ผอ.สำนักอนามัย แจงลูกสาวทูตพบเชื้อ 'โควิด' ตั้งแต่สนามบิน-การกักตัวเป็นขั้นตอนสถานทูต
ผอ.สำนักอนามัย เผยลูกสาวทูตตรวจคัดกรองสนามบินสุวรรณภูมิ พบเชื้อ "โควิด-19" แจงมาตรการกักตัวเป็นขั้นตอนสถานทูต หลังพบเป็นอาคารชุดย่านสุขุมวิท ประสานแจ้งผู้ดูแลทันที ตรวจวงจรปิดไม่ได้เดินทางออกไปไหน ด้านผู้พักอาศัยยังมั่นใจการดูแลไม่กังวลใจ
เมื่อวันที่ 14 ก.ค. 63 นายแพทย์ปรีชา เปรมปรี รองอธิบดีกรมควบคุมโรค นายแพทย์ชวินทร์ ศิรินาค ผู้อำนวยการสำนักอนามัย นายแพทย์สุนทร สุนทรชาติ รองผู้อำนวยการสำนักอนามัย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรค ลงพื้นที่คอนโดมิเนียมภายในซอยสุขุมวิท 26 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด19 เป็นเด็กหญิงอายุ 9 ขวบ ซึ่งเดินทางมากับคณะทูต
นายแพทย์ชวินทร์ เปิดเผยว่า สำหรับเด็กหญิงผู้ติดเชื้อดังกล่าว ได้เดินทางเข้ามาภายในประเทศทางสนามบินสุวรรณภูมิ ในวันที่ 10 กรกฎาคม เวลา 05.00 น. ได้ตรวจคัดกรองของสนามบินพบเชื้อโควิดจากตัวผู้ป่วย จากนั้นทางสถานทูตจะนำไปกักตัว ก่อนส่งตัวผู้ป่วยไปรักษาที่โรงพยาบาลเอกชน เพื่อตรวจเชื้ออย่างละเอียด จนวันที่ 11 กรกฎาคม ยืนยันผลตรวจเป็นบวก จึงได้ส่งผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลของรัฐบาล เพื่อทำการรักษา
นายแพทย์ชวินทร์ เปิดเผยว่า ทั้งนี้มาตรการกักตัวผู้ป่วยนั้น เป็นขั้นตอนของสถานทูต ที่จะดำเนินการในการจัดสถานที่สำหรับพักฟื้น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ของไทยไม่ทราบว่าสถานทูตของประเทศนั้นจะนำตัวบุคคลไปพักที่ไหนหลังจากพบเชื้อที่สนามบิน ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ของไทยสืบทราบก็รีบแจ้งกับทางผู้ดูแลคอนโดดังกล่าวทันที ซึ่งทางเจ้าหน้าที่คอนโดได้ดำเนินการปิดลิฟต์ ทำความสะอาดฆ่าเชื้อ ในพื้นที่เพื่อความปลอดภัย โดยในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้นำรถพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย ในการตรวจเชื้อโควิด19 มาตรวจผู้พักอาศัย และผู้ที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อ
นายแพทย์สุนทร กล่าวว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของคอนโด พบว่า ขณะที่เด็กหญิงคนดังกล่าวพักอยู่พร้อมครอบครัว รวม 5 คน ไม่มีการเดินทางออกไปที่อื่นแต่อย่างใด ก่อนที่เด็กหญิงจะถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล ซึ่งขณะนี้อาการของผู้ป่วยอยู่ในเกณฑ์ดีขึ้นเป็นอย่างมาก ส่วนคนในครอบครัว อีก 4 คน ขณะนี้ได้ถูกย้ายไปกักตัวที่อื่นแล้วและอยู่ในการเฝ้าติดตามของเจ้าหน้าที่ ซึ่งทั้งหมดยังไม่มีอาการหรือภาวะการติดเชื้อแต่อย่างใด จึงขอให้ความมั่นใจในมาตรการป้องกันเชื้อว่าสามารถควบคุมได้
