5 ขั้นตอนลงทะเบียน 'สินเชื่อฉุกเฉิน' ธนาคาร 'ออมสิน' 50,000 บาท รอบที่ 2!
เปิดวิธีลงทะเบียน "สินเชื่อฉุกเฉิน" รอบ 2 สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจาก "โควิด-19" จากธนาคาร "ออมสิน" ที่มีรายได้ประจำ วงเงินสูงสุด 50,000 บาท
เริ่มเปิดรับลงทะเบียนแล้ว สำหรับโครงการเปิดให้กู้เงินรอบใหม่ จากธนาคาร "ออมสิน" โดยเริ่มเปิดลงทะเบียน "สินเชื่อ" วงเงิน 5 หมื่นบาท สำหรับผู้มีรายได้ประจำ รอบที่ 2 เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในกรณีที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ "โควิด-19 เริ่มตั้งแต่วานนี้ (4 ส.ค.)
โดย "สินเชื่อ" ในครั้งนี้ เป็นสินเชื่อประเภทเดียวกับ "สินเชื่อฉุกเฉิน" ที่เคยเปิดให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ลงทะเบียในช่วง 15 เม.ย. 63 และวงเงินเต็มไปแล้วหลังเปิดไปลงทะเบียนไม่กี่สัปดาห์ให้หลัง
สำหรับการลงทะเบียนในรอบ 2 นี้ เปิดโอกาสสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบที่เป็นผู้มีรายได้ประจำสามารถขอสินเชื่อได้ในวงเงินสูงสุด 50,000 บาท ตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- 'ออมสิน' ปล่อย 'สินเชื่อ' 50,000 บาท รอบ 2 สำหรับผู้มีรายได้ประจำ เช็ควิธีลงทะเบียนที่นี่!
- เปิดแล้ว 'ออมสิน' ให้กู้ฉุกเฉิน 5 หมื่นบาท รอบ2
- 'สินเชื่อ' ฉุกเฉิน ธ.ก.ส. เพื่อ 'เกษตรกร' กู้ได้อยู่ไหม ลงทะเบียนอย่างไร เช็คที่นี่!
- 'ว่างงาน' ลงทะเบียนขอรับ 'เงินชดเชย' จากประกันสังคม ทำตามวิธีนี้!
"กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" จัดลำดับ 5 ขั้นตอนการลงทะเบียนสำหรับผู้ที่ต้องการ "สินเชื่อ" ที่สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง ดังนี้
1. ตรวจสอบคุณสมบัติ
ก่อนที่จะเริ่มต้นยื่นข้อมูล เพื่อขอสินเชื่อกับทางธนาคารออมสิน ควรตรวจสอบคุณสมบัติผู้ขอสินเชื่อก่อน โดยคุณสมบัติของผู้ขอสินเชื่อสำหรับผู้มีรายได้ประจำ รอบที่ 2 ประกอบด้วย
- ผู้มีสัญชาติไทย มีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และเมื่อรวมอายุผู้กู้กับระยะเวลาที่ชำระเงินกู้ต้องไม่เกิน 65 ปี
- ผู้มีรายได้ประจำ แต่มีรายได้ลดลงหรือขาดรายได้เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไวรัสโคโรนา (COVID-19) เช่น พนักงานบริษัทในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวหรือธุรกิจบริการ และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง เป็นต้น
- เป็นผู้ที่มีถิ่นที่อยู่แน่นอน มีสถานที่ประกอบอาชีพสามารถติดต่อได้
- เป็นผู้ฝากเงินประเภทเผื่อเรียกของธนาคาร
- มีการตรวจสอบรายได้จากกรมสรรพากร (ถ้ามี)
2. ทำความเข้าใจเงื่อนไขสินเชื่อ
หากมีคุณสมบัติตรงตามที่ธนาคารกำหนดแล้ว สิ่งที่ต้องรู้ต่อไปคือ "เงื่อนไขและข้อกำหนดของสินเชื่อ" เพื่อทำความเข้าใจและเพื่อให้สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขต่างๆ ได้หลังจากที่ขอสินเชื่อได้แล้ว โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
