ไฮเออร์เบียดคู่แข่งกรุยทางขึ้นเบอร์1 ชู‘สมาร์ทโฮม’เจาะลูกค้ายุคดิจิทัล
สวนกระแสตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าชะลอตัว จากกำลังซื้อและเศรษฐกิจซบเซามาอย่างต่อเนื่อง ทุบซ้ำด้วยการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด แค้ไม่กระทบแบรนด์ยักษ์ใหญ่สัญชาติจีน “ไฮเออร์” ที่ขับเคลื่อนธุรกิจในประเทศไทยแบบโตวันโตคืน ท่ามกลางสินค้าและบริการต่างหืดขึ้นคอ!
สวนกระแสตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าชะลอตัว จากสภาพกำลังซื้อและเศรษฐกิจซบเซามาอย่างต่อเนื่อง ทุบซ้ำด้วยการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด กลับไม่กระทบแบรนด์ยักษ์ใหญ่สัญชาติจีน “ไฮเออร์” ที่ขับเคลื่อนธุรกิจในประเทศไทยแบบโตวันโตคืน ท่ามกลางสินค้าและบริการต่างๆ อยู่ในภาวะหืดขึ้นคอ!
จาง เจิ้งฮุ้ย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากและเกิดความคาดหวังใหม่ๆ จากแบรนด์สินค้า โดยเฉพาะ ราคาที่มาพร้อมมูลค่าเพิ่ม! ฟังก์ชัน นวัตกรรม ด้วยคอนเซ็ปต์ Internet of things เป็นปัจจัยสำคัญทำให้เกิดการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น
“ในเค้กก้อนเดียว และความต้องการผู้บริโภคมีจำกัด ไม่เพิ่มขึ้น เราต้องสร้างดีมานด์ อุดช่องว่างที่ตลาดต้องมี ซึ่งเราทำได้ดีกว่าคู่แข่ง! สะท้อนได้ชัดเจนจากผลประกอบการที่เติบโต 31% เหนือตลาดในครึ่งปีแรก”
การแพร่ระบาดของโควิด-19 สร้างความท้าทายให้กับไฮเออร์อย่างมาก ทั้งด้านการปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์ การวางแผนล่วงหน้าเพื่อรับมือกับสิ่งต่างๆ ที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้า สิ่งเหล่านี้จุดประกายการเตรียมพร้อมในสินค้า และขับเคลื่อนธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้ายุคนิวนอร์มอลภายใต้ความได้เปรียบของยุทธศาสตร์ธุรกิจแบบ “3in1” กล่าวคือ แบรนด์ไฮเออร์ ในประเทศไทย มี 3 องค์ประกอบครบทั้งศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D) โรงงานผลิต และหน่วยงานขาย ขณะที่แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ มีเฉพาะหน่วยงานขาย ไม่มีโรงงาน หรือมีโรงงาน หน่วยงานขาย แต่ไม่มีศูนย์อาร์แอนด์ดี
ศูนย์วิจัยและพัฒนานับเป็นเครื่องมือสำคัญในการเข้าถึงความต้องการเชิงลึกของผู้บริโภคในการพัฒนาสินค้าตอบโจทย์ดีมานด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความเป็น “3in1” จะเป็นกลไลผลักดันไฮเออร์ก้าวสู่แบรนด์อันดับ 1 ในไม่ช้า!
