‘คอมเซเว่น-เอสพีวีไอ’เฮ! ‘ไอโฟน5จี’ดันยอดขาย
เรียกเสียงฮือฮา! ไม่น้อย หลังมีข่าวว่า “แอปเปิล” บริษัทไอทีชั้นนำของโลก เตรียมเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ป้ายแดงตัวล่าสุด “ไอโฟน 12” ซึ่งถือเป็นไอโฟนรุ่นแรกที่รองรับการใช้งานเทคโนโลยี 5จี ในเดือน ต.ค. นี้
ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของแอปเปิลที่ทุกปีจะมีการเปิดตัวไอโฟนรุ่นใหม่ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในช่วงเดือน ก.ย. แต่เนื่องจากปีนี้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งสถานการณ์ในหลายประเทศยังน่าวิตก ทำให้การเปิดตัวสินค้าใหม่อาจต้องล่าช้าออกไปบ้าง
แต่เชื่อว่าบรรดาสาวกแอปเปิลทั่วโลก ต่างตั้งหน้าตั้งตา รอยลโฉมไอโฟนรุ่นใหม่ และบรรดาแก็ตเจ็ตต่างๆ อย่างใจจดใจจ่อ ส่วนจะว้าว! แค่ไหนคงต้องรอติดตาม เพราะปีนี้คาดกันว่าจะมีการเปิดตัว “ไอโฟน 5จี” พร้อมกันถึง 4 รุ่น
โดยเป็นรุ่นมาตรฐาน 2 รุ่น ขนาดหน้าจอ 5.4 นิ้ว และ 6.1 นิ้ว และรุ่นไฮเอนด์อีก 2 รุ่น หน้าจอ 6.1 นิ้ว และ 6.7 นิ้ว ให้สาวกได้เลือกช้อปกันอย่างจุใจ นอกจากนี้ ยังจัดเต็มเปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ มาแขย่าตลาดและเงินในกระเป๋าในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่อีกเพียบ ทั้งแอปเปิล วอทช์, ไอแพด แอร์ และโฮมพอด
แม้ที่ผ่านมายอดขายของแอปเปิลจะถูกโควิด-19 เล่นงานซะอ่วม เพราะส่งผลกระทบโดยตรงต่อกำลังซื้อ ประกอบกับหน้าร้านที่ต้องปิดให้บริการชั่วคราวในทุกสาขาทั่วโลก แต่การที่แอปเปิลยังคงเป้าการผลิตไอโฟนรุ่นใหม่ไว้ราว 75-80 ล้านเครื่อง สอดคล้องกับตัวเลขที่เคยสั่งผลิตในช่วงหลายปีที่ผ่านมา น่าจะการันตีได้ระดับหนึ่งว่ากำลังซื้อยังมี
เพราะในวิกฤตยังพอมีโอกาส แม้โควิด-19 จะสร้างความเสียหายอย่างหนักต่อเศรษฐกิจทั้งโลก แต่ก็ทำให้พฤติกรรมหลายๆ อย่างเปลี่ยนไป ยิ่งช่วงที่มีการระบาดหนักๆ ต้องอยู่บ้าน “เวิร์ค ฟรอม โฮม” ส่งผลให้การใช้งานออนไลน์โตกระฉูด ยิ่งการมาของ 5จี น่าจะทำให้อุตสาหกรรมคึกคักมากขึ้นไปอีก
จึงไม่แปลกใจที่หลายคนดูจะตื่นเต้นกับไอโฟนใหม่ของแอปเปิล ซึ่งจะเข้ามาช่วยเติมเต็มให้การใช้งาน 5จี สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น คาดว่าหากแอปเปิลจัดงานเปิดตัวในเดือน ต.ค. สินค้าจะเข้าไทยในช่วงปลายปีพอดี และคงสร้างความคึกคักไม่น้อย เพราะเป็นช่วงฤดูส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
บรรดาค่ายมือถือ ตัวแทนแอปเปิลในประเทศไทย รวมทั้งบริษัทแม่ที่เข้ามาเปิดแฟล็กชิฟสโตร์ น่าจะมีการจัดกิจกรรมทางการตลาด เปิดตัวสินค้าอย่างยิ่งใหญ่ อัดแคมเปญ โปรโมชั่น สู้กันน่าดู เพื่อกระตุ้นยอดขายที่ซบเซามาตั้งแต่ต้นปี
ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลในประเทศไทย โดยเฉพาะไอโฟนมีการจำหน่ายผ่านหลายช่องทาง ทั้งค่ายมือถือ 3 แบรนด์ใหญ่ “เอไอเอส-ทรู-ดีแทค” ขายทั้งเครื่องเปล่าและพ่วงโปรโมชั่นการใช้งาน นอกจากนี้ ยังขายผ่านตัวแทนจำหน่าย รายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย คือ บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 ผ่านร้าน “Studio 7” ปัจจุบันมีทั้งหมด 102 สาขาทั่วประเทศ
แบ่งเป็น ต่างจังหวัด 69 สาขา, กรุงเทพและปริมณฑล 27 สาขา และพื้นที่กรุงเทพชั้นในอีก 6 สาขา โดยสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 60%, 30% และ 10% ตามลำดับ ซึ่งขณะนี้ทุกสาขากลับมาเปิดให้บริการตามปกติแล้ว หลังต้องปิดชั่วคราวในช่วงที่มีการล็อกดาวน์ นอกจากนี้ ยังมีศูนย์บริการตรวจเช็คสภาพและซ่อมผลิตภัณฑ์ของแอปเปิล “iCare” อีก 27 สาขา รวมทั้งยังขายผ่านร้านค้าอื่นๆ ของบริษัทที่มีอยู่ 779 สาขา ณ สิ้นไตรมาส 2
บริษัท เอส พี วี ไอ จำกัด (มหาชน) หรือ SPVI เป็นอีกหนึ่งตัวแทนของแอปเปิลในประเทศไทย ผ่านร้าน “iStudio & iBeat by SPVI” ทั้ง 9 สาขา และกระโดดลงไปเจาะตลาดนักเรียนนักศึกษา ด้วยการเปิดร้าน “U • Store” ในมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วประเทศ ปัจจุบันมี 16 สาขา และเตรียมเปิดอีก 4 สาขา ในช่วงที่เหลือของปีนี้ และศูนย์ซ่อม “iCenter” อีก 5 สาขา
ส่วนบริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าไอโฟนและไอแพดผ่าน “Jaymart Shop” ด้านบริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX เป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์แอปเปิลให้กับดีลเลอร์ทั่วประเทศ ซึ่งบริษัทมั่นใจว่ายอดขายในช่วงไตรมาสสุดท้ายจะกลับมาเติบโตอย่างโดดเด่น เพราะจะมีมือถือรุ่นใหม่เปิดตัวหลายรุ่น
การเปิดตัวโทรศัพท์มือถือเรือธงรุ่นใหม่ๆ ของค่ายต่างๆ โดยเฉพาะแบรนด์ยักษ์ใหญ่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มักสร้างยอดขายได้อย่างน่าประทับใจ แม้ตัวผลิตภัณฑ์อาจไม่หวือหวาหรือมีฟังก์ชั่นใหม่เพิ่มมากมายก็ตาม แต่ปีนี้แอปเปิลมาพร้อมกับเทคโนโลยี 5จี ซึ่งก้าวกระโดดไปอีกขั้นหนึ่งจากโทรศัพท์มือถือรุ่นปัจจุบัน ทำให้บรรดาผู้ประกอบการหวังว่ากระแสตอบรับน่าจะดีเช่นกัน
ถือเป็นปัจจัยบวกส่งท้ายปี หนุนราคาหุ้นและผลประกอบการที่บาดเจ็บสาหัสในช่วงครึ่งปีแรกจากพิษของโควิด-19 เชื่อว่าจุดต่ำสุดของปีได้ผ่านพ้นไปแล้ว ไตรมาส 3 จะเริ่มทยอยฟื้นตัว และจะไปพีคที่สุดในช่วงไตรมาส 4