ต่างชาติถล่มขาย ‘หุ้นไทย’ เผย 3 วันเท 1.3 หมื่นล้าน
“นักลงทุนต่างชาติ”ขายสุทธิหุ้นไทย 6.4 พันล้านบาท ทิ้ง3 วันติดรวม1.3 หมื่นล้าน โบรก ชี้ “กังวลเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้า ราคาหุ้นแพง การเมืองในประเทศ เอ็มเอสซีไอลดน้ำหนัก” บล.ทิสโก้ คาดยังขายต่อเนื่อง
ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ (31ส.ค.) ปรับตัวลดลงแรงในช่วงบ่ายโดยปรับตัวลงต่ำสุดที่ 1,308.73 จุดก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1,310.66 จุด ลดลง 12.65 จุด หรือ 0.96% จากหลายปัจจัยทั้ง MSCIปรับลดน้ำหนัก แวลูเอชั่นหุ้นไทยแพง กังวลการเมืองในประเทศ เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้า หวั่นโควิดระบาด 2รอบ รวมถึงความตึงเครียดระหว่างสหรัฐจีน
ส่งผลนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 6,407.80 ล้านบาท ซึ่งขายติดต่อกันเป็นวันที่ 3 รวม13,295.16 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 1,311.39 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไปในประเทศซื้อสุทธิ 4,909.05 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 187.36 ล้านบาท
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า คาดนักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยถึง 6.4 พันล้านบาท ซึ่งมาจากหลายปัจจัยรวมกัน ทั้งMSCI ปรับลดน้ำหนักหุ้นไทย ความกังวลเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้ช้า และค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น มีผลกระทบต่อการส่งออกยิ่งกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ความกังวลปัจจัยการเมืองในประเทศที่ในเดือนก.ย.จะมีน้ำหนักกดดันดัชนีมากขึ้นจากการชุมนุมใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 19 ก.ย. พร้อมหวั่นจะเกิดการระบาดของโควิด-19 รอบ 2 หลังจากที่ประเทศเพื่อนบ้านมีผู้ติดเชื้อมากขึ้น ทำให้เริ่มมีการพิจารณาจะปิดด่านชายแดน นอกจากนี้ หลังประกาศผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน (บจ.)ไตรมาส2ปี 2563 กำไรออกมาไม่ดี ทำให้แวลูเอชั่นตลาดหุ้นไทยแพง ไม่น่าสนใจ จึงทำให้นักลงทุนต่างชาติมีการปรับพอร์ตขายหุ้นไทยออกมา
ทั้งนี้คาดว่านักลงทุนต่างชาติยังคงทิศทางขายหุ้นไทยต่อเนื่องเพราะ ยังไม่มีปัจจัยบวกเข้ามาหนุนตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน(ม.ค.-ส.ค.63)นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่องรวมมูลค่า254,484.69 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับปี 2561 ที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิตลาดหุ้นไทยทำสถิติสูงสุด (นิวไฮ) ที่ 2.87 แสนล้านบาท
สำหรับแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ (1ก.ย.)คาดว่าตลาดหุ้นไทยจะรีบาวด์ได้ หลังปรับตัวลงแรงวานนี้ มองแนวรับที่ระดับ 1,293 จุด แนวต้านที่ระดับ 1,315-1,320 จุด
นายสุนทร ทองทิพย์ ผู้อำนวยการอาวุโส บล.กสิกรไทย เปิดเผยว่า การปรับตัวลงของดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันนี้น่าจะถูกกดดันจากแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งขายออกมา 6.4 พันล้านบาท โดยส่วนหนึ่งเป็นผลจากการปรับพอร์ตลงทุนตามดัชนี MSCI ซึ่งเดิมทีคาดว่าจะมีการปรับลดน้ำหนักหุ้นไทย 0.01% หรือราว 600 กว่าล้านบาท
อย่างไรก็ตาม แรงขายที่ออกมามากกว่าตัวเลขที่คาดการณ์ไว้ อาจจะเป็นเหตุผลจากเรื่องของการเมืองภายในประเทศ ซึ่งมีความไม่แน่นอนเพิ่มสูงขึ้น ขณะเดียวกันเศรษฐกิจภายในประเทศยังมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ช้า เพราะประเทศไทยพึ่งพิงรายได้จากต่างประเทศทั้งทางตรงและทางอ้อมรวมกันราว 20% ในขณะที่การปิดประเทศยังคงดำเนินต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ประเด็นความกังวลในเรื่องของโควิด-19 ซึ่งระบาดหนักในเมียนมา อาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยกดดัน เพราะประเทศไทยมีการนำเข้าแรงงานจากเมียนมาค่อนข้างมาก จึงมีความเสี่ยงในเรื่องของการแพร่ระบาด ขณะเดียวกันอาจจะกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานได้ รวมถึงต้นทุนค่าแรงที่อาจจะเพิ่มสูงขึ้น
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล. ทิสโก้ กล่าวว่า การซื้อขายของนักลงทุนต่างชาติในตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้ม (เทรนด์)ขายสุทธิต่อเนื่อง ซึ่งในช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมา (27-28 ส.ค.)นักลงทุนต่างชาติขายสูงถึงวันละกว่า 3 พันล้านบาท โดยคาดว่าเกิดจากความกังวลความตึงเครียดในทะเลจีนใต้ ระหว่างสหรัฐกับจีนที่ยังไม่คลี่คลาย ประกอบกับ MSCI ปรับลดน้ำหนักหุ้นไทย รวมถึงเดือนนี้ปัจจัยการเมืองในประเทศมีน้ำหนักในเชิงลบมากขึ้น จึงยิ่งเป็นแรงหนุนให้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิมากขึ้น
สำหรับขณะนี้ยังไม่มีปัจจัยหนุนให้นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิ เพราะ ประเทศไทยยังอยู่ในช่วงที่ใช้การประกาศใช้ พระราชกำหนดการบริหารราชการ (พ.ร.ก.)ในสถานการณ์ฉุกเฉิน จึงทำให้กองทุนบางแห่งที่มีนโยบายไม่ลงทุนในประเทศที่มีการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ส่งผลไม่มีเม็ดเงินลงทุนใหม่เข้ามา