- ให้กู้ตามความจำเป็นและความสามารถในการชำระคืน ไม่เกินรายละ 50,000 บาท
- อัตราดอกเบี้ยคงที่ (Flat Rate) 0.35% ต่อเดือน
- ต้องมีหลักประกัน (บุคคลค้ำประกัน 1-2 คน หรือหลักประกันประเภทอื่นที่ธนาคารกำหนด)
- ระยะเวลาชำระคืนเงินกู้และดอกเบี้ย ไม่เกิน 3 ปี
- ผ่อนชำระ 36 งวด ชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นรายเดือน โดยหักเงินชำระจากบัญชีเงินฝากของผู้กู้
- ระยะเวลาอนุมัติเงินกู้และจัดทำสัญญา สิ้นสุดวันที่ 30 ธันวาคม 2563 หรือจนกว่าจะครบวงเงินโครงการจำนวน 20,000 ล้านบาท
3. เตรียมเอกสารที่ใช้ในการขอสินเชื่อ และเอกสารของผู้ค้ำประกัน
ธนาคารออมสิน กำหนดเอกสารที่จำเป็นต้องใช้ในการขอสินเชื่อ ทั้งของผู้กู้และผู้ค้ำประกัน โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ ดังนี้
1. เอกสารส่วนบุคคล
1.1 สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน (ถ้ามี) ใบเปลี่ยนชื่อสกุล (ถ้ามี) ของผู้กู้และคู่สมรส / ผู้ค้ำประกัน
1.2 เอกสารแสดงสถานภาพ เช่น สำเนาใบสำคัญการสมรส (ถ้ามี)
1.3 สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากเผื่อเรียกธนาคาร ออมสิน / บัญชีเงินฝากพื้นฐาน ของผู้กู้
2. เอกสารทางการเงิน
2.1 สลิปเงินเดือน / หลักฐานการรับเงินเดือน เดือนล่าสุด ของผู้กู้และผู้ค้ำประกัน กรณีผู้ค้ำประกันไม่ใช่ผู้มีรายได้ประจำ (ประกอบอาชีพอิสระ) สามารถใช้บัญชีรับ-จ่ายย้อนหลัง 3 เดือนโดยอนุโลม
2.2 เอกสารแสดงการเดินบัญชี (Statement) ย้อนหลัง 3 เดือนของผู้กู้ และเดือนล่าสุดของผู้ค้ำประกัน
4. ลงทะเบียนขอสินเชื่อ
- ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ธนาคารออมสิน "www.gsb.or.th"
- เลือก "ลงทะเบียนสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่าย วงเงิน 10,000 บาท / 50,000 บาท" หรือคลิกที่ลิงก์ https://ln15.gsb.or.th/WEB-LN15/
- อ่าน "ข้อความตกลงยินยอม" อย่างละเอียด ก่อนคลิก "ลงทะเบียน" เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนต่อไป
- กรอกข้อมูลส่วนตัวที่ธนาคารกำหนด ให้ครบถ้วน ตามความเป็นจริง
- ธนาคารจะแจ้งให้มาติดต่อที่สาขา
- ยื่นเอกสารการขอกู้ที่สาขา
5. รอธนาคารพิจารณา
หลังจากที่ยื่นเอกสารขอสินเชื่อไปเรียบร้อยแล้ว ธนาคารออมสินจะใช้เวลาพิจารณาเอกสารประมาณ 4-15 วันทำการ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับหลักประกันและเอกสารคำขอกู้ครบถ้วน
ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ Call Center ธนาคารออมสิน 1115 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือติดต่อในวันเวลาราชการ ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. หมายเลขโทรศัพท์ 0-2299-8000