ปี 2563 นี้ไฮเออร์ยังคงเดินหน้าขยายตลาดภายใต้เป้าหมายยอดขายรวมทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ 6,205 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38% จากปีที่ผ่านมา ในจำนวนนี้เป็นรายได้จากเครื่องปรับอากาศภายในบ้าน 2,940 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% ตู้เย็น 1,160 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50% เครื่องซักผ้า 835 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% ตู้แช่ 590 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41% เครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ 365 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45% และผลิตภัณฑ์ประเภทอื่นๆ 322 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65%
ขณะที่เศรษฐกิจไทยคาดการณ์ติดลบ 8-10% ภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้ามูลค่า 69,000 ล้านบาท ประเมินว่าหดตัว 5-10% โดยสินค้าที่หดตัวแรง อาทิ ทีวี ติดลบราว 10% รวมทั้งเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ ซึ่งมีมูลค่าสูงได้รับผลกระทบจากโครงการต่างๆ เลื่อนเปิด รวมถึงเครื่องซักผ้า และตู้เย็น ที่ตลาดติดลบ
สำหรับ 4 กลุ่มสินค้าหลัก และเป็นเรือธงของไฮเออร์ “เครื่องปรับอากาศ” ตลาดรวมมูลค่า 27,185 ล้านบาท เติบโต 6% ไฮเออร์มีส่วนแบ่งตลาด 12% อยู่อันดับ 3 “ตู้เย็น” ตลาดรวมมูลค่า 13,000 ล้านบาท ติดลบ 3%ไฮเออร์ มีมาร์เก็ตแชร์ 9.5% เป็นอันดับ 6 “เครื่องซักผ้า” ตลาดรวมมูลค่า 13,000 ล้านบาท ติดลบ 4% ไฮเออร์มีมาร์เก็ตแชร์ 10% เป็นอันดับ 3 “ตู้แช่” ตลาดรวมมูลค่า 4,700 ล้านบาท เติบโต 3% ไฮเออร์ มีมาร์เก็ตแชร์ 13% เป็นอันดับ 2
โดยครึ่งปีหลังนี้ ไฮเออร์เร่งเกมรุกต่อเนื่อง มีการเปิดตัวสินค้าใหม่ลงตลาด มุ่งเจาะกลุ่มลูกค้ากลาง-บน ด้วยการเน้นขายสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่ม หรือพรีเมียมมากขึ้น ดีไซน์่สวยงาม นวัตกรรมล้ำสมัย และฟังก์ชันที่สร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง! โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ "สมาร์ทโฮม" เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ และการเปิดตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็กมากขึ้น เช่น หม้อทอด หม้อหุงข้าว
ขณะเดียวกัน เร่งสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์ ซึ่งมีทิศทางเป็นบวกมาอย่างต่อเนื่องสำหรับแบรนด์สัญชาติจีนที่ลูกค้าให้การยอมรับและทดลองใช้ผลิตภัณฑ์มากขึ้นผลักดันให้ธุรกิจไฮเออร์มีการเติบโต นอกจากนี้จะมีการทุ่มงบส่งเสริมการขายทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ ขยายช่องทางการตลาด เจาะกลุ่มธุรกิจ บีทูบี (B2B) ปรับภาพลักษณ์ร้านตัวแทนจำหน่าย และพัฒนาบริการทั้งก่อนและหลังการขายให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
สำหรับเครื่องปรับอากาศของไฮเออร์ ได้เปิดตัวแคมเปญรูปแบบใหม่ Smart Sharing AC “เย็นดีแค่4บาท” มิติใหม่แห่งวงการเครื่องปรับอากาศ ที่ให้ทุกคนสามารถติดแอร์ที่บ้านได้ โดยคิดค่าใช้จ่ายเป็นชั่วโมงที่ใช้ 4บาท/ต่อชั่วโมง เมื่อใช้ครบ 5,200 ชั่วโมง ในสัญญา 3 ปี รับเครื่องปรับอากาศฟรี จะเป็นต้นแบบในการขยายสู่กลุ่มสินค้าอื่นๆ ในปีหน้า
อีกสินค้าไฮไลท์ คือ ตู้เย็นอัจฉริยะใหม่ IOT Smart Series รุ่น HRF-MD758 เพื่อก้าวสู่ยุคแห่งอนาคตด้วยนวัตกรรมจอทัชสกรีนขนาดใหญ่ พร้อมผู้ช่วยอัจฉริยะ สั่งการด้วยเสียง พร้อม “Food Manage” สามารถจัดการและจดบันทึกรายการอาหาร ติดตั้งเทคโนโลยีช่วยเช็คสต็อกอาหารผ่านทางหน้าจอหรือมือถือ และสั่งซื้อของผ่านโกรเซอรีออนไลน์ เป็นต้น
ไฮเออร์ ยังเตรียมรุกตลาดเครื่องซักผ้าคอมเมอร์เซียล ซึ่งจะเปิดร้านซักผ้าต้นแบบแบรนด์ไฮเออร์ในเร็วๆ นี้ เสริมภาพลักษณ์แบรนด์นอกเหนือ “ไฮเออร์ แบรนด์ ช็อป” ขนาดใหญ่ที่สุดในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะที่ศักยภาพของโรงงานผลิตในไทยยังมีแผนส่งออกเพื่อนบ้านอีกด้วย