พยัคฆ์ไพร พญาเสือ ขยายผล ไล่ล่าแกงค์ปล้นไม้ของกลางล๊อตใหญ่ในพื้นที่อีสาน
ยังพบไม้ผิดกฏหมายในพื้นที่ล๊อตใหญ่ รวมทั้งพะยูงกว่า 40 ลบ.ม. มูลค่าไม่ตำ่กว่า 10 ล้านบาท
ภายหลังเหตุการณ์กลุ่มคนร้ายนับสิบคนพร้อมอาวุธ ร่วมกันลักลอบขโมยไม้พะยูงของกลางของหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นม4,(เขาภูหลวง) ท้องที่ สภ.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา จนเต็มคันรถและหนีไปในช่วงประมาณตีสองของวันเสาร์ที่ผ่านมา ก่อนเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ในระหว่างการสกัด โดยบางคนได้รับบาดเจ็บก่อนหลบหนีไปนั้น
ทางเจ้าหน้าที่ยังเร่งขยายผล ไล่ล่าตามตัวมารับโทษ หลังพบว่าขบวนการดังกล่าวเชื่อมโยงกันในหลายจังหวัดในภาคอีสาน
โดยคืนเกิดเหตุในเช้าวันเสาร์ กลุ่มคนร้ายนับสิบคนพร้อมอาวุธลักลอบเข้าไปขโมยไม้พะยูงของกลางของหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ 4 ดังกล่าว โดยขนไม้ของกลางออกไปจนเต็มคันรถ ก่อนขับหนีออกไปทางถนนสาย 304 โดยมีรถคุ้มกันหลายคัน
อย่างไรก็ตาม, เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อุดมทรัพย์ และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ หน่วย นม4.ได้พยายามเข้าสกัดโดยใช้รถไถนามาปิดกั้นถนนไว้ และแสดงตัวจับกุม แต่คนร้ายบางส่วนวิ่งหลบหนีหายไปในความมืด และมีคนร้ายซึ่งทราบชื่อภายหลังคืด ส.อ.สงวน บุตรเสลี่ยม ได้ใช้อาวุธปืนลูกซองยาวแบบ 5 นัดซึ่งมีการปรับแต่งเป็นพิเศษ ต่อสู้คณะเจ้าหน้าที่ ก่อนทิ้งอาวุธปืนและหลบหนีไปพร้อมพรรคพวก
ส่วนรถยนต์คุ้มกันอาศัยเส้นทางอื่นๆหลบหนีไป และมีคนร้ายที่มากับรถขนไม้พะยูงถูกจับกุมได้ 2 คน ที่เหลือหลบหนีไปได้
นายวราวุธ ศิลปะอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหลังรับทราบเรื่อง จึงสั่งการด่วนให้นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ มอบหมายให้นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ ประสานการปฏิบัติการร่วมกับชุดชุดปฎิบัติการฯ พยัคฆ์ไพร ชุดพญาเสือ กรมอุทยานฯ และชุดปฎิบัติการของ ศปป4.กอรมน โดยพันเอก(พิเศษ)พงษ์เพชร เกษสุภะ ขยายผล ติดตามขบวนการอย่างเร่งด่วน
