต้องใช้จำนวนผู้ใช้บริการเป็นตัวสร้างผลประกอบการ

++++++++