'อดีตรมว.คลัง' เสนอ 4 แนวทางแก้เศรษฐกิจ
ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เสนอ 4 แนวทางแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ยันไม่เห็นด้วยที่มีข้อเสนอให้รัฐบาลกู้เงินเพิ่มอีก 1 ล้านล้านบาทมาใช้จ่าย
ศาสตราจารย์ ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยที่มีข้อเสนอให้รัฐบาลกู้เงินเพิ่มอีก 1 ล้านล้านบาทมาใช้จ่าย และได้ตั้งข้อสังเกต และเสนอแนวคิดเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจแบบกว้างๆ ไว้ 4 แนวทาง ประกอบด้วย (1) ปรับค่าเงินบาทจาก 31บาท เป็น 35 บาท และแม้เราได้เงินจากส่งออก 1 ดอลลาร์เท่าเดิม แต่แลกได้เพิ่มอีก 4 บาท เพิ่ม 13% ต่อให้ส่งออกและท่องเที่ยวเท่าที่เป็นอยู่ ก็ได้เงินบาทเพิ่มขึ้น แต่จริงๆแล้ว ส่งออกจะดีขึ้น GDP จะติดลบน้อยลง ทั้งนี้ คนที่ส่งออกและรับนักท่องเที่ยวที่แท้จริง คือกรรมกรและชาวนา ดังนั้น เกือบทุกคนในประเทศไทยจะได้ประโยชน์
(2) คนไทยส่วนใหญ่ยังทำงานอยู่ 34 ล้านคน มีคนว่างงานตอนนี้ 4 ล้านคน หากรัฐบาลแจกเงินบ่อยๆ จะทำให้คนไทยเสียนิสัยเหมือน เวเนซุเอลา ซิมบับเว ฯลฯ คนจะเลิกทำงาน แล้ววันต่อ ๆ มา ก็มาเรียกร้องอีก ประเทศจะล่มจม
(3) นักอุตสาหกรรม ที่เรียกร้องรู้แต่ระดับ Micro ไม่รู้เรื่อง เศรษฐศาสตร์มหภาค คิดแต่เรื่องประโยชน์ตนเอง อยากให้รัฐบาลช่วยจ่ายค่าแรงโรงงานตนเอง
และ (4) ให้เปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศให้เต็มพื้นที่แบบจีน และเปิดการท่องเที่ยวกับจีนก่อน และประเทศในเอเชียต่อมา ให้ยอมรับว่ามึการติดเชื้อได้โควิดบ้าง ครอบครัวคนจนๆ อย่างคนไทย กลัวติดเชื้อมาก จนไม่มีรายได้ ตั้งหน้าตั้งตา ไปกู้เขามากินอย่างเดียว ครอบครัวต้องล่มจม
แนวคิดเรื่องระบบเศรษฐกิจมี 4 เครื่องยนต์ หากเศรษฐกิจแย่ ให้เพิ่มรายจ่ายภาครัฐ (G) และกระตุ้นการบริโภค(C) เพื่อเพิ่ม GDP นั้น ไม่ถูกต้อง เป็นเศรษฐศาสตร์ 101 ทำอย่างนี้มากๆ รัฐบาลและประชาชนจะมีหนี้สินล้นพ้นตัว ในระยะยาวประเทศจะไม่เจริญเติบโต เพราะต้องเอาเงินมาใช้หนี้
แต่วิชาเศรษฐศาสตร์ระดับสูงบอกว่า เศรษฐกิจไม่ดีนั้น เนื่องจาก ครอบครัวประเทศไทยขายสินค้าออกไปได้น้อย GDP จึงโตต่ำ ให้ลดราคาสินค้าให้แข่งขันให้ขายได้ คือลดค่าเงินบาทลง เพื่อครอบครัวประเทศไทยขายส่งออกและท่องเที่ยวได้มากขึ้น เมื่อราคาค่าเงินบาทแข่งขันได้ ก็จะขายได้มากมาย GDP จะเติบโตมากเป็น 10% ประเทศและประชาชนไทยจะร่ำรวย
"การเพิ่มตัว C หรือตัว G นั้นไม่ได้ช่วยเท่าไร เพราะนโยบายการคลังมีผลน้อยต่อ GDP (ดูรูป) โดยนโยบายการเงินมีผลมากกว่า และนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนมีผลมากที่สุดต่อ GDP โดยรัฐบาลไม่ต้องสร้างหนี้" ศ.ดร.สุชาติฯ กล่าวย้ำ