'ศักดิ์สยาม' สั่งลุยสร้างพระราม 2 เริ่มลงพื้นที่หลัง 8 ก.ค.นี้
“ศักดิ์สยาม” สั่งลุยสร้างทางยกระดับพระราม 2 และทางด่วนพระราม 3 เริ่มเข้าพื้นที่หลัง 8 ก.ค.นี้ ย้ำต้องไม่กระทบผู้ใช้ทาง พร้อมเผยนายกรัฐมนตรี แตะเบรกโครงการก่อสร้างบนถนนพระราม 2 สั่งเพิ่มทางเลือกแนวเส้นใหม่ จ่อพัฒนามอเตอร์เวย์นครปฐม – ชะอำ
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ถนนพระราม 2ตรวจติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างทางยกระดับพระราม 2 สาย ธนบุรี – ปากท่อ ตอนทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน – เอกชัย ของกรมทางหลวง (ทล.) และโครงการทางพิเศษสายพระราม 3 – ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก (สัญญาที่2) ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.)
โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมในการก่อสร้างและร่วมบูรณาการทำงานของทั้ง 2 หน่วยงาน ก่อนนำเครื่องจักรเข้าพื้นที่ก่อสร้าง และป้องกันผลกระทบในระหว่างดำเนิน เบื้องต้นกระทรวงฯ ได้มอบนโยบายให้เริ่มเข้าพื้นที่ก่อสร้างเพื่อดำเนินโครงการทางยกระดับฯ หลังวันที่ 8 ก.ค.นี้ เนื่องจากช่วงวันหยุดยาวคาดว่าจะมีประชาชนใช้เส้นทางจำนวนมาก และให้เตรียมความพร้อมจัดการจราจรในระหว่างการก่อสร้างไม่ให้เกิดผลกระทบการเดินทางและการจราจรบนถนนพระราม 2 ติดขัดเกินความจำเป็น
อีกทั้ง ได้เน้นย้ำปิดพื้นผิวการจราจรเฉพาะที่มีงานก่อสร้างเท่านั้น โดยการก่อสร้างจะเริ่มเข้าพื้นที่ตั้งแต่กิโลเมตรที่ 14 - 15 และ 18 - 20 บนถนนพระรามที่ 2 เป็นการเข้าพื้นที่หัว - ท้าย แล้วทยอยดำเนินการก่อสร้างไปทีละส่วน ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังได้มอบนโยบายด้วยว่า โครงการก่อสร้างบนถนนพระราม 2 ขอให้ยุติไว้ที่ 2 โครงการนี้ก่อน และให้กระทรวงคมนาคม เดินหน้าพัฒนาแนวเส้นทางใหม่เพื่อใช้ลงพื้นที่ภาคใต้ เช่น มอเตอร์เวย์นครปฐม – ชะอำ
“ตอนนี้ได้ปรับช่องจราจรเหลือ 3 เมตรแต่ยังคงไว้ที่ 4 ช่องจราจร เพื่อไม่ให้กระทบการใช้ทางของประชาชน โดยการปรับช่องจราจรนี้อยู่บนมาตรฐานความปลอดภัย ซึ่งโครงการทางยกระดับจะใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปีแล้วเสร็จ เมื่อเปิดใช้ทางคาดว่าจะรองรับการเดินทางของประชาชนที่เข้าออกประมาณ 2 แสนคันต่อวันได้เป็นอย่างดี”
นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า การก่อสร้างทางยกระดับบนทางหลวงหมายเลข 35 สาย ธนบุรี – ปากท่อ ตอน ทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน – เอกชัย ระยะทางประมาณ 8.335 กิโลเมตร(กม.) ทล.จะเข้าพื้นที่ก่อสร้าง 2 จุดก่อน ได้แก่ กม.14+000 ถึง กม.15+000 และ กม.18+000 ถึง กม.20+295 เป็นการเข้าพื้นที่หัว-ท้ายจากนั้นจะทยอยดำเนินการที่ละส่วนให้ครบตลอดเส้นทาง ซึ่งในการดำเนินงานนั้นจะปรับลดช่องจราจรจาก 14 ช่องไปกลับเหลือ 12 ช่องจราจรไปกลับ เป็นระยะเวลา 1 ปี เมื่อแล้วเสร็จจะคืนผิวจราจรเป็น 14 ช่องตามเดิม ก่อนดำเนินการวางคานและแผ่นคอนกรีต คาดใช้เวลาดำเนินงานทั้งโครงการ 3 ปี แล้วเสร็จเปิดใช้งานได้ในปี 2565
นายดำเกิง ปานขำ รองผู้ว่าการฝ่ายปฏิบัติการรักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการ กทพ.กล่าวว่า กทพ.จะดำเนินโครงการทางพิเศษสายพระราม 3 – ดาวคะนอง - วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก มีจุดเริ่มต้นโครงการฯ ที่ กม. 13+000 ของถนนพระราม 2 เชื่อมต่อกับโครงการก่อสร้างทางยกระดับ บนทางหลวงหมายเลข 35 ตอนทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน – เอกชัย ของ ทล. ซึ่งอยู่ด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน อันเป็นจุดบรรจบกันของถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตกกับถนนพระราม 2
โดยรูปแบบการก่อสร้างโครงการฯ เป็นทางยกระดับขนาด 6 ช่องจราจร ซ้อนทับไปตามแนวเกาะกลางถนนพระราม 2 มาทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นระยะทางประมาณ 11.6 กิโลเมตร จนถึงทางแยกต่างระดับดาวคะนอง หลังจากนั้นแนวเส้นทางจะเลี้ยวขวาเข้าซ้อนทับกับแนวทางพิเศษ เฉลิมมหานครเป็นระยะทางประมาณ 5.1 กิโลเมตร และมีสะพานขึงคู่ขนานกับสะพานพระราม 9 จนถึงจุดสิ้นสุดโครงการฯ ที่ทางแยกต่างระดับบางโคล่ ระยะทาง 2 กิโลเมตร ซึ่งเป็นจุดที่เชื่อมต่อกับทางพิเศษเฉลิมมหานครและทางพิเศษศรีรัช ระยะทางรวมประมาณ 18.7 กิโลเมตร
สำหรับโครงการฯเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด รองรับปริมาณรถที่เพิ่มสูงขึ้นเชื่อมโยงระหว่างพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลกับพื้นที่ภาคใต้ อีกทั้ง ยังช่วยประหยัดเวลาค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ทำให้การเดินทางสู่ภาคใต้สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยยิ่งขึ้น