แก่อย่างเป็น 'YOLD'
เจาะลึกกลุ่ม YOLD หรือ Young Old ซึ่งหมายถึงคนแก่ ที่ส่วนใหญ่มักจะอยู่ในคนในยุค Baby Boomers แต่มีจิตใจและร่างกายที่ยังเป็นหนุ่มสาว ทำไมถึงมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจะส่งผลต่อสังคมไทยอย่างไร?
เมื่อตอนเป็นเด็ก เราเห็นญาติผู้ใหญ่อายุ 60-70 ปี ว่าแก่เหลือทน ซึ่งก็เป็นเรื่องจริงเพราะคนเมื่อสมัย 50-60 ปีก่อน มีอายุคาดเฉลี่ย (life expectancy หรือการคาดประมาณจำนวนปี โดยเฉลี่ยของการมีชีวิตอยู่ของประชากร) ต่ำกว่าปัจจุบันมาก แต่พอมาถึงปัจจุบันเราเห็นตัวเองและผู้สูงอายุคนอื่นๆ ในวัย 60-70 ปี เดินเหินกันคล่องแคล่ว มีความคิดความอ่านทันสมัยและยังทำงานอยู่ ปรากฏการณ์นี้มิได้เกิดเฉพาะในบ้านเรา แต่เกิดขึ้นเกือบทั้งโลก
ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่มีคนสูงอายุอยู่เป็นจำนวนมาก ได้เห็นปรากฏการณ์ที่คนในวัย 65-75 ปี ยังกระฉับกระเฉงเหมือนคนหนุ่มอยู่ จึงบัญญัติคำขึ้นซึ่งแปลเป็นภาษาอังกฤษว่า Young Old หรือย่อว่า YOLD ซึ่งหมายถึงคน old ที่ยัง young อยู่
ปัจจุบัน YOLD แพร่หลายและรู้จักกันทั่วโลก เป็นที่ถูกใจคนแก่ทั้งหลาย ที่เห็นคำว่า young ปนอยู่ในการเรียกกลุ่มเขา อย่างไรก็ดี คำนี้มิได้ครอบคลุมคนในวัย 65-75 ปีที่ไม่แอ็คทีฟ
ถ้าจับคำว่า young กับ old มาเขียนเป็น matrix ขนาด 2x2 ก็จะพบว่ามี 4 คำ กล่าวคือYoung Young / Young Old / Old Young และ Old Old ตัด Young Young และ Old Old ทิ้งไป เพราะไม่น่าสนใจ (คนหนุ่มสาวก็เป็นคนหนุ่มสาว คนแก่ก็เป็นคนแก่) ลักษณะอย่างนี้เป็นปกติ ที่น่าสนใจคือ Young Old และ Old Young
Young Old หรือ YOLD ได้กล่าวถึงแล้ว ส่วน Old Young (ขอเรียกว่า OLYO) นั้นหมายถึง คนหนุ่มสาวที่เสมือนเป็นคนแก่ กล่าวคือไม่กระฉับกระเฉง มีความคิดที่แคบ ไม่สนใจโลกเพราะสนใจแต่ตัวเองไม่มีความคิดที่ทันสมัย พวก OLYO นี้ น่าสงสารเพราะแก่ตั้งแต่ยังหนุ่มสาวอยู่
คราวนี้กลับมาที่พวก YOLD ซึ่งแก่แต่มีจิตใจและร่างกายที่ยังเป็นหนุ่มสาวพอควร คือ ไม่ยอมปลดระวางตัวเอง (ขอย้ำว่าไม่ใช่ทุกคนในวัย 65-75 ปีที่เป็น YOLD) ในประเทศพัฒนาแล้ว ในปี 2020 YOLD มีจำนวนมากถึง 134 ล้านคน หรือ 11% ของประชากร ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 99 ล้านคน (8%) ในปี 2000 การเปลี่ยนแปลงนี้มีอัตราสูงที่สุดของทุกกลุ่มอายุของประชากร
จากการสำรวจเมื่อเร็วๆ นี้พบว่า คนอเมริกันอายุ 60 ปีขึ้นไป รวมกันมีรายได้หลังจากหักภาษีแล้วเป็น 70% ของรายได้รวมหลังหักภาษีแล้วของคนทั้งประเทศ นอกจากนี้ในปี 2018 70% ของคนอายุ 50-65 ปี ใช้อินเทอร์เน็ต ส่วนคนอายุ 65 ปีขึ้นไปใช้อินเทอร์เน็ตถึง 38% คนสูงอายุที่ใช้อินเทอร์เน็ต 94% ใช้เพื่อรับ-ส่งอีเมล 77% ซื้อของออนไลน์ 71% ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ และ 70% ใช้อ่านข่าว
