'ดาวโจนส์' ทะยานเกือบ 460 จุด คาดหวังเศรษฐกิจจีนฟื้นจากโควิด
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกในวันจันทร์ (6 ก.ค.) หลังนักลงทุนมีความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของจีน และกิจกรรมภาคบริการที่ดีขึ้นของสหรัฐในเดือน มิ.ย.
ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดที่ 26,287.03 จุด เพิ่มขึ้น 459.67 จุด (1.78%) ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,179.72 จุด เพิ่มขึ้น 49.71 จุด (1.59%) ส่วนดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 10,433.65 จุด เพิ่มขึ้น 226.02 จุด (2.21%)
การปิดแดนบวกของตลาดหุ้นสหรัฐ เป็นผลจากบรรดานักลงทุนคาดหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน และผลกระทบของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ความเชื่อมั่นที่ดันตลาดหุ้นจีนทะยานกว่า 5%
นักลงทุนเชื่อว่า เศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัวขึ้นได้อย่างรวดเร็ว หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (3 ก.ค.) พบว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการ ที่มาร์กิตจัดทำร่วมกับ ไฉซิน (Caixin) เพิ่มขึ้นแตะระดับ 58.4 ในเดือน มิ.ย. ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 10 ปี
นอกจากนี้ ตลาดสหรัฐยังได้แรงหนุนจากข้อมูลของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ที่พบว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐฯปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 57.1 ในเดือน มิ.ย. จากระดับ 45.4 ในเดือน พ.ค. โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการที่หลายรัฐเริ่มกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง หลังจากที่ต้องล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19
ทั้งนี้ ดัชนีที่อยู่สูงกว่า 50 บ่งชี้ว่า ภาคบริการซึ่งคิดเป็น 2 ใน 3 ของเศรษฐกิจสหรัฐ ได้กลับเข้าสู่ภาวะขยายตัวแล้ว หลังจากที่ร่วงลงไปแตะ 41.8 ในเดือน เม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบ 11 ปี ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีภาคบริการเดือน มิ.ย. จะอยู่ที่ 48.9