กมธ.ฝ่ายค้านปูด นายพล ป. สั่งโหวตผ่านงบฯเรือดำน้ำ

นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.)ครุภัณฑ์ ไอซีที รัฐวิสาหกิจ และทุนหมุนเวียน ในคณะกมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 เปิดเผยว่า อนุกมธ.ครุภัณฑ์ฯ โดยนายสุพล ฟองงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธาน จะเข้ารายงานการพิจารณางบจัดซื้อเรือดำน้ำ จากประเทศจีน ของกองทัพเรือ จำนวน 2 ลำ วงเงิน 22,500 ล้านบาท ต่อ กมธ.งบประมาณชุดใหญ่ให้พิจารณาในวันที่ 26 ส.ค. เวลา 13.00

“ผมในฐานะที่เป็นโฆษก กมธ.งบ ชุดใหญ่ จะขอให้ กมธ.ฯ พิจารณาทบทวนมติใหม่ เพราะการลงคะแนนในที่ประชุมอนุกมธ.เมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา คะแนนออกมาเท่ากัน 4 ต่อ 4 แต่ประธานอนุกมธ.กลับลงคะแนนด้วย เพราะความจริงแล้ว ประธานอนุ กมธ. ต้องวางตัวเป็นกลาง ไม่ใช่มติช่วยฝั่งรัฐบาล ผมนั่งเป็นรองประธานอยู่ข้างๆ นายสุพล ทราบว่า มีคนในรัฐบาลระดับนายพล เป็นบิ๊ก “ป.” โทรศัพท์มาสั่งให้ลงมติอีกเสียงหนึ่งให้กับฝั่งรัฐบาลเพราะโดยปกติแล้วหากคะแนนเท่ากันตัดสินไม่ได้ก็ต้องเสนอให้ กมธ.ชุดใหญ่ เป็นผู้พิจารณาก็จบ" นายยุทธพงศ์ กล่าว

นายยุทธพงศ์ กล่าวต่อว่า ตนจะเสนอให้ กมธ.งบ ชุดใหญ่ทบทวนมติของอนุกมธ.ฯ ถ้ากมธ.ชุดใหญ่เห็นชอบตามมติของอนุกมธ.ฯ ตนก็จะขอให้ที่ประชุม กมธ.งบชุดใหญ่ ลงมติแบบเปิดเผย จะได้เห็นว่า ส.ส.ที่อยู่ในกมธ.งบคนไหน เห็นว่าเรือดำน้ำสำคัญกว่าปัญหาปากท้องของประชาชน จะได้ให้ประชาชนสั่งสอนในการเลือกตั้งครั้งต่อไป

เมื่อถามว่า จะมั่นใจได้อย่างว่า กมธ.งบชุดใหญ่จะกลับมติของอนุ กมธ.ทั้งที่เสียงของรัฐบาลมากกว่า นายยุทธพงศ์ เชื่อว่า ส.ส.ส่วนใหญ่ในกมธ.งบ ต้องคิดถึงประชาชนต้องมาก่อนเรือดำน้ำ ถ้าไม่ซื้อเรือก็ไม่มีใครตายสักคน แต่ตอนนี้ประชาชนกำลังฆ่าตัวตายเยอะ เพราะปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาปากท้อง ถ้ารัฐบาลยังเดินหน้าจัดซื้อเรือดำน้ำ ตนก็จะได้เชิญชวนประชาชนออกไปเดินขบวนไล่รัฐบาล จะรอดูว่านายกรัฐมนตรีไทย จะรักประชาชนคนไทยหรือรักเรือดำน้ำของจีน 2 ลำ