ทางรอด!! องค์การค้าฯ สกสค.ต้องเลิกจ้างพนักงาน?
ในที่สุดองค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (องค์การค้าของ สกสค)ที่ประสบภาวะขาดทุนต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลามากกว่า 15 ปีก็เดินทางถึงวันที่ต้องเลิกจ้างพนักงานเจ้าหน้าที่
เพื่อปรับปรุงอัตรากำลังและผลประโยชน์ตอบแทนขององค์การค้าของ สกสค.ให้สอดคล้องกับภารกิจ มติคณะกรรมการบริหารองค์การค้าของสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสติภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา วันที่ 23 มิถุนายน ให้เลิกจ้างพนักงานเจ้าหน้าที่ จำนวน 961 จากทั้งหมด 1,035 ราย
โดยอาศัยอำนาจตามความในข้อ 16 (5 ) แห่งข้อบังคับคณะกรรมการ สกสค. ว่าด้วยการบริหารงานองค์การค้าของ สกสค. พ.ศ. 2554 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2 ) พ.ศ.2556 โดยให้ได้สิทธิประโยชน์ตามที่ฎหมายกำหนด สั่ง ณ วันที่ 29 มิถุนายน โดย นายดิศกุล เกษมสวัสดิ์ เลขาธิการ กศน. ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค.มีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2563 เป็นต้นไป
ว่ากันว่าปัญหาขององค์การค้าฯ ของสกสค.นั้น มีมาตั้งแต่ปี 2546 จากที่ได้รับการผูกขาดการขายหนังสือมาให้กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) เมื่อศธ.เปิดให้เอกชนมาร่วมจำหน่ายหนังสือ ทำให้รายได้ลดลง ขณะที่รายจ่ายยังคงเดิม.เมื่อเนื้องานน้อยลง รายได้ลดลงสวนทางกับการต้องจ้างพนักงานเท่าเดิม ทำให้ขาดทุนสะสมเพิ่มขึ้นทุกปี เป็นหนี้สะสมกว่า 6,700 ล้านบาท เฉพาะการจ่ายเงินเดือนพนักงานมีจำนวน 40 ล้านบาทต่อเดือน หากไม่ดำเนินการปรับลดพนักงานอาจจะติดหนี้สะสมถึงหมื่นล้านบาทในเร็วๆนี้
“ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ประธานกรรมการ สกสค. กล่าวว่าการเลิกจ้างพนักงานองค์การค้าฯ เป็นการตัดสินของคณะกรรมการองค์การค้าฯ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่เป็นเรื่องของความเหมาะสมในการทำธุรกิจ ต้องยอมรับว่าองค์กรที่มีการขาดทุนอย่างต่อเนื่องมาหลายปีจำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญร่วมตัดสินใจ มีโอกาสที่จะพลิกธุรกิจนี้กลับขึ้นมา
การดำเนินการครั้งนี้มีที่มาที่ไป และเพื่อรักษาองค์กรไว้ จะมีการจ่ายเงินชดเชยตามกฎหมายแรงงานพนักงานที่ถูกเลิกจ้างบางรายได้รับเงินชดเชยถึง 3 ล้านบาทตามอายุงาน และต่ำสุดคือ 500,000 บาท โดยเงินที่จะนำมาจ่ายชดเชยให้แก่พนักงานองค์การค้าฯ นั้น สกสค.จะให้ยืมมาจ่ายชดเชย ประมาณ 1,500 ล้านบาท
