‘บาร์บีคิวพลาซ่า’บุกนอนฟู้ดปั้น‘ไลเซ่นส์คาแรคเตอร์’ปั๊มรายได้
โจทย์ใหญ่ของภาคธุรกิจเวลานี้...จะกระตุ้นบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยในประเทศให้มีโอกาสฟื้นตัวและกลับเข้าสู่ภาวะปกติอย่างเร็วที่สุดได้อย่างไร? สารพัดกลยุทธ์จึงถูกระดมมาใช้!
บุณย์ญานุช บุญบำรุงทรัพย์ ประธานบริหารหน่วยธุรกิจบาร์บีคิวพลาซ่า และงานบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด กล่าวว่า วิกฤติโควิด-19 ทำให้ "บาร์บีคิวพลาซ่า" ต้องสูญเสียรายได้เป็นจำนวนมากจากการนั่งรับประทานในร้าน จึงต้องมองหาแนวทางสร้างแหล่งรายได้ทางเลือกอื่นๆ นอกเหนือจากการจำหน่ายอาหารในร้านเพียงอย่างเดียว เพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้อีกในอนาคต!
ที่ผ่านมา บาร์บีคิวพลาซ่าได้ออกแคมเปญต่างๆ ทั้งในเชิง “ผลิตภัณฑ์” หรือ “เมนู” ที่แปลกใหม่ รวมไปถึงการเพิ่มช่องทางจำหน่ายใหม่ๆ ทุกรูปแบบล้วนเพื่อหาแหล่งรายได้ใหม่ ให้กับบาร์บีคิวพลาซ่า
อีกโอกาสสำคัญที่จะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับแบรนด์ นั่นคือ การรุกธุรกิจประเภท “Non-food Restaurant” ด้วยการขายไลเซ่นส์ (License) บาร์บีกอน ที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้วจากแคมเปญร่วมกับ แอนนิเทค (Anitech) และ มาชิตะ
โดยครั้งนี้ ได้ยกระดับการขายไลเซ่นส์นอกเหนือจากแค่นำ “บาร์บีกอน” ด้วยการให้พื้นที่สื่อของบาร์บีคิวพลาซ่า ทั้งในร้านและออนไลน์เพื่อโปรโมทสินค้าของแบรนด์! ที่ซื้อ ไลเซ่นส์ รวมถึงให้คำแนะนำด้านการตลาดเพื่อเพิ่มศักยภาพของการใช้ไลเซ่นส์บาร์บีกอนให้เกิดประโยชน์สูงสุด
“นอกจากจะเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ให้บาร์บีคิวพลาซ่าอย่างจริงจังและจับต้องได้แบบระยะยาวแล้ว ยังเป็นการช่วยเพื่อนฟันฝ่าวิกฤติโควิดไปด้วยกัน สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ในวงกว้างและง่ายขึ้นผ่านความแข็งแกร่งของแบรนด์บาร์บีกอนและความเชี่ยวชาญด้านการตลาดของบาร์บีคิวพลาซ่า เป็นการนำแบรนด์คาแรคเตอร์มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดและมีมูลค่าเพิ่ม”
เบื้องต้นตั้งเป้าหมายสร้างรายได้จากช่องทางดังกล่าว 10 ล้านบาท ในสิ้นปีนี้ ประเดิมด้วยแบรนด์น้องใหม่ “วีว่าพลัส” เจลลี่ผสมวิตามินพร้อมดื่มเพื่อสุขภาพ ซื้อไลเซ่นส์บาร์บีกอนเสริมศักยภาพด้านการตลาด ซึ่งจะมีการนำไปใช้ในงานบิลบอร์ดโฆษณาขนาดใหญ่บนถนนสุขุมวิท โปรโมทในโซเชียลมีเดียของแบรนด์วีว่าพลัส ตามจุดจำหน่ายวีว่าพลัสในเซเว่นอีเลฟเว่นทั่วประเทศ และนำไปใช้ในงานส่งเสริมด้านข่าวประชาสัมพันธ์ต่างๆ ซึ่งวีว่าพลัส ยังได้ใช้พื้นที่ในร้านและบนออนไลน์ของบาร์บีคิวพลาซ่า อาทิ เต๊นท์การ์ดตั้งบนโต๊ะอาหารและโต๊ะแคชเชียร์ในร้าน โฆษณาผ่านตุ๊กตาบาร์บีกอนไฟเบอร์หน้าร้าน คลิปโฆษณาบนหน้าจอแอลซีดีหน้าร้านและโซเชียลมีเดียของบาร์บีคิวพลาซ่า รวมถึงนำผลิตภัณฑ์วีว่าพลัสแจกให้ลูกค้าบาร์บีคิวพลาซ่า เพื่อให้เกิดการทดลองและมีประสบการณ์กับแบรนด์
การหารายได้จากธุรกิจ “Non-food Restaurant” จะไม่หยุดแค่การขายไลเซ่นส์ แต่จะมีการทำการตลาดผ่านธุรกิจประเภทนี้ในรูปแบบใหม่ที่หลากหลายเพื่อตอบโจทย์การเพิ่มรายได้ให้บาร์บีคิวพลาซ่า ลึกไปกว่านั้น "คาแรคเตอร์บาร์บีกอน” จะทำหน้าที่สานเป้าหมายสูงสุด หรือ “ดาวเหนือ” ของบาร์บีคิวพลาซ่าที่จะเป็นแบรนด์ในชีวิตและสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่
ล่าสุด ฟู้ดแพชชั่น ยังยกทัพแบรนด์ในเครือสร้างแรงจูงใจลูกค้าให้กลับมาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเหมือนเดิม ผ่านลดยัลตี้โปรแกรม “GON and the Gang” ครอบคลุมลูกค้าแบรนด์บาร์บีคิวพลาซ่า จุ่มแซ่บ ฮัท ฌานา และโภชา กว่า 1 ล้านคน นำ 199 คะแนนสะสมแลกสิทธิ์ต่างๆ ในราคา 1 บาทจาก 5 พันธมิตรแบรนด์ไลฟ์สไตล์ เล็ทส์รีแลกซ์สปา, โรงภาพยนตร์เอสเอฟ, สถานเสริมความงามรมย์รวินท์, ร้านตัดผมเนเวอร์เซย์คัท และสวนน้ำวานานาวา
“ผู้ประกอบการหลายรายที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับกิจกรรมไลฟ์สไตล์ต่างได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดเช่นกัน เราจึงมีแนวคิดช่วยเหลือผู้ประกอบการพร้อมกระตุ้นให้ลูกค้าได้ผ่อนคลาย อยากออกมาทำกิจกรรมไลฟ์สไตล์นอกบ้านเหมือนเคย"
แคมเปญนี้ให้ 1 สิทธิ์ต่อ 1 แบรนด์ที่จะใช้บริการได้ 1 โค้ดต่อ 1 ครั้ง อาทิ
แลกซื้ออีวอยเชอร์เล็ทส์รีแลกซ์สปา (ตั้งแต่20 ก.ค.-22 ส.ค.)
แลกซื้อคอร์สรมย์รวินท์คลินิก (20 ก.ค.-31 ธ.ค.)
แลกซื้อตั๋วชมภาพยนตร์เอสเอฟซินีม่า (20 ก.ค.-30 ก.ย.)
ร้านตัดผมสุดแนวโดย “เวย์ และ นานา” ได้สิทธิ์แลกซื้อบริการตัดผม (20 ก.ค.-30 ก.ย.)
และแลกซื้อสิทธิ์ส่วนลด 25% บัตรเข้าสวนน้ำวานา นาวา วอเตอร์ จังเกิ้ล (20 ก.ค.-30 ก.ย.)
กิจกรรมทางการตลาดเหล่านี้เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายและช่วยให้แบรนด์พันธมิตรเข้าถึงฐานลูกค้าของฟู้ดแพชชั่น นำไป “ต่อยอด” ทางการตลาดในอนาคต สะท้อนนิยามความหมายของคำว่า “GON and the Gang” ซึ่งไม่ได้หมายจำกัดสิทธิประโยชน์เพียงสมาชิกบาร์บีกอน (GON) เท่านั้น แต่หมายรวมถึงแก๊ง (Gang) แบรนด์พี่น้องในเครือ และแก๊งเพื่อนร่วมธุรกิจ ที่เส้นทางจากนี้ ไม่สามารถเดินไปได้เพียงลำพัง!