ราคาน้ำมันดิบขึ้น 2% หลังตัวเลขว่างงานสหรัฐเริ่มฟื้น
ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นในวันพฤหัสบดี (2 ก.ค.) แรงหนุนจากข้อมูลภาคแรงงานที่ดีเกินคาดของสหรัฐ และคลังน้ำมันสำรองของสหรัฐรายสัปดาห์ลดลงมากสุดนับตั้งแต่เข้าปี 2563
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส งวดส่งมอบเดือน ส.ค. ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดที่ 40.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 83 เซ็นต์ (2.08%) ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ งวดส่งมอบเดือน ก.ย. ปิดที่ 43.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.11 ดอลลาร์ (2.64%)
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานในวันพฤหัสบดีว่า เศรษฐกิจในประเทศมีการจ้างงาน 4.8 ล้านตำแหน่งในเดือน มิ.ย. และตัวเลขคนว่างงานลดลง 2 เดือนติดต่อกัน สู่ระดับ 11.1%
"รายงานการจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่แข็งแกร่ง บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังเดินหน้าฟื้นตัว และอุปสงค์น้ำมันดิบก็น่าจะฟื้นตัวตามมา" นายเอ็ดเวิร์ด โมยา นักกลยุทธ์ตลาดอาวุโสของบริษัทโออันดา (OANDA) กล่าว
เมื่อวันพุธ (1 ก.ค.) สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานแห่งสหรัฐ (EIA) รายงานว่า คลังน้ำมันดิบสำรองของสหรัฐลดลง 7.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 26 มิ.ย. หลังจากก่อนหน้านี้เพิ่มขึ้นมา 3 สัปดาห์ติดต่อกัน มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายว่าจะลดลงราว 2.7 ล้านบาร์เรล
อุปทานที่ลดลงในสหรัฐส่งสัญญาณบวกพอสมควรต่อตลาดน้ำมันดิบ ซึ่งก่อนหน้านี้มีความกังวลว่า การแพร่ระบาดที่หนักขึ้นของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ต้นตอโรคโควิด-19 จะกระทบต่ออุปสงค์พลังงานโลก