ทำไมต้อง 'คามาลา แฮร์ริส' คู่หู 'โจ ไบเดน' ชิงรองปธน.สหรัฐ

ทำไมต้อง 'คามาลา แฮร์ริส' คู่หู 'โจ ไบเดน' ชิงรองปธน.สหรัฐ

เป็นไปตามคาดหมาย “คามาลา แฮร์ริส” ส.ว.รัฐแคลิฟอร์เนีย วัย 55 ปี ตัวเก็งอันดับหนึ่งเป็นผู้ที่ “โจ ไบเดน” ตัวแทนพรรคเดโมแครตชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ตัดสินใจเลือกให้เป็นคู่หูลงชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีปลายปีนี้

ไบเดน เลือก แฮร์ริส ลงเป็นคู่หูลงชิงชัยการเลือกตั้งสหรัฐในวันที่ 3 พ.ย.นี้ ทำให้เธอกลายเป็นหญิงผิวสีและชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียคนแรกที่ได้รับบทบาทนี้ กรุงเทพธุรกิจจึงจะพาไปรู้จักตัวตนบนเส้นทางการเมืองของเธอให้มากขึ้น

แฮร์ริส ถูกกล่าวถึงบ่อยครั้งด้วยผลงานที่น่าประทับใจ ทั้งเป็น ส.ว. เคยลงแข่งเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ก่อนยอมแพ้ให้ไบเดนและในยุคของ “ชีวิตคนดำก็มีค่า” ข้อเท็จจริงที่ปฏิเสธไม่ได้คือแฮร์ริสเป็นคนผิวสี

ก่อนหน้านี้ ไบเดนบอกว่า เขาจะเผยผลการตัดสินใจสัปดาห์แรกของเดือน ส.ค. “เลือกได้เมื่อไหร่ผมจะบอก” ไบเดนกล่าวกับนักข่าว แต่ในมือของเขากลับมีกระดาษโน้ตเขียนคำว่า “คามาลา แฮร์ริส” พร้อมคำบรรยายด้านล่าง “ไม่ขี้อิจฉา ช่วยหาเสียงดีมาก น่าเคารพยิ่ง” ไม่ว่านี่จะเป็นการกระทำโดยจงใจหรือบังเอิญ แต่สื่อก็เก็บภาพไว้ได้

จากนั้นก็มีดราม่าเกิดขึ้นเมื่อเว็บไซต์ข่าวที่น่าเชื่อถืออย่าง โพลิติโค เอาไปรายงานว่า แฮร์ริสคือคนที่ไบเดนเลือก ต่อมาข่าวนี้ถูกลบอย่างรวดเร็ว แต่คนวงในวอชิงตันได้เห็นข่าวแล้ว

แฮร์ริสทำงานเพื่อส่วนรวมมามาก โดยเฉพาะในตำแหน่งอัยการรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่เธอแสดงบทบาทในฐานะนักต่อสู้อาชญากรรม

นอกเหนือจากความเป็นลูกผสมจาเมกากับอินเดีย เธอได้พิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นคนสู้งาน และข้อเท็จจริงที่ว่า แฮร์ริสอายุเพียง 55 ปี เธอจึงมีโอกาสสูงมาก

เอียน แซมส์ อดีตโฆษกแฮร์ริสเผยผ่านทวิตเตอร์ว่า เธอทำให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กลัว

“เขาไปไม่เป็นเลยเมื่อเจอผู้หญิงเก่ง”

ส่วนทรัมป์ยกย่องชมเชยแฮร์ริสต่อหน้าผู้สื่อข่าว

“ผมคิดว่าเธอเป็นตัวเลือกที่ดี คามาลา แฮร์ริส เป็นตัวเลือกที่ดี”ผู้นำสหรัฐกล่าว

คู่ชิงรองประธานาธิบดี เป็นเกมที่ต้องเล่นกันทุกๆ 4 ปีในวอชิงตัน แต่รอบนี้เดิมพันสูงกว่าปกติ เนื่องจากไบเดน ที่ถ้าชนะเลือกตั้งในวัย 78 ปี จะเป็นประธานาธิบดีสูงอายุสุดของสหรัฐ บอกใบ้ว่า เขาอาจจะไม่ลงเลือกตั้งสมัยที่ 2 เท่ากับว่ารองประธานาธิบดีของเขาจะเป็นตัวเลือกสำคัญ ได้เป็นตัวแทนพรรคลงเลือกตั้งประธานาธิบดีคนต่อไป

ยิ่งไปกว่านั้น ไบเดนที่มีคะแนนนิยมนำประธานาธิบดีทรัมป์จากพรรครีพับลิกันอยู่มาก ยังเพิ่มกระแสความสนใจด้วยการประกาศล่วงหน้าว่า จะเลือกผู้หญิงมาเป็นคู่ชิงรองประธานาธิบดี

ถือเป็นครั้งที่ 3 ของประวัติศาสตร์สหรัฐ ที่ผู้หญิงได้รับเลือกมาเป็นผู้สมัครรองประธานาธิบดี โดยสองคนก่อนหน้า ได้แก่ เจอรัลดีน เฟอร์ราโร เมื่อปี 2527 และซาราห์ เพลินในปี 2551