หอการค้าไทย หวังรัฐเร่งอัดงบกระตุ้นกำลังซื้อ หนุน จีดีพี ไตรมาส2/64 เป็นบวก
หอการค้าไทย เผย ดัชนีเชื่อมั่นเศรษฐกิจ ส.ค.ดีขึ้น เหตุรัฐคลายมาตรการล็อกดาวน์หลังโควิด-19 คลี่คลาย หวังเร่งกระตุ้นกำลังซื้อ หนุน จีดีพี ไตรมาส2ปีหน้าพลิกเป็นบวก
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า การสำรวจกลุ่มตัวอย่างจากประชาชนทั่วไป 2,242 คน พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม ส.ค.63 เท่ากับ 43.1 เพิ่มขึ้นจากเดือน ก.ค. อยู่ที่ 42.6 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำ เท่ากับ 49.1 เพิ่มขึ้นจาก 48.4 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต เท่ากับ 60.4 เพิ่มขึ้นจาก 59.3
ขณะที่ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคโดยรวมแทบทุกรายการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 หลังรัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการให้ธุรกิจสามารถกลับมาดำเนินการได้ในระยะที่ 1 ถึง 5 ตั้งแต่เดือนพ.ค.เป็นต้นมา
ประกอบกับการที่รัฐบาลออกมาตรการดูแลและเยียวยาผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 ทั้งมาตรการด้านการเงินและการคลัง โดยผู้บริโภคยังมีความกังวลสูงเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจและการว่างงานในอนาคตที่เกิดจากผลกระทบเชิงลบจาก COVID-19 ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค. 2563 อยู่ที่ระดับ 51.0 เพิ่มขึ้นจาก 50.1 ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4
อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคยังกังวลเศรษฐกิจโดยรวมน่าจะปรับตัวเข้าสู่ภาวะถดถอยจากวิกฤติโควิดทั่วโลก อาจส่งผลเชิงลบต่อกำลังซื้อภายในประเทศ ภาคการท่องเที่ยว ภาคการส่งออก ธุรกิจโดยทั่วไป และการจ้างงานในอนาคต ซึ่งเป็นปัจจัยบั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทั้งในปัจจุบันและในอนาคตอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น จึงคาดว่าผู้บริโภคยังคงชะลอการใช้จ่ายไปอย่างน้อยจนถึงไตรมาส 4 ของปีนี้
นายธนวรรธน์ ยังกล่าวถึงมาตรการ “คนละครึ่ง” ที่กระตุ้นการบริโภคด้วยการให้เงิน 3,000 บาทแก่ประชาชน 1 5ล้านคน โดยใช้งบประมาณ 45,000 ล้านบาท ว่า จากการประเมินเบื้องต้น จะทำให้มีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มถึง 90,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ ให้เพิ่มขึ้นได้ 1-1.5% โดยเงินจะหมุนเวียนไปในผู้ที่มีรายได้ปานกลางถึงล่าง อย่างน้อยสองรอบ รวมเป็นเกือบ 2 แสนล้านบาท
ดังนั้น มองว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้ จะมีโอกาสจะติดลบน้อยลงที่ติดลบ 6.5%-8.5 % โดยมีค่ากลางอยู่ที่ 7.5 % จากก่อนหน้าที่คาดไว้ติดลบ 8% ถึงติดลบ 10% ซึ่งต้องรอดูมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่กำลังจะออกมาว่าจะมีรายละเอียดอย่างไร
และเห็นว่าเศรษฐกิจไทยมีโอกาสที่จะกลับมาไม่ติดลบหรืออยู่ในระดับ 0% ได้ในช่วงไตรมาสแรกของปี2564 ส่วนไตรมาส2/2564 เศรษฐกิจน่าจะบวกได้เล็กน้อยจากฐานที่ต่ำในปีนี้