ล็อกเป้า 3 ปม 'ซักฟอกนายกฯ' - ขู่เปิดหลักฐานจีทูจีเรือดำน้ำเก๊

ล็อกเป้า 3 ปม 'ซักฟอกนายกฯ' - ขู่เปิดหลักฐานจีทูจีเรือดำน้ำเก๊

ฝ่ายค้านล็อกเป้า 3 ปมซักฟอกนายกฯพรุ่งนี้ “ยุทธพงศ์” ขู่เปิดหลักฐานจีทูจีเรือดำน้ำเก๊ ด้านศาลอาญา สั่งปล่อยตัว“ทนายอานนท์-ไมค์ ระยอง” เพิ่มวงเงินประกันเป็น2แสนบาท-รายงานตัวทุก15 วัน

ขณะที่ตร.โต้แอมเนสตี้ ยันเคารพสิทธิกลุ่มผู้ชุมนุม-ดำเนินการเอาผิดตามกฎหมาย

ความเคลื่อนไหวการเตรียมความพร้อมก่อนอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเรื่องวิกฤตทางเศรษฐกิจและวิกฤตทางการเมืองในวันที่ 9 ก.ย.นี้

ล่าสุดนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ฐานะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านกล่าวถึงการเตรียมพร้อมของส.ส.พรรคเพื่อไทยว่า พรรคฝ่ายค้านได้รับเวลาอภิปราย 10 ชั่วโมง และได้จัดสรรให้พรรคร่วมฝ่ายค้านให้อภิปราย โดยส่วนของพรรคเพื่อไทยได้รับเวลาทั้งสิ้น 310 นาที มีส.ส.อภิปราย 11-12 คน อภิปรายในสาระสำคัญ 3 ประเด็น คือ 1.วิกฤตเศรษฐกิจภาพรวม ซึ่งรัฐบาลล้มเหลวทางด้านแก้ไข รวมถึงมีความเสี่ยงต่อการทุจริตในภาระงานด้านต่างๆ , 2.ปัญหาระดับเจาะลึก เช่น ปัญหาสินค้าเกษตร แต่ละด้านและ 3.วิกฤตทางการเมือง

ทั้งนี้การอภิปรายของพรรคฝ่ายค้าน พุ่งเป้าไปที่นายกรัฐมนตรีโดยตรง และไม่เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะใช้วิธียุบสภา เพื่อให้เลือกตั้งใหม่ เพราะผลที่ได้ไม่คุ้มกับการเลือกตั้ง เนื่องจากหากเลือกตั้งภายใต้กติกาของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันจะได้คนเดิมเข้าสู่สภาฯ

ขู่เปิดหลักฐานจีทูจีเรือดำน้ำเก๊

เช่นเดียวกับนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย แถลงตอบโต้กองทัพเรือกรณีจัดซื้อเรือดำน้ำไทย ตนไม่ขอเถียงเรื่องทางยุทธการ แต่ที่ชี้แจงว่าการจัดซื้อเรือดำน้ำเป็นแบบจีทูจี โดยระบุว่าสัญญาของท่านถูกต้องนั้น ตนเห็นว่าสุดท้ายต้องไปจบที่รัฐธรรมนูญ โดยในมาตรา 178 ระบุชัดว่าหนังสือสัญญาอื่นที่อาจจะกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สังคม จะต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา

“จึงขอถามว่า จะมีกฎหมายไหนใหญ่กว่ารัฐธรรมนูญ เพราะจากการที่ผมตรวจสอบจนถึงวันนี้ ยังไม่เคยมีสัญญาจีทูจีเรือดำน้ำให้รัฐสภาเห็นชอบเลย ซึ่งยืนยันว่าคู่สัญญานั้น ไม่ใช่รัฐบาลจีนแน่นอน และผมจะเปิดหลักฐานเด็ดในการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ในวันที่ 9 กันยายนนี้ จะได้พิสูจน์ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของรัฐบาลต่อรัฐบาล และไม่ใช่จีทูจี ซึ่งย้ำว่าถ้าเปิดมาจะกระเทือนไปถึงการจัดซื้อเรือดำน้ำลำที่ 1 แน่นอน” นายยุทธพงศ์ กล่าว

ศาลปล่อยตัว“อานนท์-ไมค์ ระยอง”

วันเดียวกันศาลอาญา เผยแพร่เอกสารข่าว ระบุว่า เมื่อวันที่ 3 ก.ย.ศาลอาญานัดไต่สวนคดีหมายเลขดำ ที่พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลสำราญราษฎร์ ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราวนายอานนท์ นำภาและนายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ แกนนำกลุ่มเยาวชนปลดแอก กรณีร่วมชุมนุมซึ่งเป็นการกระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนเงื่อนไขของศาลที่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว

ทั้งนี้ทนายความผู้ต้องหาทั้งสองยื่นคำคัดค้านคำร้องของพนักงานสอบสวนศาลได้พิเคราะห์ถึงอายุอาชีพและพฤติการณ์แห่งการกระทำที่ถูกกล่าวหาให้เพิกถอนการปล่อยชั่วคราวสมควรให้โอกาสแก่นายภาณุพงศ์โดยได้กำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมให้มีประกันในวงเงินเพิ่มเป็น 2 แสนบาทโดยไม่ต้องมีหลักประกันและให้นายภาณุพงศ์มารายงานตัวทุก 15 วันต่อมาในวันนี้ 7 ก.ย.พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลสำราญราษฎร์ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ยกเลิกการฝากขังนายอานนท์และนายภาณุพงศ์โดยระบุเหตุผลในคำร้องว่าได้ทำการสอบสวนมาพอสมควรแล้วจึงไม่จำเป็นต้องขังผู้ต้องหาทั้งสองระหว่างการสอบสวนอีกต่อไป

ตร.ยันจับม็อบยึดกม.-เคารพสิทธิ

ส่วนกรณีมีการเชิญชวนนักกิจกรรมและผู้สนับสนุนส่งจดหมายเรียกร้องให้ทางการไทย ยกเลิกการตั้งข้อกล่าวหาต่อแกนนำและขอให้ยุติการขัดขวางการร่วมชุมนุมของประชาชนที่เป็นการปิดกั้นการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลนั้น ล่าสุดกองสารนิเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยแพร่เอกสารข่าวชี้แจงว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยึดมั่นในหลักรัฐธรรมนูญ หลักกฎหมาย และเคารพต่อหลักสิทธิมนุษยชน เสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบ การแสดงออก และการรับฟังความคิดเห็นการดำเนินการที่ผ่านมาของการผู้ชุมนุมมีการกระทำผิดกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนพิจารณาพฤติการณ์การกระทำต่างๆที่เกิดขึ้น เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามกรอบกฎหมาย มีความยุติธรรม โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้

ก้าวไกลเตือนรปห.เจอพลังมวลชน

ด้านนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม.และโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวการรัฐประหารว่า ประเทศไทยมีความแน่นอนอยู่หนึ่งอย่าง เมื่อใดที่ประชาชนทนไม่ไหว ข่าวการรัฐประหารมักถูกปล่อยออกมาเสมอ ความแตกต่างของกระแสข่าวการรัฐประหารในช่วงเวลานี้กับในอดีตที่ผ่านมา คือไม่มีใครรู้สึกหวาดกลัวต่ออำนาจปลายกระบอกปืนอีกต่อไป หากมีการยึดอำนาจเกิดขึ้นเชื่อเหลือเกินว่า สิ่งที่ท่านไม่เคยได้เห็นก็จะได้เห็นเมื่อไรที่ตัดสินใจยึดอำนาจวันนี้ท่านจะได้เห็นพลังของประชาชนที่ลุกขึ้นและไม่ยินยอมน้อมรับอำนาจนั้นอีกต่อไป

“หมอวรงค์” อัดชักศึกเข้าบ้าน

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้ากลุ่มไทยภักดี กล่าวว่า กรณีองค์กรนิรโทษกรรมสากล “แอมเนสตี้”ออกมาเรียกร้องสิทธิให้กลุ่มผู้ชุมนุมต่อรัฐบาลไทยส่วนตัวมองว่า เป็นทฤษฎีสมรู้ร่วมคิดเพราะหากย้อนไปดูจะพบว่ามีความสัมพันธ์กัน ทุกอย่างเป็นไปตามตำราการชักศึกเข้าบ้านด้วยการดึงเอาองค์กรเอ็นจีโอต่างประเทศเข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุนการชุมนุมของกลุ่มนี้เพื่อกดดันรัฐบาล

อย่างไรก็ดีเชื่อว่า การนัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 19 ก.ย.นี้เงื่อนไขต่างๆยังไม่สุกงอมพอที่จะก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลง เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ในสังคมคงรู้ว่าอะไรควร หรือไม่ควร และอย่าเปิดโอกาสให้คนนอกเข้ามาแทรกแซง

“อาทิตย์” เสนอดึง“อนันท์”นั่งนายกฯ

นายอาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต และอดีตประธานรัฐสภา โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กโดยระบุว่า ประเทศชาติถึงทางตันแล้ว รัฐบาลต้องตระหนักรู้ ไม่ดันทุรัง และ ไม่รัฐประหาร นายกรัฐมนตรีต้องเสียสละลาออก ให้สภาเลือกนายกรัฐมนตรีจาก“คนนอก”ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 272 วรรค 2 ตั้งรัฐบาลมืออาชีพไม่มีโควตาพรรคเพื่อสมานฉันท์ปฏิรูปประเทศ กอบกู้ฟื้นฟูเศรษฐกิจ ร่าง รธน. ใหม่สู่ระบอบสังคมธรรมาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ภายใน 2 ปี

“ขอเสนอคุณอานันท์ ปันยารชุนเป็นนายกรัฐมนตรีคนนอกจัดตั้งรัฐบาลสมานฉันท์ ปฏิรูปประเทศ กอบกู้ฟื้นฟูเศรษฐกิจ และร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ภายใน 2 ปี” นายอาทิตย์ ระบุ