คนไทยในเมืองในวัยนี้จำนวนไม่น้อย ไม่น่าจะมีพฤติกรรมแตกต่างจากคนอเมริกันในวัยเดียวกัน YOLD เหล่านี้กำลังท้าทายการคาดหวังของสังคมทั่วไปว่า จะอยู่ในวัยเลี้ยงหลานหรือเลี้ยงนกเขา
YOLD เป็นคนในยุค Baby Boomers คือเกิดหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่มีอัตราการเกิดสูงมากเป็นพิเศษ บัดนี้ถึงวัยที่น่าจะเป็นไปตามความคาดหวังของสังคม แต่คนเหล่านี้ไม่หยุดเพราะยังมีสุขภาพที่แข็งแรงอยู่ ปัจจุบันกำลังเป็นเป้าหมายทางการตลาดเพราะ YOLD มักมีอำนาจซื้อสูง เช่นเดียวกับรสนิยมและแถมไม่มีภาระทางการเงินอีกด้วย
สัดส่วนของคนในวัย 65-75 ปี ที่เป็น YOLD ในประเทศที่พัฒนาแล้วสูงกว่าบ้านเรา แต่ปรากฏการณ์ของ YOLD ซึ่งเพิ่งเริ่มขึ้นในบ้านเราเมื่อ 10-15 ปีก่อนก็ถือได้ว่าเป็นเรื่องสำคัญ เพราะ YOLD สร้างรายได้ให้ประเทศร่วมสร้างงาน เสียภาษีให้รัฐและผลิตสิ่งที่มีคุณค่าให้สังคมเป็นระยะเวลาที่ยาวนานขึ้น
หาก YOLD มีจำนวนมากขึ้นเป็นลำดับในสังคม เราสิ่งที่จะเกิดขึ้น ได้แก่
(1) ทัศนคติที่มีต่อผู้สูงอายุของสังคมจะเปลี่ยนไปเนื่องจากการเห็นบทบาทของ YOLD
(2) การเกษียณคนอายุที่ 60 หรือ 65 ปีของภาครัฐและเอกชน อาจต้องเปลี่ยนไปเพื่อปรับให้สอดคล้องกับความสามารถของคนวัยนี้ และ
(3) การใช้จ่ายด้านการแพทย์ของภาครัฐที่มีให้แก่ผู้สูงอายุต้องสูงขึ้นโดยธรรมชาติ ซึ่งหมายถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายที่เคยมีมาแต่เดิมว่า คนอายุเกิน 60 ปีก็จบฉากแล้ว
คำว่า YOLD มิได้สื่อความหมายไปทางประชดประชันที่ว่า “แก่แล้วยังไม่เจียมตน” หากมีนัยยะของ “ความเก่ง” ของคนวัยนี้แอบแฝงอยู่ ดังนั้น คนที่คิดว่าตนเป็น YOLD จึงภูมิใจในตัวเอง ขอบคุณตัวเองที่มิได้ทำให้ร่างกายลึกหรอมากเกินไปในวัยหนุ่มสาว มิได้มีพฤติกรรมในการดำรงชีวิตจนทำให้เกิดหลายโรคและได้ดูแลสุขภาพตัวเองได้ดีพอควร
YOLD ต้องขอบคุณยีนส์จากบรรพบุรุษตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ (ไม่มีอะไรจะอธิบายได้นอกจากสิ่งนี้) ที่ทำให้มีอายุถึงปูนนี้และยังมีร่างกายแข็งแรงและจิตใจที่ไม่ย่อท้อ
Nancy Pelosi เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐอเมริกาถึงสองสมัย ที่มีชื่อเสียงเกรียงไกรในความเก่งกาจของเธอปัจจุบันเธอครองตำแหน่งนี้ในวัย80ปี มีผู้สื่อข่าวถามเธอว่าเมื่อไหร่เธอจะรีไทร์เสียที เธอตอบว่า“I am not on timetable, I am on a mission” (ชีวิตฉันไม่ได้เดินตามตารางเวลาหากตามพันธกิจ)
“Old age is not so bad when you consider the alternative. “(Maurice Chevalier นักแสดงและนักร้องมีชื่อชาวฝรั่งเศส ; ค.ศ.1888-1972)” “ความเเก่มิได้เลวร้ายนักเมื่อคำนึงถึงอีกทางเลือก”