เบนซ์ป้ายแดงชนดะ แจ้ง 4 ข้อหาหนัก หญิงเมาอาละวาดขับรถไล่ชน

เบนซ์ป้ายแดงชนดะ แจ้ง 4 ข้อหาหนัก หญิงเมาอาละวาดขับรถไล่ชน

ตำรวจเตรียมสอบปากคำ "เบนซ์ป้ายแดงชนดะ" หญิงเมาอาละวาดขับรถชนรถหลายคัน บนถนนกำแพงเพชร เมื่อคืนที่ผ่าน พร้อมแจ้ง 4 ข้อหาหนัก

ความคืบหน้าเหตุหญิงสาวขับขี่รถยนต์เบนซ์เฉี่ยวชนคู่กรณีหลายคัน รวมถึงหลบหนีการจับกุมของตำรวจบริเวณหน้าตลาด อตก. ถนนกำแพงเพชร แขวงและเขตจตุจักร เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยผู้ขับขี่คือ น.ส.วิชุดา อายุ 37 ปี เหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้ได้รับบาดเจ็บ และมีรถยนต์ 2 คัน และรถจักรยานยนต์อีก 4 คัน ได้รับความเสียหาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้น.ส.วิชุดา ผู้ก่อเหตุขับรถเบนซ์เฉี่ยวชนแล้วหลบหนี ขณะนี้อยู่ระหว่างถูกควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ในห้องขังของสน.บางซื่อ อย่างไรก็ตามในช่วงสายของวันนี้ พนักงานสอบสวนเตรียมจะสอบปากคำผู้ก่อเหตุโดยละเอียด รวมถึงจะมีการสอบสวนพยานและผู้เสียหาย และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อสรุปภาพรวมการกระทำความผิด และมูลค่าความเสียหาย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

159720071542

ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณี ตำรวจจับกุม หญิงสาวขับรถเก๋งเบนซ์สีดำ ขับรถเฉี่ยวชนยานพาหนะผู้อื่น ตั้งแต่แยกแยกแคราย มาจนถึงถนนพระราม 6 ซึ่งผู้ได้รับความเสียหายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายรายว่า

ได้รับรายงานจาก สน.บางซื่อ ว่า เมื่อวันที่ 11 ส.ค. 63 เวลาประมาณ 22.00 น. ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ขับรถยนต์เฉี่ยวชนแล้วหลบหนีมีรถได้รับความเสียหายและผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย บริเวณ ถนนกำแพงเพชร แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ จึงแจ้งสกัดจับและเข้าทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุ

1597200716100

เมื่อมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ รถคันดังกล่าว ถูกพลเมืองดี และเจ้าหน้าที่ตำรวจล้อมจับไว้ที่บริเวณ หน้าโชว์รูมอีซูซุ ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ จากการตรวจสอบพบเป็นรถยนต์ ยี่ห้อเมอร์เซเดส เบนซ์ รุ่น E250d สีดำ หมายเลขทะเบียนป้ายแดง ฐ-0710 กรุงเทพมหานคร สภาพด้านหน้ามีร่องรอยการเฉี่ยวชน กระจกด้านหลังถูกทุบจนแยกเสียหาย ภายในรถพบ ผู้ขับขี่ เป็นหญิง อายุ 37 ปี สวมชุดเดรสลายดอกสีฟ้า มีแผลแตกบริเวณคิ้วขวา เจ้าหน้าที่กู้ภัยร่วมกตัญญูจึงได้ปฐมพยาบาลก่อนนำตัวมายัง สน.บางซื่อ โดยจากเหตุการณ์นี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายราย เบื้องต้นมีรถยนต์ 1 คัน และรถจักรยานยนต์ 2 คัน ได้รับความเสียหาย

รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า ในขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบปากคำ เนื่องจากผู้ต้องหายังไม่สามารถให้การได้ ซึ่งจากการตรวจวัดแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดพบปริมาณแอลกอฮอล์ 257 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เบื้องต้นได้ส่งตัวไปรักษาที่ รพ.เปาโล สะพานควาย ก่อนจะควบคุมตัวกลับมาแจ้งข้อหาในความผิดฐาน “ขับรถในขณะเมาสุราหรือสิ่งของมึนเมาอย่างอื่น ,ขับรถโดยประมาทเฉี่ยวชนผู้อื่นเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินเสียหาย, ไม่หยุดรถและให้ความช่วยเหลือ และ ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติการตามหน้าที่“

ซึ่งในข้อหาความผิดดังกล่าว มีอัตราโทษอยู่ในอำนาจศาลแขวง หากผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ พนักงานสอบสวน จะดำเนินการยื่นฟ้องต่อศาลแขวง ภายในระยะเวลา 48 ชั่วโมง แต่หากให้การปฏิเสธ พนักงานสอบสวน จะยื่นขอผัดฟ้องฝากขังผู้ต้องหาต่อศาล พร้อมสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เพื่อดำเนินดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับ เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรในทุกพื้นที่และกองบังคับการตำรวจจราจร กวดขันการตรวจสอบการขับขี่ยานพาหนะขณะเมาสุราและด่านตรวจแอลกอฮอล์ต่างๆอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันอุบัติเหตุและลดอัตราความสูญเสียต่างๆ ประกอบกับได้เน้นย้ำในการสร้างช่องทางการรับรู้ ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพิ่มมาตราการในการป้องกัน สร้างความตระหนักในการใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง โดยดำเนินการควบคู่กันไปทั้งการปลูกจิตสำนึกและบังคับใช้กฎหมาย เพื่อสร้างความปลอดภัยในสังคม รวมทั้ง ดูแลชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

159720071689