โดยวานนี้ นายชีวะภาพ ได้ประสานนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สบอ. 9 อุบลราชธานี ขอหมายศาลจังหวัดอุบลราชธานี เข้าตรวจค้นสถานที่หลายจุดในท้องที่ ต.ช่องเม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี ตามที่คณะเจ้าหน้าที่ขยายผล และทราบว่าเป็นที่พักอาศัยของกลุ่มคนร้าย และเป็นจุดเก็บรักษาไม้พะยูงที่ร่วมกันลักลอบขโมยหรือปล้นมาจากที่ต่างๆ ทั่วภาคอีสาน รวมทั้งบ้านของนายโสภณ บุญเชื่อม ซึ่งสืบทราบว่าเป็นแหล่งซ่องสุมและเก็บไม้พะยูง ก่อนส่งต่อให้ขบวนการเคลื่อนย้ายออกไปต่างประเทศ บ้านพักของ ส.อ.สงวน และโรงงานไม้แปรรูปอีก 2 แห่งในพื้นที่ ต.ช่องเม็ก ซึ่งพบของเครื่องใช้และไม่ผิดกฏหมายจำนวนหนึ่งในโรงงานแห่งที่ 2
“จากการรวบรวมข้อมูลขยายผล พบกลุ่มขบวนการของนายโสภณ เป็นกลุ่มขบวนการลักลอบไม้พะยูงที่เคยเข้าลักลอบไม้พะยูงของกลางที่หน่วยป้องกันรักษาป่า กส1,(ห้วยเม็ก) ช่วงปลาย พค. ที่ผ่านมา และอีกหลายๆที่ในเขตภาคอีสาน ซึ่งชุดปฎิบัติการฯ จะขยายผลต่อไป” นายชีวะภาพกล่าว
และวันนี้ นายชีวะภาพ พร้อมกับชุดปฎิบัติการพยัคฆ์ไพร ประสานตำรวจวังน้ำเขียว เพื่อติดตามคนร้ายทั้งหมดที่ยังหลบหนีจำนวนไม่ต่ำกว่า 10คน ซึ่งมีคนลาวร่วมด้วย
ในขณะเดียวกัน ชุดปฎิบัติการฯ พญาเสือ ติดตามแกะรอยกลุ่มขบวนการในพื้นที่จังหวัดใกล้เคียงจนถึงจุดเก็บไม้พะยูงล้อตใหญ่ในท้องที่ อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ โดยตรวจสอบพบไม้พะยูงผิดกฎหมายจำนวนมาก ไม่ต่ำกว่า 40 ลบ.ม มูลค่าสูงไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท พร้อมคนเฝ้า 1คนที่พยามหลบหนี แต่ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไว้ได้
ทางชุดพญาเสือ เร่งสอบปากคำขยายผลเชื่อมโยงขบวนการ และประสานชุดพยัคฆ์ไพร,และชุดปฎิบัติการของ ศปป4.กอรมน เสริมกำลังเข้าร่วมดำเนินการขยายผลอีกครั้ง
นายชีวะภาพกล่าวว่า ทางคณะเจ้าหน้าที่ได้หารือมาตรการป้องกันการเกิดเหตุและดูแลของกลาง ตามหน่วยป้องกันรักษาป่าๆของกรมป่าไม้ และสรุปได้ดังนี้
1.เพิ่มศักยภาพของเวรยามที่ดูแลไม้ของกลางตามหน่วยๆ โดยคัดเลือกบุคคลที่มีความพร้อม ได้รับการฝึกฝนด้านการใช้อาวุธมาอย่างดี เพื่อความพร้อมสำหรับกรณีที่ต้องเจอเหตุการณ์ ที่จำเป็นต้องมีการปะทะกับกลุ่มขบวนการ
2.มีระบบการรายงานสถานการณ์ ที่มีประสิทธิภาพผ่านระบบไลน์กลุ่ม โดยเฉพาะช่วงเวลาตั้งแต่ 24.00-05.00 ของทุกวันโดยให้รายงานสถานการณ์ทุก 2 ชม.
3.เพิ่มเทคโนโลยีเช่นกล้องวงจรปิด ซ่งต้องมีทุกที่และต้องเป็นระบบที่การแจ้งเตือนเมื่อตรวจสอบพบ การเคลื่อนไหวทันที
4.เคลื่อนย้ายไม้ของกลางไปเก็บรักษาไว้ที่ปลอดภัย ตามโรงเก็บไม้ของกลางที่กระจายรองรับอยู่ตามแต่ละท้องที่
5.ใช้กลไกของ ศูนย์ปฎิบัติการพิทักษ์ป่า(ศปก.พป) เป็นตัวขับเคลื่อนประสานหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องขยายผลบังคับใช้กฎหมายต่อกลุ่มขบวนการในระดับต่างๆให้ถึงที่สุด