‘ปริญญ์’ ขอบคุณผลโพล เน้นเดินหน้าทำงานไม่มุ่งขัดแย้งการเมือง
"ปริญญ์" ขอบคุณผลโพล พร้อมประกาศเดินหน้าทำงานมากกว่ามุ่งสร้างความขัดแย้งทางการเมือง มั่นใจช่วยพรรคปชป.ดึงคะแนนนิยมกลุ่มคนรุ่นใหม่
เมื่อวันที่ 7 ก.ค.63 นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย เผยว่า ตามที่สำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) ได้เปิดผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง ถ้าวันนี้เลือกตั้งพรรคใดชนะ ส่วนตัวเห็นว่าผลสำรวจนี้ทำให้พรรคประชาธิปัตย์เชื่อมั่นว่าพรรคเดินมาถูกทาง เนื่องจากพรรคมีผลโพลเป็นอันดับหนึ่งของพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบันนี้ แสดงให้เห็นว่าการปรับยุทธศาสตร์ให้ทันสมัยนั้นมาถูกทิศถูกทาง และส่วนตัวเห็นว่าภายใต้การนำของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์นั้นเป็นการเปิดโอกาสให้พรรคประชาธิปัตย์มีโอกาสครองใจประชาชน ทำให้ประชาชนมีโอกาสมากยิ่งขึ้นจากนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ที่ทำได้ไว ทำได้จริง
“เรามองว่าสิ่งที่สำคัญกว่าผลโพลคือผลงาน ต้องเน้นทำงานมากกว่ามุ่งสร้างความขัดแย้งทางการเมือง และต้องทำงานอย่างต่อเนื่องทั้งในยามบ้านเมืองปกติหรือในยามที่มีปัญหา โดยยึดถือประโยชน์ของพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง เรามีสิ่งที่ต้องคิดและทำอีกมาก สิ่งเดียวที่เราต้องแข่งคือเวลาที่ต้องเร่งแก้ปัญหาหลายด้านโดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ภายใต้บริบทของประเทศและประชาคมโลกที่เปลี่ยนแปลงไปที่ส่งผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจอย่างมากในปัจจุบัน ทีมเศรษฐกิจทันสมัยพร้อมจะทำงานและสร้างนวัตกรรมเพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตผู้คน โดยนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาปรับใช้ ไม่ว่าจะอยู่ในบทบาทใดก็ตาม”
นายปริญญ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของทีมเศรษฐกิจทันสมัย ที่อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของตนเองนั้น ได้เคลื่อนยุทธศาสตร์คู่ขนานกับการทำงานของพรรคในทุกกระทรวง โดยนำเอาแนวคิดเศรษฐกิจทันสมัยมาปรับใช้ มุ่งเจาะตลาดฐานกลุ่มคนรุ่นใหม่ และมีผลงานหลายอย่างที่ทำให้เห็นอย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม
"นับตั้งแต่เปิดตัวทีมงานตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา ทีมเศรษฐกิจทันสมัยประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญในหลายด้าน อาทิ ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน เทคโนโลยีบล๊อกเชน เศรษฐกิจมหภาค การตลาด Digital Marketing เกษตรอินทรีย์ การท่องเที่ยวชุมชน และ Sharing Economy "
นายปริญญ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ทีมฯ ได้จัดทำโครงการหลายด้านเพื่อช่วยเหลือพี่น้องปะชาชนในการแก้ไขปัญหา คู่ขนานไปกับการทำงานของภาครัฐ ทั้งโครงการเรียนจบพบงาน โครงการ We can do it! จัดทำถุงยังชีพชุมชน เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในช่วงโควิด รวมถึงการช่วยเหลือเกษตรกรในการช่วยระบายสินค้าเกษตรโดยเฉพาะผลไม้มังคุด เพื่อช่วยกระจายสินค้าและพยุงราคา เพราะเกษตรกรถือเป็นหัวใจสำคัญของประเทศ การสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำได้
"โครงการเรียนจบ พบงาน ช่วยสร้างแรงงานฝีมือผ่านการเทรนนิ่งเพื่อเสริมทักษะ สมรรถนะ และหางาน โดยสามารถเข้าร่วมได้ผ่านการแอดไลน์ไอดี @demtum และสมัครสมาชิก’ ที่พัฒนาโดยทีมเศรษฐกิจทันสมัย ซึ่งโครงการดังกล่างวเรามีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักศึกษาจบใหม่และผู้กำลังหางาน ใช้ค้นหางาน โดยเฉพาะในช่วงโควิด-19 ที่ได้กลายเป็นวิกฤตเศรษฐกิจ ส่งผลให้อัตราผู้ว่างงานมากขึ้น แต่มีหลายบริษัทที่ยังมีความต้องการจ้างงานโดยเฉพาะสาขางานที่ตอบโจทย์และเกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิต อาทิ โปรแกรมเมอร์ เจ้าหน้าที่คอลเซ็นเตอร์ โลจิสติกส์ พนักงานขนส่งสินค้าและอาหาร ดังนั้นโครงการนี้จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยคลี่คลายปัญหาให้กับกลุ่มคนที่กำลังมองหางานทำในช่วงที่มีวิกฤต"
นายปริญญ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ทีมมีแผนในการพัฒนาเนื้อหาหลักสูตรออนไลน์ในสาขาที่จำเป็นและสอดรับกับยุค Digital Transformation อาทิ การตลาดออนไลน์ พฤติกรรมผู้บริโภคยุคดิจิตัล เทคโนโลยีบล็อกเชน การค้าต่างประเทศ และ Digital Transformation โดยจะใช้บุคลากรของทีม ที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน และร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนบางราย เพื่อเตรียมความพร้อมในการส่งแรงงานที่มีคุณภาพเข้าสู่ตลาดแรงงานยุคใหม่ที่เป็นวัตถุประสงค์หลักส่วนหนึ่งของทีม