นายแพทย์สุนทร เปิดเผยอีกว่า สำหรับการคัดกรอง สอบสวนโรคของผู้ที่อยู่ในคอนโดดังกล่าว จะมีการคัดแยกผู้ที่มีความเสี่ยงสูง และความเสี่ยงต่ำ ซึ่งหากพบผู้ที่มีความเสี่ยงสูงจะติดเชื้อ เจ้าหน้าที่จะกักตัว ติดตามผล 14 วัน ซึ่งมาตรการนี้จะต้องสอบสวนโรคของผู้อาศัยในคอนโดดังกล่าวเพื่อคัดแยก อย่างไรก็ตามคอนโดแห่งนี้ส่วนใหญ่จะเป็นห้องพักส่วนตัวจึงทำให้การสัมผัสติดต่อเป็นไปได้ยาก แต่ที่น่าเป็นห่วงคือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อาจสัมผัสได้โดยตรง ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า มีพนักงานได้ติดต่อกับครอบครัวของผู้ติดเชื้อ จำนวน 1 คน ซึ่งขณะนี้ได้กักตัว เพื่อติดตามเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ด้านนิติบุคคลของคอนโดได้ออกแถลงการณ์ ชี้แจงหลังจากได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา ก็ได้มีมาตรการ ทั้งสิ้น 5 ข้อ ดังนี้ 1.ได้ปิดลิฟต์โดยสาร และพื้นที่ส่วนกลาง พร้อมทำความสะอาดฆ่าเชื้อทันทีตั้งแต่วันที่ 13 กรกฎาคมโดยวันนี้จะมีการทำความสะอาดอีกครั้ง และครั้งที่สามในวันที่ 21 กรกฎาคมนี้, 2.จากการตรวจสอบพนักงานของคอนโดฯ ไม่พบว่ามีการติดต่อกับผู้ป่วยโดยตรง แต่มีพนักงานเพียง 1 คนที่ติดต่อกับครอบครัวของผู้ป่วย ทางคอนโดฯ จึงให้พนักงานรายดังกล่าว กักตัวเพื่อติดตามอาการตามมาตรการ 14 วัน, 3.ทางคอนโดฯได้อำนวยความสะดวกให้รถพระราชทานตรวจหาเชื้อโควิด19 เข้ามาให้บริการกับผู้พักอาศัยภายในโครงการพร้อมแจ้งให้ผู้พักอาศัยเข้ารับบริการตรวจหาเชื้อโดยไม่มีค่าใช้จ่าย , 4.ประกาศแจ้งลูกบ้านที่พักอาศัยในคอนโดฯ ที่ใช้ลิฟต์โดยสารระหว่างวันที่ 10-12 กรกฎาคมให้ติดต่อเจ้าหน้าที่นิติบุคคล เพื่อรับบริการตรวจหาเชื้อโควิด19 ลงทะเบียนรับคู่มือดูแลตนเอง งดใช้พื้นที่ส่วนกลาง และกักตัวเป็นเวลา 14 วัน, 5.ทางคอนโดฯ มีมาตรการเข้มข้นรัดกุม โดยมีการทำความสะอาดจุดต่างๆ ในอาคารด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุกชั่วโมง เช่น ปุ่มกดลิฟต์ ราวจับบันได มือจับประตู อุปกรณ์ฟิตเนส เป็นตัน มีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายของผู้ผ่านเข้าออกโครงการและห้ามผู้มีความเสี่ยงเข้าพื้นที่ ให้พนักงานทุกคนสวมหน้ากากอนามัยขณะปฏิบัติหน้าที่ และห้ามพนักงานเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง
ขณะที่หนึ่งในผู้พักอาศัยในคอนโด เปิดเผยว่า ได้พักอาศัยอยู่มา 5 ปี โดยเชื่อมั่นในมาตรการป้องกันของรัฐ และมาตรการป้องกันโรคของคอนโดฯ ว่าจะมีความปลอดภัย จึงทำให้ไม่รู้สึกกังวลแต่อย่างใด ทั้งนี้อยากจะให้เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลมีการตรวจคัดกรองเชื้ออย่างละเอียดไม่มีการยกเว้นกับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง อยากให้มีความเท่าเทียมกัน