background-default

วันศุกร์ ที่ 22 พฤศจิกายน 2567

'สุภรณ์' มั่นใจประชาชนเห็นด้วย คง 'พ.ร.ก.ฉุกเฉิน' สกัดโควิด-19 ระลอก 2

'สุภรณ์' มั่นใจประชาชนเห็นด้วย คง 'พ.ร.ก.ฉุกเฉิน' สกัดโควิด-19 ระลอก 2

"สุภรณ์" มั่นใจประชาชนเห็นด้วยกับการคง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไว้ รองรับผ่อนปรนมาตรการระยะที่ 5 และไม่ให้เชื้อโควิด-19 ระบาดรอบ2 พร้อมขอฝ่ายค้านอย่ากลัวไปก่อนว่าจะมีการทุจริตเกิดขึ้น แนะแกนนำเพื่อไทย เอาเวลาไปดูแลพรรคอย่าทำให้พรรคฯแตกแยกดีกว่า

นอกจากนี้ยังเป็นการรองรับการผ่อนปรนมาตรการระยะที่ 5 ที่จะมีการเปิดเรียนในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ รวมถึงการผ่อนปรนกิจการและกิจกรรม เช่นผับ บาร์ คาราโอเกะ อาบอบนวด และ พ.ร.ก.ฉุกเฉินยังมีความสำคัญคือสามารถควบคุมการเดินทางเข้า-ออก ราชอาณาจักรทุกช่องทาง สามารถจัดทำระบบติดตามตัว กักตัว หรือเฝ้าระวังได้ รวมถึงการควบคุมโรค โดยใช้มาตรการครอบคลุมในทุกกิจกรรมและกิจการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะช่วยจัดการได้ทันท่วงที รวมทั้งยังเป็นการบูรณาการการทำงานให้เป็นเอกภาพและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ขณะเดียวกันยังมองว่าประชาชนส่วนใหญ่ยังอยากให้คง พ.ร.ก.ฉุกเฉินเอาไว้ เพราะสามารถทำให้ลดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ได้เป็นอย่างดีโดยเห็นได้จากที่กรุงเทพโพลล์ ได้สำรวจความคิดเห็นประชาชน พบว่าประชาชนมีความพึงพอใจมากต่อการบริหารจัดการโควิด-19 ของรัฐบาล และพ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีส่วนต่อการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 มากถึงมากที่สุด

นายสุภรณ์ กล่าวด้วยว่า มั่นใจว่าหากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 คลี่คลายลงมากกว่านี้แล้ว นายกฯ จะยกเลิกอย่างแน่นอน ทั้งนี้ นายกฯ ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ถึงแม้ว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินอาจจะกระทบกับประชาชนอยู่บ้าง แต่ก็ได้การผ่อนปรนมาตรการกิจการและกิจกรรมเพิ่มมากขึ้นเกือบหมดทุกอย่าง เพราะ นายกฯ มีความห่วงใยผู้ประกอบการต่างๆ ให้สามารถเปิดกิจการ สร้างรายได้ เพื่อให้เศรษฐกิจประเทศขยับตัวขับเคลื่อนไปได้

ดังนั้นขอให้ฝ่ายค้านใจเย็นๆ ก่อน อย่าเพิ่งกลัวไปก่อนว่าการคง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะเป็นการเปิดช่องว่างให้มีการทุจริตในช่องทางต่างๆ และทางฝ่ายค้านเองก็มีกระบวนการตรวจสอบหลายช่องทาง ในสภาฯ ก็มีการตั้งกรรมาธิการวิสามัญตรวจสอบติดตามการใช้งบ พ.ร.ก.กู้เงินและงบโควิด-19 อยู่แล้วมิใช่หรือ ซึ่ง นายกฯ ได้ย้ำอยู่เสมอที่จะไม่ปล่อยให้มีการทุจริตเกิดขึ้นโดยหากมีข้อมูลหลักฐานต่างๆ ในการทุจริต ก็ขอให้นำมาเพื่อเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย ซึ่งหากพบมีความผิดจริง นายกฯจะไม่ปล่อยไว้อย่างแน่นอน 

"วันนี้พรรคเพื่อไทยเอาเวลาไปบริหารจัดการภายในพรรคตนเองเองก่อนจะดีกว่า อย่าให้แกนนำในพรรคต้องไหลทะลักออกมาตั้งกลุ่มใหม่ จนเกิดการขัดแย้งทะเลาะกันรุนแรงในพรรคอย่างหนักตามที่เป็นข่าว เอาเวลาไปคิดที่จะทำพรรคไม่ให้แตกแยกดีกว่าที่จะต้องมากังวลกับรัฐบาล เพราะทั่วโลกเขาให้การยอมรับแล้วว่า นายกฯและรัฐบาลบริหารจัดงานกับไวรัสโควิดได้ดีที่สุด ก็เหลือแต่ฝ้ายค้านเมืองไทยนี่แหละ ที่จ้องค้านไปทุกเรื่อง ค้านแบบไร้เหตุผลตลอดมา จนประชานเบื่อหน่าย" นายสุภรณ์ กล่าว