'ธนกร' จวก 'ธนาธร-ปิยบุตร' อย่าใช้ม็อบนักศึกษากดดัน มีแต่จะทำให้ประเทศวุ่นวาย
"ธนกร" หนุน พท. ตั้ง ส.ส.ร.แก้ รธน. จวก "ธนาธร-ปิยบุตร" อย่าใช้ม็อบนักศึกษากดดัน ชี้มีแต่จะทำให้ประเทศวุ่นวาย ชี้คิดต่างได้ แต่อย่าแตกแยก
เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 63 นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และอดีตโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า สถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มนักศึกษามีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ตนเป็นห่วงความขัดแย้งในสังคม โดยเฉพาะความพยายามแบ่งแยกประชาชน อยากให้พรรคการเมืองและกลุ่มการเมืองหยุดขยายผลสร้างความเกลียดชังให้เกิดขึ้นในสังคม การแสดงความเห็นต่างทางการเมืองนั้นเป็นเรื่องปกติตามระบอบประชาธิปไตย แต่ไม่ควรแตกแยก เพราะเราเป็นคนไทยด้วยกัน ที่ผ่านมาเรามีบทเรียนมาแล้วว่าความขัดแย้งจะนำไปสู่ความรุนแรง และจะสร้างความเสียหายให้กับประเทศมากมาย บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยแล้ว การเปลี่ยนแปลงต่างๆ จึงต้องเป็นไปตามครรลองประชาธิปไตย
นายธนกร กล่าวอีกว่า วันนี้แค่มีความเห็นทางการเมืองต่างกันก็ถูกสังคมโซเชียลถล่มแทบไม่มีชิ้นดี แทบไม่มีที่ยืน ต้องตกงาน ทั้งที่โดยความชอบธรรมแล้วเราเห็นต่างกันได้ แต่ไม่ควรแตกแยก หรือใช้ถ้อยคำหยาบคายโจมตีกันไปมา ไม่ว่าเราจะเป็นคนรุ่นใหม่หรือรุ่นเก่าก็ไม่สมควรมีพฤติกรรมแบบนี้ ทั้งนี้ อยากให้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการกลุ่มก้าวหน้า ซึ่งเป็นแกนหลักของกลุ่มคนรุ่นใหม่นั้น ช่วยเป็นแบบอย่างที่ดี ช่วยทำความเข้าใจกับสมาชิก อย่าพยายามปลุกปั่นวางหลักการที่ผิด หรือก่อให้เกิดการแบ่งข้างประชาชน ที่สำคัญ อย่าให้มีการก้าวล่วงสถาบันอันเป็นที่รักและศรัทธาของพี่น้องคนไทย นายธนาธรและนายปิยบุตรควรเสนอนโยบายต่างๆ ที่จะพัฒนาประเทศหรือสร้างความเจริญให้กับประเทศจะดีกว่า
นายธนกร กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่นายปิยบุตรกดดันให้ส.ส.แก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา256 ควบคู่กับการปิดสวิตส.ว. ยกเลิกมาตรา272 โดยใช้ม็อบนักศึกษามากดดันนั้น วันนี้เชื่อว่าทุกภาคส่วนเห็นด้วยที่จะให้มีการแก้รัฐธรรมนูญโดยการตั้งส.ส.ร.โดยให้ประชาชนมาร่วมร่าง แต่แนวคิดสุดโต่งของนายปิยบุตรที่จะใช้ม็อบนักศึกษามากดดันนั้นมีแต่จะก่อให้เกิดความขัดแย้งอีก ทำไมไม่ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน เมื่อทุกฝ่ายก็เห็นด้วยแล้ว หรือมีอะไรแอบแฝงหรือไม่ ประเทศยังขัดแย้งไม่พออีกหรือ อยากให้คิดถึงประเทศกับคนไทยบ้าง อย่าทำเพียงสนองตัณหาตัวเองอย่างเดียว อย่างไรก็ตาม ตนเห็นด้วยกับพรรคเพื่อไทย ที่มีมติให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยการแก้มาตรา 256 เปิดทางให้ตั้งส.ส.ร.เพื่อให้ประชาชนมาร่วมร่าง โดยไม่แก้มาตรา272 ในขณะนี้