'เทพไท' สอนโฆษก พปชร. ต้องรู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ อย่าชกข้ามรุ่น ระวังจะถูกน็อคเสียมวย
"เทพไท" สอน โฆษก พปชร. ต้องรู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ ที่สูงที่ต่ำ ชกข้ามรุ่นหรือแบกน้ำหนัก ระวังจะถูกน็อคเสียมวยได้ บอก "ธนกร" ไปศึกษาประวัติศาสตร์ให้ถ่องแท้ กลุ่มพี่น้อง 3ป. อยู่ตรงไหน ก่อนแขวะ "อภิสิทธิ์"
เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 63 นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตโฆษกพรรคพลังประชารัฐ และ นางสาวพัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ โฆษกพรรคพลังประชารัฐคนปัจจุบัน ได้กล่าวพาดพิงถึงการแสดงความคิดเห็นในเชิงวิชาการของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในเวทีเสวนา "365 วันรัฐสวัสดิการ" จัดโดยเครือข่าย We Fair เมื่อวันที่ 11 ก.ค. 63 หอประชุมมูลนิธิ 14 ตุลา แยกคอกวัว ว่า ตนในฐานะอดีตโฆษกส่วนตัวของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อเห็นการให้สัมภาษณ์ในลักษณะเสียดสี บิดเบือนข้อเท็จจริง พาดพิงให้ นายอภิสิทธิ์ ได้รับความเสียหาย จึงจำเป็นต้องออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงแทน นายอภิสิทธิ์ ที่ได้ว่างเว้นจากการเป็น ส.ส.ไปแล้ว จึงขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงว่า การที่ นายอภิสิทธิ์ ออกมาแสดงความเห็นทางการเมืองในครั้งนี้ ก็เพราะได้รับเชิญให้เป็นวิทยากรในเวทีเสวนา "365 วันรัฐสวัสดิการ" จัดโดยเครือข่าย We Fair จึงจำเป็นต้องแสดงความเห็นตามหัวข้อการเสวนา ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นข้อเท็จจริงและเป็นข้อมูลทางวิชาการทั้งสิ้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะไปดิสเครดิต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ได้รับความเสียหาย และ นายอภิสิทธิ์ ยังเสนอแนะเรื่องการปรับ ครม.กับ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าควรให้โอกาสคนมีความสามารถช่วยบริหารประเทศด้วย แต่กลับมีลิ่วล้อของพรรคพลังประชารัฐบางคน ที่หลุดจากตำแหน่งโฆษกพรรค และกำลังจะตกงานจากการปรับคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้ ออกมาฟาดงวงฟาดงาพูดจาเทอะเทอะ เรียกราคาค่างวดให้กับตัวเอง เพื่อหวังให้ผู้มีอำนาจได้เห็นความดี หวังจะได้รับความชอบเพื่อปูมบำเหน็จให้ได้รับตำแหน่งทางการเมืองอื่นๆ อีกครั้ง เพราะที่ผ่านมาได้ซื้อหวยผิด กระโดดออกจากกลุ่มสามมิตรมารับใช้กลุ่ม 4 กุมารอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู สุดท้ายเมื่อกลุ่ม 4 กุมารถูกลอยแพ ต้องลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ตัวเองก็พลอยตกกระป๋องไปด้วย ไม่กล้าลาออกตามเจ้านายไป จึงหวังจะกระโดดจากกลุ่ม 4 กุมาร เพื่อกลับไปกลุ่มสามมิตรอีกครั้ง ซึ่งเป็นปกติของนักการเมืองบางจำพวก ที่ใช้ทฤษฎีเห็บหมา เมื่อหมาตัวเดิมตาย เห็บก็กระโดดไปเกาะหมาตัวใหม่ จึงจำเป็นต้องออกมาพูดจาพาดพิงถึง นายอภิสิทธิ์ เรื่องเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมืองของกลุ่มคนเสื้อแดงในปี 2553 ที่มี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี อยากจะถามว่าในตอนนั้น นายธนกร ยืนอยู่ข้างฝ่ายใด อยู่ในกลุ่มที่เป็นนั่งร้านให้ระบอบทักษิณใช่หรือไม่ เมื่อระบอบทักษิณล่มสลาย ก็เปลี่ยนมาเป็นนั่งร้านให้กับระบอบ คสช. หรือระบอบประยุทธ์ในปัจจุบัน และหลังจากนี้จะย้ายไปเป็นนั่งร้านให้กับกลุ่มใดอีก
นายเทพไท กล่าวต่อว่า จึงอยากจะชี้แจงข้อเท็จจริงเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมืองเมื่อปี 2553 ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น รายชื่อฝ่ายความมั่นคงที่รับผิดชอบการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงทั้งหมดในจำนวนนั้น ก็มีชื่อของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เป็นผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นรองผู้บัญชาการทหารบก ด้วย ถ้า นายธนกร จะออกมาตำหนิ นายอภิสิทธิ์ ในเรื่องนี้ ข้อควรไปศึกษาประวัติศาสตร์ให้ถ่องแท้ว่า กลุ่มพี่น้อง 3ป. ที่ นายธนกร กำลังเชียร์และอาศัยใบบุญอยู่นั้น มีความรับผิดชอบการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในการเผาบ้านเผาเมืองด้วยหรือไม่
นายเทพไท กล่าวอีกว่า ส่วนกรณี นางสาวพัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ โฆษกพรรคพลังประชารัฐคนใหม่ ออกมาชี้แจงผลงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เป็นเรื่องที่รับฟังได้ การพาดพิงถึง นายอภิสิทธิ์ บ้างในบางประเด็นถือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่ถือสาเพราะเป็นโฆษกมือใหม่หัดขับ และมีการยอมรับว่าการให้สัมภาษณ์ของ นายอภิสิทธิ์ นั้นเป็นไปอย่างตรงไปตรงมา ถือว่าเป็นความงดงามในระบอบประชาธิปไตย ที่มีความเห็นแตกต่างกัน และสามารถวิพากษ์วิจารณ์กันได้ ก็ถือว่าเป็นโฆษกป้ายแดงใจกว้างกว่าโฆษกพรรคคนเก่า เพราะสิ่งที่ นายอภิสิทธิ์ พูดเรื่องคะแนนเสียงที่ได้มาของพรรคพลังประชารัฐในการเสนอรายชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีในนามพรรคนั้น คะแนนของคนกรุงเทพฯ ก็มาจากการใช้สโลแกนหาเสียง “อยากได้ความสงบจบที่ลุงตู่” แต่สำหรับคะแนนที่มาจากต่างจังหวัดส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่มาจาก ”บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน” ที่แจกจ่ายให้กับประชาชนเสมือนกับการซื้อเสียงล่วงหน้าแทบทั้งสิ้น
"ดังนั้น ในฐานะที่เป็นโฆษกรุ่นพี่ก็อยากจะให้ข้อคิดกับโฆษกรุ่นหลังให้ทราบว่าการทำหน้าที่โฆษกที่ดี ต้องรู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ ที่สูงที่ต่ำ ชกข้ามรุ่นหรือแบกน้ำหนัก ระวังจะถูกน็อคเสียมวยได้ง่าย ต้องพูดจาแบบตรงไปตรงมาในลักษณะสร้างสรรค์ และควรจะใช้ข้อมูลในการชี้แจงประเด็นต่างๆ อย่างตรงไปตรงมา หลีกเลี่ยงการเสียดสี ใส่ร้ายบิดเบือนข้อเท็จจริง ซึ่งอาจจะทำให้สังคมสับสน และเกิดความขัดแย้งทางสังคมขึ้นมาอีก" นายเทพไท กล่าว