ดังนั้นไม่อยากให้วิพากษ์วิจารณ์กันไปคนละทิศทาง แต่ขอให้เข้ามาดูเนื้องานจริงๆจะพบว่าองค์การค้าฯแบกภาระหนี้สะสมมาหลายปีแล้ว ซึ่งหลังจากนี้จะมีการรวบรวมหนี้จากองค์การค้าฯทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น หนี้จากภาคเอกชนและหนี้สกสค.ก่อนจะนำทรัพย์สินขององค์การค้าฯไม่ว่าจะเป็นที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง และเครื่องจักร มาบริหารจัดการหนี้ โดยคาดว่าเมื่อนำมารวมชำระหนี้แล้วองค์การค้าฯอาจเหลือหนี้อยู่เพียง 1,000 ล้านบาท
ส่วนการเยียวยาพนักงานองค์การค้าฯ จะเป็นไปตามกฎหมายแรงงาน โดยในการประชุมคณะกรรมการบริหารองค์การค้าของ สกสค.วาระพิเศษ ในวันที่ 3 ก.ค.นี้ จะมีการขออนุมัติงบประมาณสำรองจ่ายเงินชดเชยให้กับผู้ที่ถูกเลิกจ้างก่อน 1-2 แสนบาทต่อคน และจะได้ครบถ้วนทั้งหมดในวันที่ 1 ส.ค.2563 ถือว่าเป็นวันสิ้นสุดสัญญาจ้างตามประกาศดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ยังไม่มีผู้อำนวยการองค์การค้าฯคนใหม่ เนื่องจากสกสค.ยังไม่ได้เซ็นสัญญาจ้าง “นายอดุลย์ บุสสา"ซึ่งต้องนำเสนอแผนงานองค์การค้าฯมายังรมว.ศธ.ภายใน 30 วันจากนี้ด้วยว่าจะนำพาองค์การค้าฯไปในทิศทางไหน เพื่อไปสู่องค์กรธุรกิจที่ตอบโจทย์การศึกษาและมีกำไรมากขึ้นในอนาคต เพื่อแก้ไขปัญหาภาระหนี้ในอดีตสู่เทคโนโลยีตอบโจทย์ศตวรรษที่ 21 ได้อย่างไร
หากวิเคราะห์จากจำนวนพนักงานที่เหลืออยู่มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะมีการชำระบัญชีให้เรียบร้อยจากนั้นเปลี่ยนกิจการโดยเปิดให้ภาคเอกชนมาช่วยบริหารกิจการร่วมกันเพื่อผลิกฟื้นร้านค้าที่มีอยู่ให้สามารถเลี้่ยงตัวเองได้ทำรายได้กลับมา ปรับเปลี่ยนรูปแบบการบริหารองค์กรใหม่ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจในปัจจบันให้มากขึ้น
"นิวัตชัย แต่งไพร" ประธานสหภาพแรงงานองค์การค้าของคุรุสภา กล่าวว่า ขณะนี้สหภาพฯ อยู่ระหว่างการศึกษา คำสั่งเลิกจ้างดังกล่าวที่มีการประกาศออกมาชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และมีความเป็นธรรมต่อเจ้าหน้าที่พนักงานหรือไม่ โดยสหภาพฯ จะรวบรวมรายละเอียดต่างๆ ไปร้องต่อศาลปกครอง และศาลแรงงานว่าคำสั่งนี้ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ รวมถึงเจ้าหน้าที่และพนักงานได้รับความเป็นธรรมหรือไม่
เนื่องจากหนี้สินขององค์การค้าของสกสค.ที่เกิดขึ้น มาจากการบริหารงานที่ผิดพลาดจนทำให้องค์การค้าของ สกสค. ตกอยู่ในสภาวะดังกล่าว ทีมผู้บริหารองค์การค้าของ สกสค.ที่ผ่านมา มาจากที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และรัฐบาลเป็นผู้มอบหมายให้เข้ามาบริหาร แต่กลับกลายเป็นว่าพนักงานกับต้องมาเป็นเหยื่อของการบริหารที่ผิดพลาด โดยในวันนี้เวลา 9.00 น. สหภาพแรงงานองค์การค้าของคุรุสภาจะประชุมวิสามัญสหภาพแรงงาน และมีการแถลงข่าวการเลิกจ้างที่ วัดสามัคคีธรรม ซอยลาดพร้าว 64